โมเดล'บ้านใหญ่' เหนือ'กระแส' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

โมเดล'บ้านใหญ่' เหนือ'กระแส' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

ความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กพรรคการเมือง” ที่จะคงสาละวนอยู่กับ “บ้านใหญ่” แม้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “กระแส” จะฝ่าดง “บ้านใหญ่” มาได้หลายพื้นที่ แต่“นักเลือกตั้ง” รู้ดีว่า “กระแส” ไม่คงทน “กระสุน” แน่นอนกว่า

โมเดลการเมืองแบบ “บ้านใหญ่” มีความสัมพันธ์ฉันท์มิตรกับฐานเสียง สร้างเครือข่ายในพื้นที่ให้เข้มแข็ง แม้จะถูกมองว่าล้าสมัย และการลงทุน-ลงแรงค่อนข้างสูง แต่บรรดา “พรรคการเมือง” ยังคงให้ความสำคัญกับ “บ้านใหญ่”

มีเพียง “ก้าวไกล” เพียงพรรคการเมืองเดียวที่ไม่สน “คนบ้านใหญ่” พยายามสร้าง “บ้านใหม่” ฝังตัวในพื้นที่ เนื่องจาก “บิ๊กก้าวไกล” มั่นใจใน “กระแส” ของพรรค ซึ่งสามารถปลุกปั้นให้ติดลมบนชั่วข้ามคืน จะสามารถขับเคี่ยวกับบรรดา เสือ สิงห์ กระทิง แรด ทางการเมืองได้

แต่ก็มีจุดอ่อนตรงที่พรรคการเมืองไม่อาจจะรักษา “กระแส” ให้อยู่คงตลอดไปในระยะยาวได้ หาก “กระแส” จางหาย ความนิยมจะลดลงทันที ไม่ต่างจาก “ก้าวไกล” ในเวลานี้ที่โดนโจมตีในหลายปม ที่เป็นข้อผิดพลาด ทั้งตัวผู้นำ สส.และจุดยืนทางการเมือง จนกระแสเริ่มลดน้อยถอยลง

ขณะเดียวกัน “บิ๊กพรรคการเมือง” ไม่อาจหาญสู้ “กระแส” กับ “ก้าวไกล” จึงต้องระดมคน รวบรวมพล “บ้านใหญ่” เข้าสังกัดให้ได้มากที่สุด เพื่อการันตีฐานเสียงในพื้นที่ ก่อนใช้ “กระสุน” ต่อยอดความสำเร็จ

ฉะนั้นโมเดลทางการเมืองหลายพรรค จึงเลือกกลับมาสร้าง “บ้านใหญ่” เสริมแกร่ง ให้มีฐานรากเข้มแข็ง เพื่อขับเคี่ยวในสนามรบศึกเลือกตั้งครั้งต่อไป

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

ปชป.ทิ้งกระแส-ลุยบ้านใหญ่

“ประชาธิปัตย์” เป็นพรรคการเมืองล่าสุดที่ยึดโมเดล “บ้านใหญ่” เพราะภายใต้การนำของ เฉลิมชัย ศรีอ่อน ยากมากที่กระแสนิยมจาก “ผู้นำ” จะเป็นกุญแจนำไปสู้ความสำเร็จ เพราะผู้นำระดับแม่เหล็กอย่าง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่สามารถแทรกตัวมายึดหัวหาด “พรรคสีฟ้า” ได้

จุดเด่นของ “เฉลิมชัย” มักจะคำไหน-คำนั้น กับพวกพ้อง จนสามารถซื้อใจ “บ้านใหญ่สีฟ้า” ในหลายพื้นที่ จึงไม่แปลกที่ สส.25 เสียงของ “ประชาธิปัตย์” จะอยู่ภายใต้การคอนโทรลของ “เฉลิมชัย” ถึง 21 เสียง

“บ้านใหญ่สีฟ้า” ผลิดอกออกผลจากบารมีของ “เฉลิมชัย” ในช่วงนั่งเก้าอี้ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย “บ้านใหญ่สงขลา” มี เดชอิศม์ ขาวทอง เป็นหัวหอก กวาด สส. มาได้ 5 คน “บ้านใหญ่นครศรีฯ” มี ชัยชนะ เดชเดโช เป็นหัวหอก กวาด สส. มาได้ 6 คน

ส่วนจังหวัดอื่น อาทิ ประจวบคีรีขันธ์ 2 คน จักพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ และ ประมวล พงศ์ถาวราเดช ตรัง 2 คน สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ และ กาญจน์ ตั้งปอง พัทลุง 2 คน สุพัชรี ธรรมเพชร และร่มธรรม ขำนุรักษ์ ปัตตานี ยูนัยดี วาบา แม่ฮ่องสอน สมบัติ ยะสินธุ์ และอุบลราชธานี วุฒิพงศ์ นามบุตร จัดอยู่ในสายตรง “เฉลิมชัย” ซึ่งต่างมีฐานเสียงเหนียวแน่นในพื้นที่มานาน

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

‘อุ๊งอิ๊ง’ผู้นำบ้านใหญ่สีแดง

ฝั่ง “เพื่อไทย” แม้จะเป็นพรรคมี “กระแส” แต่ยึดติดอยู่กับตัวของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ แต่กระแส “ทักษิณ” เริ่มมนต์เสื่อม โดน “ก้าวไกล” มาท้าชิงคะแนนนิยม

ทำให้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องสร้าง “บ้านใหญ่” ให้เข้มแข็ง ควบคู่ไปกับการฟื้นกระแส ให้กลับมาเป็นพรรคการเมืองอันดับหนึ่งอีกครั้ง

แกะรอยจากการตั้งกรรมการบริบริหารพรรคเพื่อไทยชุดใหม่ สามารถจำแนกได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่คือ กลุ่มแรก นักการเมืองมากประสบการณ์ อาทิ ชูศักดิ์ ศิรินิล จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ จิราพร สินธุไพร และธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์

กลุ่มสอง ลูกหลานบ้านใหญ่ ได้แก่ สรวงศ์ เทียนทอง บ้านใหญ่สระแก้ว ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ สส.กทม. ตัวแทนบ้านใหญ่คลองสามวาตะวันออก

พชร จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา ลูกชายประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกฯ ลูกชายเกษม รุ่งธนเกียรติ อดีต สส.สุรินทร์ และสมาชิกกลุ่ม 16 วรวงศ์ วรปัญญา สส.ลพบุรี หลานชายนิยม วรปัญญา อดีต สส.ลพบุรี บ้านใหญ่ลำนารายณ์ เมืองลพบุรี

นิกร โสมกลาง สส.นครราชสีมา ลูกเขยเสี่ยแป้งมัน วีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล อดีต รมช.คมนาคม และยลดา หวังศุภกิจโกศล นายก อบจ.นครราชสีมา และ สรัสนันท์ อรรณนพพร สส.ขอนแก่น ลูกสาว พงศกร อรรณนพพร กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี บ้านใหญ่หนองสองห้อง เมืองขอนแก่น

กลุ่มสาม คลื่นลูกใหม่ อาทิ เผ่าภูมิ โรจนสกุล ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์  ธิติวัฐ อดิศรพันธ์กุล  จเด็ศ จันทรา และพลนชชา จักรเพ็ชร

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

"ภูมิใจไทย" บ้านใหญ่ทั้งพรรค

“ภูมิใจไทย” ถือเป็นพรรคต้นตำรับ “บ้านใหญ่” โดย สส. 71 คน มาจาก สส. เขต 68 คน สส. ปาร์ตี้ลิสต์ 3 คน สะท้อนภาพความนิยม “พรรคสีน้ำเงิน” มีน้อยกว่าแต้มการเมืองของ สส. เขต

“ครูใหญ่” เนวิน ชิดชอบ วางระบบบริหารจัดการภายใต้พรรคอย่างดี เพื่อดูแล “บ้านใหญ่สีน้ำเงิน” ไม่ให้แตกแถว หรือปันใจให้พรรคการเมืองอื่น

ก่อนเลือกตั้ง 14 พ.ค. ที่ผ่านมา “เนวิน-ภูมิใจไทย” รวบรวมคนบ้านใหญ่เกือบทุกจังหวัดให้มาอยู่ร่วมด้วยช่วยกัน แถมระหว่างการหาเสียง “ภูมิใจไทย” แทบจะไม่สนใจ “กระแส” เพราะมั่นใจว่า “กระสุน” คมกริบ

หลังการเข้าร่วมรัฐบาล “ภูมิใจไทย” ยังไม่ทิ้งลายพรรคบ้านใหญ่ จัดการเยียวให้ทุกองคาพยพได้มีตำแหน่งแห่งหน ไม่ให้คนพ่ายศึกคาสนามเลือกตั้งต้องว่างงาน

สมเจตน์ ลิมปะพันธุ์ อดีตสส.สุโขทัย ลูกชายของสมชาติ ลิมปะพันธุ์ อดีตนายกฯเล็กเมืองสวรรคโลก รอบที่ผ่านมาได้ที่ 2 เสียแชมป์ ให้กับ ประภาพร ทองปากน้ำ ลูกสาว ประศาสตร์ ทองปากน้ำ อดีต สส.สุโขทัย

ถัดมา “กวาง” ไตรสุลี ไตรสรณกุล ลูกสาว วิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ แต่บ้านไตรสรณกุลพ่ายศึกเลือกตั้ง ตัวของ “ไตรสุลี” พลาดเป้าแม้จะอยู่ลำดับปลอดภัยแต่ชวดเป็น สส. ได้รับปลอบใจในตำแหน่ง “เลขานุการรมว.มหาดไทย”

ขณะที่อีกหนึ่งทายาทบ้านใหญ่คือ “โต้ง” สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รอบที่ผ่านมาสอบตก ได้รับรางวัลปลอบใจเป็น “ผู้ช่วยรัฐมนตรี” พ่วง “โฆษกกระทรวงแรงงาน”

กระทรวงแรงงาน ธนัสถ์ ทวีเกื้อกูลกิจ อดีต สส.ตาก รอบที่ที่ผ่านมาแพ้พรรคก้าวไกล ได้คะแนนมาเป็นลำดับ 2 ปลอบใจด้วยตำแหน่ง “ที่ปรึกษารมว.แรงงาน”

กระทรวงศึกษาธิการ เชิดศักดิ์ โภคกุลกานนท์ รอบที่ผ่านมาลงสู้ศึกเขต 7 อุบลราชธานี แต่ได้ที่ 2 ปลอบใจด้วยตำแหน่ง “ที่ปรึกษารมว.ศึกษาธิการ” ขณะที่ นพ ชีวานันท์ อดีต สส. พระนครศรีอยุธยา ลูกชาย พ้อง ชีวานันท์ อดีตรมช.คมนาคม ได้รับปลอบใจด้วยตำแหน่ง “เลขานุการรมว.ศึกษาธิการ”

กลยุทธ์ของ “เนวิน-ภูมิใจไทย” ต้องการมัดใจ “บ้านใหญ่” ให้อยู่กับพรรคต่อไป แม้ไม่ได้เก้าอี้ สส.แต่จะปลอบใจด้วยเก้าอี้ฝ่ายบริหารแทน

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

"ลุงป้อม"ไปต่อ-ระดมบ้านใหญ่

“พลังประชารัฐ” ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประสบความสำเร็จจากกการเลือกตั้งปี 2562 ด้วยยุทธศาสตร์ “บ้านใหญ่” ก่อนต่อยอดมาถึงการเลือกตั้ง 14 พ.ค. ที่ผ่านมา

แม้จะได้ สส. น้อยกว่าเดิม แต่ “บ้านใหญ่ พปชร.” พาเหรดเข้าวินระบบ สส. เขต 39 คน แตกต่างจาก สส. ปาร์ตี้ลิสต์ได้มาเพียง 1 คน สะท้อนความนิยมของพรรคอยู่ในแดนลบอย่างชัดเจน

แม้ช่วงแรกอยู่ในระยะทำใจ หลังพลาดเป้าเก้าอี้นายกฯ แต่ระยะหลัง “ประวิตร” เริ่มขยับทำกิจกรรมการเมือง ล่าสุดร่วมงานกฐินสามัคคีที่วัดโฆสมังคลาราม บ้านโคกสว่าง ต.โคกสว่าง อ.ปลาปาก จ.นครพนม ร่วมกับแกนนำพรรค

โดยมี สส.อีสาน พรรคพลังประชารัฐ 5 คนจากทั้งหมด 6 คน ซึ่งทั้งหมดจัดอยู่ใน สส. บ้านใหญ่ มีฐานเสียงอยู่ในพื้นที่มานาน ไล่มาตั้งแต่ ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร  วิริยะ ทองผา สส.มุกดาหาร กระแสร์ ตระกูลพรพงศ์ สส.หนองคาย รัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด และกาญจนา จังหวะ สส.ชัยภูมิ

หลังจากนี้จับตาว่า “ประวิตร” ยังจะขับเคลื่อน “พลังประชารัฐ” ต่อไปอีกหรือไม่ เพราะหากจะเดินหน้าต่อ จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาฐานบ้านใหญ่เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น ตรีนุช เทียนทอง บ้านใหญ่สระแก้ว ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ บ้านใหญ่สิงห์บุรี บุญยิง นิติกาญจนา บ้านใหญ่ราชบุรี เป็นต้น

ที่สำคัญต้องเคลียร์ใจกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ บ้านใหญ่พะเยา เพราะมักมีกระแสข่าวเตรียมขน สส. เข้าสังกัดพรรคเพื่อไทย หลุดลอดออกมาเป็นระยะ

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

"รทสช."รอรับบ้านใหญ่สีฟ้า

“รวมไทยสร้างชาติ” เมื่อไม่มีกระแสของ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาช่วยแบกแต้มการเมือง จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่จะต้องรักษาพรรคให้เดินหน้าต่อไป

บรรดา สส. บ้านใหญ่ จึงเป็นภารกิจที่ “แกนนำรทสช.” ต้องกวาดต้อนมาเพิ่ม โดยเฉพาะ “บ้านใหญ่สีฟ้า” ที่อาจจะต้องแยกทาง “ประชาธิปัตย์” เพราะเนื้อแท้ของ “รวมไทยสร้างชาติ” ส่วนใหญ่แตกหน่อมาจาก “ประชาธิปัตย์”

ขณะเดียวกันบ้านใหญ่เดิมก็ต้องรักษาเอาไว้ให้ได้ เทอ บ้านใหญ่ชุมพร ภายใต้การนำของ ชุมพล จุลใส ซึ่งกวาด สส. ยกจังหวัด บ้านใหญ่สุราษฎร์ฯ แม้จะมีหลายตระกูล แต่ต้องรวบรวมให้เป็นทองแผ่นเดียวกัน ไม่ต่างจาก บ้านใหญ่พัทลุง จากตระกูลธรรมเพชร บ้านใหญ่นราธิวาส จากตระกูลยะวอหะซัน เป็นต้น

นอกจากนี้ต้องวางเกมถนอมน้ำใจ “บ้านใหม่ชลบุรี” สุชาติ ชมกลิ่น แม้จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งจนหมดราคา แต่ยังมีคอนเนกชันกับบ้านใหญ่หลายบ้าน โดยเฉพาะบ้านใหญ่เพชรบุรี จากตระกูลอิงกินันทน์

เกมการเมือง “บ้านใหญ่” จึงสำคัญกับ “รวมไทยสร้างชาติ” เพราะการเลือกตั้งรอบหน้าอาจจะไม่มีกระแสของ “ประยุทธ์” มาหนุนนำ จึงต้องพิสูจน์ฝีมือ “บิ๊กรทสช.” จะวางหมากเดินเกมอย่างไร

โมเดล\'บ้านใหญ่\' เหนือ\'กระแส\' การเมืองใหม่ พ่ายเทรนด์เก่า ?

"วราวุธ"ตรึงสะสมทรัพย์

“ชาติไทยพัฒนา” เป็นอีกพรรคการเมืองที่เน้น “บ้านใหญ่” มาอย่างยาวนาน โดยปักหลักอยู่ที่ จ.สุพรรณบุรี วราวุธ ศิลปอาชา นำทีมเอาชนะยกจังหวัดสุพรรณบุรี 5 คน

ขณะเดียวกันยังแรงหนุนจาก “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” สามารถกวาด สส. นครปฐมมาได้ 3 ที่นั่ง ประกอบด้วย พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์, อนุชา สะสมทรัพย์, ศุภโชค ศรีสุขจร

อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องยากที่ “วราวุธ” จะรวบรวมบ้านใหญ่มาอยู่ใต้ชายคา “ชาติไทยพัฒนา” ภารกิจหลักจึงอยู่ที่การรักษา “บ้านใหญ่สะสมทรัพย์” ให้อยู่กับพรรค ไม่ตีตัวหนีห่างไปไหน

ทั้งหมดคือความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กพรรคการเมือง” ที่จะคงสาละวนอยู่กับ “บ้านใหญ่” แม้การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา “กระแส” จะฝ่าดง “บ้านใหญ่” มาได้หลายพื้นที่ แต่“นักเลือกตั้ง” รู้ดีว่า “กระแส” ไม่คงทน “กระสุน” แน่นอนกว่า