'นิกร' ยันคำถามประชามติมาจาก ปชช.ทุกกลุ่ม ชง ครม.แล้ว ขอให้ใจกว้าง
'นิกร' ยันคำถามประชามติเพื่อแก้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ มาจากภาคประชาชน นำรวมรายงานเสนอ ครม.แล้ว ลั่นรับฟังทุกกลุ่ม ขอให้ใจกว้าง
เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2566 นายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ในฐานะประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กล่าวถึงกรณีข้อเรียกร้องของกลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญระบุ "ทำให้ภาคประชาชนผิดหวัง" นั้น ว่า กลุ่มประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ที่ประกอบด้วยนิสิต นักศึกษา เยาวชน คนรุ่นใหม่ คงผิดหวังจริงที่ผลอาจไม่ออกมาตามความต้องการของกลุ่มตามที่ได้มีโอกาสรับเชิญเข้าไปในทำเนียบเป็นกลุ่มแรกสุด เพื่อรับฟังความเห็น และอีกส่วนหนึ่งก็ได้เข้าไปให้ความเห็นแบบตรงไปตรงมา ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกับตัวแทนเฉพาะของกลุ่มประชาชน แล้วความเห็นดังกล่าวได้ถูกบันทึกไว้ในรายงานเพื่อเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเรียบร้อย มิต้องกังวลว่าจะตกหล่นไปอย่างแน่นอน
นายนิกร กล่าวอีกว่า รายงานผลการรับฟังประชาชนทุกกลุ่ม เฉพาะทุกกลุ่ม ทุกภาคนั้น ได้สรุปผลส่งไปยังคณะรัฐมนตรีทั้งหมด ซึ่งครม.คงจะได้พิจารณาอย่างรอบคอบ โดยการรับฟังสรุปความเห็นที่ตอบจากทุกกลุ่ม ไม่ว่าประชาชนทั่วไปจากกลุ่มอาชีพ และทุกภาคที่เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ โดยไม่แก้ไขในหมวด 1และหมวด 2 หรือแม้แต่ความเห็นส่วนมากของวุฒิสมาชิก ที่ไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขทั้งฉบับ แต่กลับเห็นด้วยกับการแก้ไขเป็นรายมาตรา จุดนี้ ยังมีความสุ่มเสี่ยงกับการไม่ผ่านความเห็นชอบถึง 1 ใน 3 ของวุฒิสมาชิก ไม่ต้องไปถึงการแก้ทั้งฉบับไม่ยกเว้นสองหมวดดังกล่าวที่เขาได้แสดงความชัดเจนมาตลอดว่าไม่เห็นชอบด้วย
นายนิกร กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอข้อมูลปัญหาของประชาชนกลุ่มต่างๆ และในภูมิภาคต่างๆที่มีปัญหามากมายที่ต้องการให้แก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดต่างๆ เกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรงที่ไม่ใช่หมวด 1 หรือหมวด 2 แต่อย่างใดเลย จึงเรียกร้องให้ทุกคน ทุกกลุ่ม รับฟังความเห็นเบื้องต้นนี้อย่างใจกว้าง และให้ตั้งอยู่บนเป้าหมายให้เกิดผลความสำเร็จในการมีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยของประชาชน ทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วน มิใช่เป็นของประชาชนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเป็นการเฉพาะ จึงขอให้ช่วยกันพิจารณาสรุปผลจากการรับฟังประชาชนกลุ่มเฉพาะที่จะขอเปิดเผยให้ทราบในโอกาสนี้ เพื่อจะได้ร่วมกันพิจารณาด้วยความรอบคอบให้เกิดผลสัมฤทธิ์สำหรับประชาชนไทยกันต่อไป