‘ชนก’ ข้องใจปมร้องสอบกำไลอีเอ็ม ยุค ‘สมศักดิ์’ หวังผลการเมือง
“สส.ชนก" ข้องใจ ร้องสอบปมกำไลอีเอ็มยุค "สมศักดิ์" ทำไมไม่ตามเรื่องในกมธ. เหตุหน่วยงานแจงไปหมดแล้ว ดักคอ ชงเรื่องช่วงนี้ หวังผลทางการเมืองหรือไม่
วันที่ 13 ม.ค. 2567 น.ส.ชนก จันทาทอง สส.จังหวัดหนองคาย พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีผู้ร้องเรียนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี เมื่อครั้งสมัยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เรื่องการจัดซื้อกำไลอีเอ็ม กับ กมธ.กิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน ว่า ส่วนตัวคิดว่าเป็นเรื่องดีที่มีการตรวจสอบของภาคประชาชนผ่านสภาผู้แทนราษฎร และถือว่าเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทุกคน ที่จะต้องตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณให้โปร่งใส ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า เรื่องดังกล่าวได้เคยถูกร้องเรียนท้วงติงไปแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าชี้แจ้งต่อกมธ.แล้วว่า การดำเนินการเช่าอุปกรณ์กำไลอีเอ็ม กรมคุมประพฤติได้ดำเนินการเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องทั้งในด้านประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้าง การกำหนดขอบเขตของงาน การพิจารณาคัดเลือก ซึ่งระยะเวลาในการดำเนินการเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560
น.ส.ชนก กล่าวอีกว่า ตนขอตั้งข้อสงสัยว่า เหตุใดจึงไม่ติดตามจากเรื่องที่เคยร้องเรียนมา ทำไมจึงต้องมาร้องเรียนอีกในระหว่างการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี 2567 โดยเฉพาะกรณีเรื่องให้แก้สเปกของกำไลอีเอ็ม ทั้งที่ทราบว่า การกำหนดสเปกดังกล่าวต้องทำตามขั้นตอนของกฏหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่แก้เพื่อให้บริษัทใดบริษัทหนึ่งได้ประโยชน์ ซึ่งระหว่างการจัดซื้อจัดจ้างจะต้องเปิดเผยข้อมูลทุกขั้นตอนผ่านระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ของกรมบัญชีกลาง และช่องทางอื่นตามที่กฎหมายกำหนดด้วย เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจทุกคนได้เข้ามาตามขั้นตอนอยู่แล้ว รวมถึงกำไลอีเอ็มเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์ได้ใช้กับผู้ต้องขังที่ใกล้พ้นโทษ เป็นการควบคุมบริเวณและติดตามผู้ต้องขังให้อยู่ในกรอบ ทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจ
"ขอตั้งคำถามว่า เหตุที่ยกเรื่องนี้มาดำเนินการช่วงนี้ เพราะมีประเด็นทางการเมืองหรือไม่ ท่านสมศักดิ์ เทพสุทิน มีตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ไม่ได้ว่าการกระทรวงฯ ใด แต่ที่ผ่านมาในรัฐบาลชุดนี้ได้นำนโยบายของท่านนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ไปปฏิบัติเป็นรูปธรรม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในหน่วยงานที่กำกับดูแลให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล เช่น ศอ.บต และกองทุนหมู่บ้าน เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ ของคนภาคใต้และเกษตรกรไทย" น.ส.ชนก กล่าว