ปชป.ผลัดใบ‘เฉลิมชัย’เบ็ดเสร็จ สลายมนต์‘นายหัว’-รอตั๋วรัฐบาล?

ลูบคม-ลบตำนาน“นายหัวสีฟ้า”ประชาธิปัตย์ดำเนินสู่ยุคผลัดใบ แปรสภาพไม่ต่างอะไรกับการเป็น“พรรคเพื่อนเฉลิมชัย” 

จังหวะก้าวย่างหลังเหตุการณ์หลังการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ วันที่9ธ.ค.ซึ่ง “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน ผู้มีวลีติดปาก “เฉลิมชัย คำไหนคำนั้น” ผงาดสู่ผู้นำพรรคคนที่9 ไม่ต่างจากกลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย ที่เข้าควบคุมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ  มิวายมีการจับตาไปที่เส้นทาง “ค่ายพระแม่ธรณี” จากนี้จะดำเนินไปในทิศทางใด!

ทาง3แพร่งที่ต้องจับตาหนี้ไม่พ้น  1.ทิศทางประชาธิปัตย์พร้อมเสียบเข้าร่วมรัฐบาล? คำถามที่ยังคงดังก้องอยู่เวลานี้

 ในวันประชุม9ธ.ค.รวมถึงก่อนหน้านั้น  “เฉลิมชัย” ย้ำ2-3 รอบปชป.ไม่ใช่เป็น “พรรคอะไหล่” และไม่คิดเป็นพรรคอะไหล่ และหลังวันที่12ธ.ค.ซึ่งเปิดสมัยประชุมสภา จะยังคงทำหน้าที่เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง 

ทว่าเมื่อถามย้ำถึง “อุบัติเหตุทางการเมือง”  เฉลิมชัย กลับพูดในทำนอง“ให้เป็นเรื่องอนาคต”  เราต้องนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและพรรคด้วย

ถอดรหัสคำพูดดังกล่าวถูกมองว่าไม่ต่างอะไรกับการ “เปิดประตู” รอ หรือไม่ปฏิเสธหากมีการส่งสัญญาณร่วมรัฐบาลในอนาคต 

ต้องไม่ลืมว่า “16สส.”  จาก “21สส.” กลุ่มเพื่อนเฉลิมชัย โหวตสนับสนุน “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกฯเมื่อวันที่22ส.ค.ที่ผ่านมา ลามเป็นศึก2ขั้วภายในพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขั้นมีการท้าทายไล่อีกฝั่งลาออก 

หรือไล่ย้อนไปก่อนหน้านั้น ช่วงก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะตั้งรัฐบาลสำเร็จ เคยมีข่าวประชาธิปัตย์พยายามทอดสะพานร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย 

สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของ “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคคนใหม่ ยอมรับเดินทางไปพบ “นายเก่า”  คือ ทักษิณ ชินวัตร ถึงฮ่องกง เมื่อครั้งบรรดาพรรคการเมืองเดินสายเปิดดีลจัดตั้งรัฐบาล ก่อนตกขบวนเมื่อเป้าหมายปลายทางขอให้กลับไปเคลียร์การเมืองในมุ้งตัวเองให้เรียบร้อยเสียก่อน 

2.จังหวะก้าว“ขยับ”ทางการเมืองปี67 สอดรับกับการคืนสู่อิสระภาพของ "ทักษิณ" ที่อาจมีการล้างกระดานครั้งใหญ่ โดยเฉพาะการ“ปรับครม.” แทนตำแหน่งรัฐมนตรียังว่างอีก 2 เก้าอี้ ที่อาจมีการสลาย กลุ่มการเมืองบางกลุ่ม และอาจเป็นโอกาสพรรคประชาธิปัตย์ ในการ “ตีตั๋ว” ร่วมรัฐบาลอีกรอบ

โดยเฉพาะ “นักการเมืองหญิง” ในสายเพื่อนเฉลิมชัย ที่มีความฝันในการขึ้นแท่น “เสนาบดี”  ก่อนหน้ามีเสียงลือไปที่โควตาพรรคร่วมรัฐบาล ทว่าพรรคเจ้าของโควตา ปฏิเสธพร้อมยืนยันโควตาดังกล่าวยังคงเป็นคนของพรรคตนเอง

ซึ่งต้องจับตาว่าหากที่สุดปชป.ได้ตั๋วร่วมรัฐบาลจริงตามที่ถูกคาดการณ์ ก็อาจเป็นโอกาสอีกครั้ง แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องขึ้นอยู่ที่ราคาค่างวดการเจรจาตกลงกันภายในพรรค

รวมถึงการตัดสินใจของ “นายใหญ่” ปลายทางด้วยว่าจะให้นักการเมืองคนดังกล่าวที่เคยอยู่ฝ่ายอริการเมือง นั่งเสนาบดีสมใจหรือไม่  

 

ทว่าในข้อ1และ2 ซึ่งดูเหมือนจะมีความเกี่ยวกันนั้นเอง ยังต้งจับตาจังหวะก้าวย่างในพรรคประชาธิปัตย์เองด้วย โดยเฉพาะการวางหมากของ  “กลุ่มผู้อาวุโส” ซึ่งล่าสุด “ชวน หลีกภัย” สส.บัญชีรายชื่อพูดชัด “ไม่ไปไหนขอตอบแทนบุญคุณในช่วงปลายชีวิตการเมือง”

ขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า ศึกเลือกผู้นำปชป.กว่าจะได้ตัวหัวหน้าพรรคก็ยืดเยื้อมานานแรมปีจนกระทั่งปชป.ตกขบวนร่วมรัฐบาลส่วนหนึ่งก็มาจากการวางหมากของ “2ผู้อาวุโสสีฟ้า”  ทั้งชวน และ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” สส.บัญชีรายชื่อ

 ฉะนั้นแม้ “กลุ่มเฉลิมชัย” จะรวบอำนาจได้อย่างเบ็ดเสร็จ แต่ก็ประมาทการวางหมากของ “2ผู้อาวุโส” ในการสกัดขัดขวางการเข้าร่วมรัฐบาลไม่ได้เช่นกัน ที่สุดหากภาพปรากฎถึงความไม่เป็นเอกภาพภายในพรรค ปชป.ก็อาจไม่ถูกดึงร่วมรัฐบาลซ้ำสองเป็นได้

 

3.กลุ่มเลือดสีฟ้า ที่ไหลออก อาจย้ายชายคาไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น  โดยมีการจับตาไปที่2พรรคเฉดน้ำเงิน ทั้ง “พรรคภูมิใจไทย” ที่เคยมีข่าวตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งกับแกนนำพรรคประชาธิปัตย์บางคน โดยเฉพาะ สาธิต ปิตุเตชะ  บ้านใหญ่ระยอง 

จับท่าทีเวลานี้ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสถานการณ์ “เลือดสีฟ้า” ไหลออก เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อน ทำให้สัญญาณจากภูมิใจไทยเวลานี้ยังคงสวมบทนิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหวรอเช็กสัญญาณเพื่อความชัวร์

อีกพรรคที่ต้องจับตาเพราะอาจเป็นเป้าหมายปลายทางของ “เลือดสีฟ้า” ที่ไหลออก คือ “รวมไทยสร้างชาติ”  ที่ยังคงกระแสดีในภาคใต้ และต้องการสานต่อภารกิจยึดภาคใต้หลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วางมือทางการเมือง จึงต้องการ สส.เกรดเอ และ สส.บ้านใหญ่จากประชาธิปัตย์ แม้ปัจจุบันจะไม่ได้เป็น สส. แต่หากแพ็คแน่นแล้วชื่อชั้นยังมีโอกาสขายได้พอสมควร

ก่อนหน้านี้“แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล” เคยวิเคราะห์ว่าหลังประชาธิปัตย์มีหัวหน้าพรรคคนใหม่ จะมีแกนนำ และอดีต สส.จำนวนหนึ่งลาออก จึงเปิดประตูบ้านรอรับ ขณะที่ สส.ปัจจุบันหลายคนก็ถูกทาบทาม โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

“แกนนำพรรคร่วมรัฐบาล” ยังวิเคราะห์ตรงกันว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์เสี่ยงเสียแชมป์“แดนสะตอ” หากร้ายแรงไปกว่านั้นอาจไม่ใช่พรรคหลักอีกต่อไป

โดยการเลือกตั้งหนต่อไป พื้นที่ภาคใต้จะเป็นการช่วงชิงกันของพรรคภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ และพรรคประชาชาติ  

จะเป็นเช่นที่มีการวิเคราะห์กันหรือไม่ ใครวิน-ใครวืด ต้องติดตามกันยาวๆ !! 

77ปีค่ายพระแม่ธรณี ในวันที่เกมอำนาจอยู่ในอุ้งมือ “กลุ่มเพื่อนต่อ” แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ต้องจับตาเส้นทางสีฟ้าจะดำเนินไปในทิศทางใดต่อไปหลังจากนี้?