ศึกชิง‘ผู้นำปชป.’คนที่9 เดิมพัน‘ก้าวย่าง’เส้นทางสีฟ้า
จับตาเดิมพันครั้งสำคัญ “77 ปีบนเส้นทางสายสีฟ้า” จะดำเนินไปในทิศทางใดหลังวันที่ 9 ธ.ค.นี้จะได้รู้กัน!
กว่าครึ่งปีที่พรรคประชาธิปัตย์ ว่างเว้นหัวหน้าพรรคภายหลังการลาออกของ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” อดีตหัวหน้าพรรค เมื่อกลางดึกของวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
ทำให้ต้องจับตาไปที่การประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคคนที่ 9 รวมถึงกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ในวันที่ 9 ธ.ค.หรืออีก5วันนับจากนี้
โฉมหน้า “2ผู้ท้าชิง” ผู้นำสีฟ้าคนที่9 ซึ่งมีการประกาศตัวไปแล้วก่อนหน้านี้ คนแรก “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวเปิดตัวไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
เธอพูดถึงความตั้งใจในการลงชิงตำแหน่ง “ผู้นำพรรคสีฟ้า” ที่อาจเป็นผู้นำผู้หญิงคนแรกและจะเป็นหัวหน้าพรรคที่อายุน้อยที่สุดหากเธอได้รับเลือกในวันที่ 9 ธ.ค.นี้
โดย “วทันยา” บอกว่า การลงชิงครั้งนี้ เพื่อพิสูจน์ว่าพรรคที่ไม่มีมีเจ้าของอย่างแท้จริง จึงอยากขอโอกาสในการฟื้นฟูพรรคประชาธิปัตย์ และฟื้นฟูอุดมการณ์พรรค เพื่อให้ประชาธิปัตย์กลับมาเป็นที่พึ่ง และความหวังของประชาชน
“อยากก้าวข้ามระบบอุปถัมภ์ รวมถึงอคติทางเพศหรือข้อจำกัดของวัย เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกคน ไม่เลือกคนจากความสัมพันธ์ และขอให้เลือกบุคคลจากความสามารถ” วทันยาย้ำ
อย่างที่รู้กันว่า ปัญหาล้มโหวตที่เกิดขึ้นมาถึง2ครั้ง2ครา จากปัญหาความไม่ลงรอยของ2ขั้วในพรรคประชาธิปัตย์ จนทำให้เก้าอี้ผู้นำพรรคสีฟ้าคนที่9 ว่างเว้นมานานกว่าครึ่งปี ทำให้ที่ผ่านมา มีความพยายามเสนอหลากหลายสูตร บางคนก็เรียกว่าเป็น “สูตรคนละครึ่ง” บางคนอาจเรียกว่าเป็น “สูตรคนกลาง” เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง2ขั้วเข้าด้วยกัน โดยเสนอไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ชูจุดขายที่กระแส
ฉะนั้นชื่อของ “มาดามเดียร์” วทันยา จึงติดอยู่ในลิสต์รายชื่อผู้ท้าชิงที่ถูกพูดถึงมาแต่เนิ่น ขณะเดียวกันภายใต้โจทย์ปชป.ยุคผลัดใบ จึงต้องจับตาไปที่กลุ่ม “ปชป.ยังบลัด” รวมถึงรุ่นกลาง ถึงรุ่นเก๋า บางส่วนที่จะเป็นฐานคะแนนสำคัญ
ขณะที่อีกหนึ่งผู้ท้าจริงซึ่งเปิดตัวไปก่อนหน้านี้เช่นเดียวกัน หนีไม่พ้น “ตุ้ม” นราพัฒน์ แก้วทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคอดีตส.ส.พิจิตร และเป็นทายาทของ “ไพฑูรย์ แก้วทอง” อดีตรัฐมนตรีและอดีตสส. “บ้านใหญ่เมืองชาละวัน”
อย่างที่รู้กัน ในส่วนของ“ตุ้ม นราพัฒน์” มีแบ็กอัปคนสำคัญ คือ “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคและรักษาเลขาธิการพรรค รวมถึงส.ส.กลุ่มเพื่อเฉลิมชัย 21 คนให้การสนับสนุน
ว่ากันว่า “เฉลิมชัย” ลงทุนขอกับ “ไพฑูรย์” ผู้เป็นพ่อ มีสัญญาใจกันล่วงหน้าในการดัน “นราพัฒน์” หวังเปิดทางไปถึง“จังหวะก้าวย่าง” สำคัญของค่ายสีฟ้า ในวันที่เขาสามารถกุมบังเหียนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่9ได้สำเร็จ
ไม่แปลกที่เมื่อคล้อยหลังจากที่ “มาดามเดียร์” แถลงข่าวเปิดตัวลงชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อกลางสัปดาห์เพียงไม่กี่ชั่วโมง
“นราพัฒน์” จึงรีบส่งสัญญาณใส่เกียร์เดินหน้า ยืนยันลงชิงหัวหน้าพรรคเช่นเดิม เขายังบอกด้วยว่าเป็นเรื่องดีที่มีคนมาลงชิงหัวหน้าพรรค เพราะพรรคยืนยันว่าเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ และเปิดโอกาสให้กับทุกคนอยู่แล้ว
“ภายหลังการเลือกหัวหน้าพรรคแล้ว ก็จะต้องมีคนที่แพ้แล้วออกไป แต่เห็นว่าหากเราคิดว่าเราเป็นประชาธิปไตยจริงและพรรคเป็นประชาธิปไตยจริง เราก็ควรต้องยอมรับเสียงข้างมาก ซึ่งหากผมชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค น.ส.วทันยาก็เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในแผนที่ผมจะดึงมาร่วมงาน” นราพัฒน์ย้ำ
เมื่อชัดเจนแล้วว่า สัญญาณจาก2ผู้ท้าชิงเวลานี้ยืนยันใส่เกียร์เดินหน้า ต้องจับตาไปที่ “รหัส9/9” ชิงผู้หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนที่9ในวันที่9ธ.ค. ซึ่งจะถือเป็นเดิมพันครั้งสำคัญในการกำหนด “ก้าวย่างสีฟ้า” หลังจากนี้
โดยเฉพาะ “เกมขั้วอำนาจ” ทางการเมืองซึ่งมีการจับตาว่าอาจเกิดจุด “พลิกผัน” ในช่วงต้นปีหน้า
ในวันแถลงข่าว “มาดามเดียร์” ตอบชัด ถึงจุดยืนการทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้าน เธอเชื่อว่าเมื่อได้ตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว การทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านร่วมกับพรรคก้าวไกลได้ราบรื่นขึ้น
วันดังกล่าวว่านักข่าวยังถามคำถามไฮไลต์อีกหนึ่งคำถามคือ “หากเป็นหัวหน้าพรรคจะมีโอกาสไปร่วมรัฐบาลหรือไม่” น.ส.วทันยา ตอบชัดว่า
“จุดมุ่งหวังขณะนี้คือการเป็นฝ่ายค้าน จึงขอประกาศที่จะเป็นฝ่ายค้าน เราไม่ได้มุ่งหวังในการแสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงอำนาจในการที่จะไปจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล”
ขณะที่ในส่วนของ “ตุ้ม นราพัฒน์” ที่ได้รับการโอบอุ้มโดย “เฉลิมชัย” ผู้มากบารมีพรรค รวมถึงสส.กลุ่มเพื่อเฉลิมชัย21คน
ต้องจับตาว่า หากที่สุด “ตั๋วผู้นำพรรค” ตกเป็นของ “นราพัฒน์” จังหวะก้าวย่างบนเส้นทางสายสีฟ้าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ“ดีลขั้วอำนาจ” ที่ถูกทิ้งร้างไปนาน
สอดรับกับจังหวะก้าวย่างสส.กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ทั้ง “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค ที่ติดโผชิง “พ่อบ้านพรรค” คนใหม่ ที่ผ่านมาปรากฏข่าวคราวเป็นระยะพยายาม ทอดสะพานไปยัง“นายเก่าชั้น14” แถมเจ้าตัวยังยอมรับเคยบินไปพบนายเก่าช่วงเดียวกันกับที่บรรดาพรรคการเมืองเดินสายเปิด “ดีลลับเกาลูน” ณ เกาะฮ่องกง ในช่วงที่มีการจัดตั้งรัฐบาล
อีกช็อตที่ยังจำได้ดีคือกรณี “16สส.” กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัยลงมติ “เห็นชอบ” ให้ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 เหตุเกิดเมื่อวันที่22ส.ค.ที่ผ่านมา ยามนั้นมีเสียงลือกระฉ่อน! รัฐสภาเกียกกาย ว่ากันว่า ถึงขั้นมีการเปิดดีลหน้าห้องประชุมสภานาทีสุดท้ายก่อนโหวต
แต่ด้วยความไร้ซึ่งเอกภาพในพรรค ทำให้เป้าหมายปลายทาง“พับดีล”พร้อมขอให้กลับไปสะสางเรื่องในบ้านของตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อนแล้วค่อยกลับไปคุยใหม่
มิหนำซ้ำศึกครั้งนั้นทิ้งไว้ซึ่งรอยร้าวระหว่าง2ขั้ว ลามเป็นวิวาทะที่ต่างฝ่ายต่างไล่อีกฝ่ายพ้นพรรคจนถึงวันนี้ยังอยู่ในกระบวนการสอบโดยเฉพาะโทษสูงสุดคือ “ขับออก” ยังอยู่ในกระบวนการพรรค
เช่นนี้ต้องจับตาหากวันที่9ธ.ค.“นราพัฒน์” กุมบังเหียนผู้นำพรรคเขาจะเลือกเส้นทางใดหลังจากนี้?
จับตาเดิมพันครั้งสำคัญ “77 ปีบนเส้นทางสายสีฟ้า” จะดำเนินไปในทิศทางใดหลังวันที่ 9 ธ.ค.นี้จะได้รู้กัน!