กมธ. ต่างประเทศ กังวลสถานการณ์เมียนมา เรียกร้อง 5 ข้อ เร่งรัฐบาลแก้ไขโดยเร็ว
กมธ. ต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร แสดงความกังวลความคืบหน้าสถานการณ์เมียนมา เรียกร้อง 5 ข้อ เร่งรัฐบาลแก้ไขโดยเร็ว
ที่รัฐสภา นายนพดล ปัทมะ ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ได้ประชุมวาระความคืบหน้าสถานการณ์เมียนมา โดยมีหน่วยงานและนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย กองทัพภาคที่ 3 สภาความมั่นคงแห่งชาติ และตัวแทน NGO (The Border Consortium) เข้าหารือเพื่อติดตามสถานการณ์ในเมียนมา
โดย กมธ. มีข้อเสนอถึงรัฐบาล 5 ข้อ ดังนี้
1. เรียกร้องให้ประเทศไทยเพิ่มบทบาทและทำงานให้เข้มแข็งขึ้นร่วมกับอาเซียน เพื่อผลักดันการดำเนินการ รวมทั้งประสานกับจีนและอินเดีย ตามฉันทามติ 5 ข้อ (5 Point Consensus) ในการเร่งผลักดันให้เมียนมาปฏิบัติตาม เพราะถือว่ามีพรมแดนติดกับเมียนมา ถือเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดที่สุด
2. เปิดช่องทางการสื่อสารระหว่างไทยกับเมียนมา โดยรวมทั้งฝ่ายรัฐบาล SAC ฝ่าย NUG (รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติพม่า) และกลุ่มชาติพันธุ์ แต่ไม่แทรกแซงกิจการภายในของเมียนมา
3. เรียกร้องให้มีการยับยั้งชั่งใจ ลดการใช้ความรุนแรง และหันมาใช้การพูดคุยเจรจากันมากขึ้น เนื่องจากไม่อยากเห็นการต่อสู้ทวีความรุนแรงขึ้น และขอเรียกร้องให้รัฐบาลติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
4. ตั้งกลไกและหน่วยงานให้มีคณะกรรมการดูแลและดำเนินการเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำหน้าที่คอยติดตามสถานการณ์ อาจอยู่ใต้ สมช. หากมีความรุนแรงกระทบข้ามมายังฝั่งไทย จำเป็นต้องปกป้องอธิปไตยของไทยให้เหมาะสม และสำหรับผู้หนีสงครามและผู้ลี้ภัย เห็นควรให้มีการจัดการบนพื้นฐานของมนุษยธรรม ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานหลักดูแลเรื่องนี้ และเห็นว่ารัฐบาลไทยเสียโอกาสในชูบทบาทไทยในการจัดการประเด็นในภูมิภาค
5. สำหรับการดูแลอพยพ ประเทศไทยมีผู้ลี้ภัยมาจากเมียนมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 ระยะเวลากว่า 40 ที่ผ่านมา จึงเห็นควรให้มีการดูแลและช่วยเหลือบนพื้นฐานของมนุษยธรรม โดยให้มีการประเมินสิทธิในการทำงาน เพื่อให้กลุ่มผู้ลี้ภัยเหล่านี้ได้มีชีวิตอยู่ในสังคมไทยอย่างมีศักดิ์ศรี และส่งเสริมการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่สาม