‘ไทยสร้างไทย’ ปรับทีมไปต่อ  ไขปม ‘ศิธา’ เปลี่ยนเส้นทาง

พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ที่นำโดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เงียบหายเข้ากลีบเมฆไปสักระยะ ภายหลังเดินเกมพลาดผูกตัวเองไว้กับพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตกขบวนรถไฟสายพลิกขั้ว จนต้องมาอยู่ในขั้วฝ่ายค้าน

ส่งผลให้ “สุดารัตน์” และขุนพลไทยสร้างไทย ค่อนข้างผิดหวัง แต่ต้องเก็บซ่อนอารมณ์เอาไว้ รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมกลับมาวางเกมกันใหม่ เพราะ “บิ๊กเนม” หลายคนใน “ไทยสร้างไทย” เป็นมนุษย์พันธ์ุการเมืองขนานแท้

แม้โอกาสเข้าร่วมรัฐบาลชุดนี้ค่อนข้างยาก แต่ “บิ๊กเนม” บางคนยังหวัง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง “พรรคร่วมรัฐบาล” แตกคอกัน หรือเกมเร่งให้เปลี่ยนตัว “นายกฯ” อาจจะต้องทบทวนสถานะพรรคร่วมรัฐบาลกัน ถึงเวลานั้น “ไทยสร้างไทย” จึงจะมีโอกาส

ประจวบกับจังหวะที่ “แด๊ดดี้ปุ่น” น.ต.ศิธา ทิวารี ลาออกจากสมาชิกพรรคไทยสร้างไทย เปิดทางให้บรรดาขุนพลได้จัดวางระบบ-แนวทางกันใหม่

โดยจะมีการรื้อโครงการ “กรรมการบริหารพรรค” ใหม่ยกชุด “สุดารัตน์” จะถอยฉากไปช่วยงานเบื้องหลัง ไม่ขอรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อ

โดยในเร็วๆนี้จะมีการประชุมใหญ่พรรคไทยสร้างไทย เพื่อคัดเลือก “หัวหน้า-กก.บห.” ชุดใหม่ ขณะที่ “สุดารัตน์” อาจจะถอยไปเป็นประธานที่ปรึกษา เพื่อรักษาสถานะตัวเองเอาไว้

สำหรับแนวทางของพรรค ยังคงยืนหยัดแนวทางเดิม โดยจะเน้นผูกมิตรทางการเมืองมากขึ้น เดินทางสายกลาง ไม่สร้างศัตรู พร้อมแสดงว่าชัดเจนไม่สนับสนุนการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

อย่างไรก็ตามภารกิจหลักของ “หัวหน้าคนใหม่” อย่างแรกคือ ต้องตรึงขุนพลทั้ง บิ๊กเนม-โนเนม ที่คอยช่วยเหลืองานมาตลอด ให้อยู่กับพรรคต่อ เพราะลำพังที่เหลือกันอยู่ยังยากที่จะสู้ในสนามใหญ่ หากใครมาขอแยกวงออกไปอีก อาจจะส่งผลในระยะยาวได้

อ่านใจ “สุดารัตน์” ต้องการถ่ายโอน “ไทยสร้างไทย” ให้กับคนที่ไว้วางใจมากที่สุด แต่อาจจะมีปัจจัยเรื่อง “ทุน” เข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญ “สุดารัตน์” ลงแรงไปเยอะ ลงทุนไปไม่น้อย คงไม่ส่งไม้ต่อให้กับคนที่ตัวเองคอนโทรลไม่ได้

ด้านความสัมพันธ์กับ “ศิธา” แม้จะจากลากันไป แต่ความเป็น “มิตร” ทางการเมืองยังคงไว้เช่นเดิม จะไม่มีการกล่าวโทษใส่ร้ายกันให้เสียหาย แม้ที่ผ่านมาจะมีร่องรอยดีลร่วมรัฐบาลอยู่บ้าง แต่ติดอยู่ที่ท่าทีของ “ศิธา” จนต้องพับแผนกลับบ้านก็ตาม

มีกระแสข่าวว่าสถานีต่อไปของ “ศิธา” ที่วันนี้มีแสงเป็นของตัวเอง เป็นที่รู้จักในนาม “แด๊ดดี้ปุ่น” มีโอกาสท้าชิงเก้าอี้ ผู้ว่าฯกทม. อีกคำรบ หากลงอิสระก็พอมีหวัง แต่หากมีบิ๊กดีลลงชิงในนาม “ก้าวไกล” โอกาสชนะย่อมมีมากขึ้นทันที

ดังนั้น “ศิธา” ที่สลัดคราบ “สุดารัตน์-ไทยสร้างไทย” มีทางเลือก ทางรอด อยู่ที่จะเลือกบินเดี่ยว หรือสังกัดพรรคการเมือง เพิ่มโอกาสให้เข้าสู่ตำแหน่งแห่งหน

“ไทยสร้างไทย” ได้เวลาต้องไปต่อ ภายใต้การนำของ “หัวหน้าคนใหม่” และ “กก.บห.ชุดใหม่” มุ่งหวังใช้ผลงานในสภาฯ สร้างฐานมวลชน คาดหวังว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้มากกว่า 6 สส. เพื่อเข้าร่วมรัฐบาล