'ไทกร' ยื่น 'กมธ.เกษตร' สอบการทำลายเนื้อหมูเถื่อน หลังส่อพิรุธนำมาเวียนขาย

ที่รัฐสภา นายไทกร พลสุวรรณ สมาชิกคณะหลอมรวมประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำลายเนื้อสุกรผิดกฎหมายจำนวน 4,500 ตัน ของกรมปศุสัตว์ซึ่งมีพฤติกรรมพิรุธและพบว่าสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ฝังกลบ

โดยนายไทกร กล่าวว่า หลังจากที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งให้มีการทำลายเนื้อหมูเถื่อนที่อยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 4,500 ตันในทางลับ ซึ่งเรื่องนี้มีการส่อพิรุธโดยอ้างเหตุว่ามีกระบวนการต่อต้านการฝังกลบเนื้อหมูเถื่อน ของกลางที่จับได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำงานของกรมปศุสัตว์และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นำเนื้อหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ระบุว่าติดโรคระบาดไปฝังที่อำเภอคลองหาด จ.สระแก้ว ฝังเพียง 30 ตัน กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งไปทั่ว จนชาวบ้านประท้วง ซึ่งสาเหตุที่ชาวบ้านไม่ให้ฝังเพราะไม่มีการทำประชาคมของชาวบ้านในพื้นที่และเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมถึงผิดพ.ร.บ.การสาธารณสุข และผิดกฎกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ผิดพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์

"ประวัติแต่ละคนที่ดูแลเรื่องการกำจัดหมูเถื่อน 4,500 ตัน นั้นดูแล้วไม่โปร่งใส และจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้จะไม่เอาหมูเถื่อนเข้ามาเวียนขายอีก  พวกนี้ไม่ใช่ข้าราชการ พวกนี้คือโจรในเครื่องแบบ" นายไทกร กล่าว

  
นายไทกร ยังกล่าวถือกรณีที่มีการย้ายพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีดีเอสไอว่า เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะย้ายหลังจากที่ไปจับห้างของเจ้าสัว  ผมขอให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ทำให้ความจริงปรากฎ ฐานะเป็นรัฐบาลของประชาชนแต่พฤติกรรมของนายกฯเป็นรัฐบาลลูกสมุนเจ้าสัว

ด้านนายศักดินัย กล่าวว่า ทางกมธ.ฯ จะนำเรื่องนี้เข้ามาดำเนินการและจะติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะลงไปดูกระบวนการในการทำงานว่ามีการทำอย่างไร ทั้งนี้ จะมีการเชิญดีเอสไอในวันที่ 14 ธ.ค. เพื่อเข้ามาให้ข้อมูล