กระแสเหนือกระสุน เทรนด์ ‘บ้านใหญ่’ สวมเสื้อส้ม
เทรนด์เสื้อส้มมาแรง นักการเมืองบ้านใหญ่หรือทายาทอดีต สส. จึงต้องวิ่งไปตามกระแส เพราะประชาชนยังฝากความหวังการเปลี่ยนประเทศกับพรรคก้าวไกล
Key Points
- กระแสความนิยมของพรรคก้าวไกลยังแรงทั่วประเทศ
- การเมืองท้องถิ่น หรือบ้านใหญ่เลือกร่วมงานกับพรรคก้าวไกล เพื่อต่อยอดในการเลือกตั้งระดับชาติ
- สส.ไทยสร้างไทย บางส่วน มุ่งหวังให้ถูกขับ จะได้ไปอยู่กับพรรคร่วมรัฐบาล
ปรากฏการณ์พายุสีส้ม หรือกระแสเหนือกระสุน ยังมาแรงในขอบเขตทั่วประเทศ ทำให้นักการเมืองทั้งระดับท้องถิ่น และระดับชาติ พากันทิ้งพรรคเดิมหันมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกลมากขึ้น
หลายคนหวังที่จะได้สวมเสื้อส้มลงสนามการเมืองท้องถิ่น บางคนก็เตรียมการระยะยาว รอลงสมัคร สส.สมัยหน้า
สมรภูมิการเมืองยโสธร เป็นกรณีที่น่าศึกษา เมื่อมีทายาทนักการเมือง ‘บ้านใหญ่’ ทิ้งเสื้อตัวเก่า หันมาสวมเสื้อส้ม
ต้นปี 2565 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย เปิดตัวผู้สมัคร สส.จังหวัดยโสธร พรรคไทยสร้างไทย 3 คนคือ เขต 1 สุภาพร สลับศรี เขต 2 วรายุทธ จงอักษร ลูกชายผู้รับก่อสร้างรายใหญ่และเขต 3 สรวิศ เดชเสน ทายาท วิสันต์ เดชเสน อดีต สส.ยโสธร
ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า สุภาพร สลับศรี ได้รับเลือกเป็น สส.ยโสธร เขต 1 ส่วนหนุ่มหน้าใหม่ 2 คน สอบตก
ช่วงปีใหม่ 2567 สรวิศ เดชเสน ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่ชาว อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร เมื่อลูกชาย สส.เก่า สวมเสื้อสีส้ม เดินแจกปฏิทินพรรคก้าวไกล
ตอนที่เลือกตั้ง สส.สมัยที่ผ่านมา สรวิศ สวมเสื้อไทยสร้างไทย ได้แค่1,498 คะแนน ซึ่งดูเหมือนว่า โค้งสุดท้ายตระกูลเดชเสน แทบจะไม่ออกหาเสียงเลย
ตระกูลเดชเสน ถือว่าเป็นบ้านใหญ่ อ.เลิงนกทา โดย ส.ต.ท.ผอง เดชเสน เป็น สส.ยโสธร พรรคชาติไทย ปี 2526 มีกิจการรถโดยสายประจำทาง และปั๊มน้ำมัน
หลัง ส.ต.ท.ผอง เดชเสน เสียชีวิต วิสันต์ เดชเสน ก็รับมรดกการเมืองเป็น สส.ยโสธร 8 สมัย
ย้อนไปปี 2565 วิสันต์เป็นคนแรกๆ สนับสนุนคุณหญิงหน่อย ตั้งพรรค ทสท. และฝากฝังให้ลูกชาย สรวิศ ลงสนามเลือกตั้งเขต 3 ยโสธร
วันนี้ วิสันต์ คงประเมินแล้วว่า การสวมเสื้อพรรคก้าวไกล น่าจะทำให้ลูกชายได้เข้าสภาฯ มากกว่าการสวมเสื้อไทยสร้างไทย หรือพรรคอื่น
คนหนุ่มอีกรายหนึ่ง วรายุทธ จงอักษร ลูกชายของเสี่ยสอด-พิจิตร จงอักษร ผู้รับเหมารายใหญ่ในพื้นที่ และอดีต ส.อบจ.ยโสธร ก็สวมเสื้อ ทสท.ลงสนามเขต 2
เสี่ยสอด ทุ่มสรรพกำลังหาเสียงเต็มที่ สไตล์บ้านใหญ่ใจถึง จึงทำให้ลูกชาย วรายุทธ ได้ 34,581 คะแนน เป็นอันดับ 2 แพ้แชมป์เก่า เพื่อไทย
หลังแพ้เลือกตั้ง วรายุทธ ลูกชายเสี่ยสอด ได้ลาออกจากพรรค ทสท.และมาสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล
ตอนนี้ ชาวบ้านแถว อ.คำเขื่อนแก้ว ก็วุ่นเล็กๆ เมื่อ พิริยพงศ์ พุ่มพวง อดีตผู้สมัคร สส.ยโสธร เขต 2 ยังเดินแจกปฏิทินสวัสดีปีใหม่ของก้าวไกล
เสี่ยสอด ผู้รับเหมารายใหญ่คงคิดเหมือนกับเสี่ยวิสันต์ ให้ลูกชายเลือกสวมเสื้อส้ม ดูจะมีอนาคตกว่าพรรคเดิม
คนเมืองบั้งไฟรู้สึกสงสารคุณหญิงหน่อย เพราะอดีตผู้สมัคร สส.ทิ้งพรรคไปหมด แถม สส.สุภาพร ก็ยังรอให้พรรคขับออก อยากไปอยู่พรรคฝั่งรัฐบาล
กรณีเสื้อส้มกับบ้านใหญ่ในเมืองยโสธร ก็เคยเกิดปัญหามาแล้วเมื่อการเลือกตั้งนายก อบจ.ยโสธร ปี 2563
เมื่อสฤษดิ์ ประดับศรี อดีตนายก อบจ.ยโสธร และอดีต สส.ยโสธร มาลงสมัครในนามคณะก้าวหน้ายโสธร ทำเอาชาวบ้านงงเป็นไก่ตาแตก
เนื่องจากตอนเลือกตั้ง สส.ยโสธร ปี 2562 สฤษดิ์ยังพา ธรานนท์ ประดับศรี ลูกชายหาเสียงในสีเสื้อภูมิใจไทย แต่สอบตก
สมาชิกพรรคก้าวไกลส่วนหนึ่งไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่ เพราะสฤษดิ์เป็นนักการเมืองบ้านใหญ่ มีแนวคิดการเมืองแบบเก่า
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และปิยบุตร แสงกนกกุล ก็มาเดินสายปราศรัยช่วยสฤษดิ์ จนมีกระแสตอบรับค่อนข้างดี
ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. วิเชียร สมวงศ์ เพื่อไทย ได้ 132,878 คะแนน ส่วนสฤษดิ์ ประดับศรี คณะก้าวหน้า ยโสธร ได้ 100,297 คะแนน
หลังแพ้เลือกตั้ง สฤษดิ์ก็หันหลังให้กับคณะก้าวหน้า และที่ตลกร้าย ในการเลือกตั้ง สส.ที่ผ่านมา สฤษดิ์สวมเสื้อพรรคพลังประชารัฐ ลงสนาม แต่ก็ได้ 4,963 คะแนน
แสดงว่าคะแนนแสนกว่าที่เลือกสฤษดิ์ สมัยนายก อบจ.ยโสธร การเลือกคณะก้าวหน้า เลือกธนาธร มากกว่าเลือกนักการเมืองบ้านใหญ่ที่ย้ายพรรคเป็นว่าเล่น
เทรนด์เสื้อส้มมาแรง นักการเมืองบ้านใหญ่หรือทายาทอดีต สส. จึงต้องวิ่งไปตามกระแส เพราะประชาชนยังฝากความหวังการเปลี่ยนประเทศกับพรรคก้าวไกล