‘พัชรวาท’ จ่อรายงาน ’นายกฯ‘ ถึงมาตรการเชิงรุก ลดไฟป่า แก้ 'PM2.5' ภาคเหนือ
“พัชรวาท” ห่วง “ฤดูไฟป่า-ฝุ่นพิษ” จ่อ ลงพื้นที่ เชียงใหม่ 29 พ.ย.นี้ เตรียมรายงาน "นายกฯ" มาตรการด่วนรับมือไฟป่า-หมอกควัน- Pm 2.5 ภาคเหนือ สานพลังเครือข่ายดับไฟ พร้อมขอสนับสนุนอุปกรณ์ช่วยอาสาสมัครฯ
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 29 พ.ย.นี้ ตนจะเดินทางไป จ.เชียงใหม่ เพื่อลงพื้นที่และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน รวมถึงปัญหา PM 2.5 ร่วมกับคณะของนายกรัฐมนตรี โดยจะใช้โอกาสนี้รายงานสภาพปัญหาและมาตรการเชิงรุกที่กระทรวงฯ กำลังเร่งดำเนินการให้นายกรัฐมนตรีรับทราบ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน เพื่อลดปัญหาฝุ่นพิษในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ ที่ได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขเพื่อลดพื้นที่การเผาไหม้ซ้ำซาก ในพื้นที่ 10 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนแห่งชาติ และพื้นที่การเกษตรเผาไหม้ ซึ่งมีเป้าหมายลดพื้นที่ไฟไหม้ให้ได้ร้อยละ 50 จากปี 2566 พร้อมกำชับให้ตรึงพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟป่า การจัดระเบียบการเก็บหาของป่า โดยทำงานร่วมกับชาวบ้าน และดึงหมู่บ้านเครือข่ายดับไฟป่ามาร่วมดับไฟป่าด้วย โดยมีเป้าลดพื้นที่ไฟไหม้ลดลงร้อยละ 50 จากปี 2566 ซึ่งหากลดปัญหาการเผาป่าและไฟป่าลงได้ ก็จะช่วยลดปัญหาฝุ่นพิษตามไปด้วย
“ผมรู้สึกห่วงใยพี่น้องอาสาสมัครทุกคน เพราะจากข้อมูลพบว่า พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ภายใต้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 มีเครือข่ายอาสาสมัครป้องกันไฟป่าประมาณ 424 เครือข่าย ในแต่ละปีจะมีอาสาสมัครได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการเข้าร่วมดับไฟ ทางกระทรวงฯ จึงได้ขอรับการสนับสนุนผ้ากันไฟและสเปย์กันไฟจากภาคเอกชน นำมาแจกจ่ายเพื่อใช้ในภารกิจดับไฟป่า ป้องกันการบาดเจ็บและเสียชีวิตของพี่น้องอาสมัครได้” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
พล.ต.อ.พัชรวาท ยังกล่าวถึงการแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนด้วยว่า ที่ผ่านมาได้ประสานประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อร่วมกันดำเนินยุทธศาสตร์ฟ้าใส ทั้งสปป.ลาวและเมียนมา ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้พบกับมาดามบุนคำ วอละจิด รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมของ สปป.ลาว โดยได้มีการหารือกันในทุกมิติ ซึ่งทาง สปป.ลาวได้ตอบรับที่จะดำเนินยุทธศาสตร์ร่วมกันเป็นอย่างดี เพราะได้ตระหนักถึงปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน นอกจากนี้ ตนจะได้ถือโอกาสการลงพื้นที่ครั้งนี้ ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ด้วย โดยทราบว่ามีดอกไม้นานาพันธุ์ที่กำลังผลิบานต้อนรับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ที่น่าไปสัมผัส