‘ธนกร’ แนะ ‘ดีอี-ตำรวจไซเบอร์' ล้างบางมิจฉาชีพต่อเนื่อง อย่าโชว์ผลงาน 90 วัน
‘ธนกร’ แนะ ‘ดีอี-ตำรวจไซเบอร์' ฟันต่อเนื่อง หลังเปิดปฏิบัติการล้างบาง มิจฉาชีพ ชี้ ต้องใช้ระบบช่วยควบคุม แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้อินเตอร์เน็ตโทรหลอก อย่าแค่เฉพาะหน้าโชว์ผลงาน 90 วัน
นายธนกร วังบุญคงชนะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ให้สัมภาษณ์ว่า จากที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอี ร่วมกับกองบัญชาการตํารวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดปฏิบัติการล้างบาง มิจฉาชีพ แก๊งแอปดูดเงินแนวชายแดน ส่งตำรวจไซเบอร์เร่งกวาดล้าง ขยายผลจับกุม 4 ปฏิบัติการทั้งแอปดูดเงินชายแดน-หลอกส่งพัสดุเก็บปลายทาง-เพจเว็ปไซต์ขายอาวุธปืนออนไลน์-เว็บพนัน โดยจับกุมผู้ต้องหาเกือบ 400 คน ถือเป็นปฏิบัติการที่เห็นผลชัด แต่ขอให้ดำเนินการแก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง อย่าเป็นแค่ช่วงเฉพาะหน้า 90 วันที่กระทรวงจะโชว์ผลงานของรัฐบาลเท่านั้น เนื่องจากประชาชนจำนวนมากได้รับความเสียหายจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ มิจฉาชีพต้มตุ๋นมานานหลายปี
เมื่อถามว่า การแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องมีระบบป้องกันจากต้นทางเพื่อให้เกิดความต่อเนื่องระยะยาว หรือไม่ นายธนกร กล่าวว่า กระทรวงดีอีและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไซเบอร์ มีการขอความร่วมมือจากโอเปอเรเตอร์ ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ มีระบบตรวจสอบผู้ที่ใช้โทรศัพท์เกิน 100 ครั้งให้มีการระงับการใช้งานทันที มากกว่านั้นต้องมีระบบป้องกันทางอินเตอร์เน็ตด้วย เนื่องจากพบว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์มีพฤติกรรมใช้ระบบอินเทอร์เน็ตในการโทรหลอกเหยื่อ ดังนั้นรัฐบาล และกสทช.จึงต้องลงทุนใช้ระบบป้องกันทางอินเตอร์เน็ตในเรื่องนี้ไว้ด้วย พร้อมขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านที่ถูกใช้เป็นฐานการกระทำความผิดของแก๊งมิจฉาชีพ ให้สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่เป็นเครือข่ายรายใหญ่ต่อไป
“มาตรการแก้ปัญหาทุกอย่าง ขอให้ทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้ระบบไอทีมาควบคุมป้องกัน จะช่วยแก้ปัญหามิจฉาชีพหลอกลวงประชาชนลดลงได้ รวมถึง รัฐบาลต้องสร้างการรับรู้ให้ความรู้กับประชาชนได้ข้อมูล รู้เท่าทันมิจฉาชีพเหล่านี้ให้มากขึ้น” นายธนกรกล่าว