จับตา'เฉลิมชัย' นัดแถลง คาดปมหมูเถื่อน 'วิรัช'ปัดเอี่ยว5ผู้ต้องหา

ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวพรรคประชาธิปัตย์ ได้มีการแจ้งผ่านไลน์กลุ่มสื่อมวลชน นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน  หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  เตรียมแถลงข่าววันที่16ม.ค. เวลา10.00น. ที่ห้องประชุมชั้น 3 ตึก เสนีย์ ปราโมช (ตึกหลัง)พรรคประชาธิปัตย์

ทั้งนี้คาดว่าเป็นกรณีมีชื่อเข้าไปพัวพันคดีหมูเถื่อน หลังคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) คดีหมูเถื่อน รับคดีพิเศษเพิ่มเติมอีก 2 คดี ได้แก่ คดีพิเศษที่ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมายและได้นำออกไปจำหน่ายตามท้องตลาดแล้วจำนวน 2,388 ตู้ และคดีพิเศษที่ 127/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์เข้ามาในราชอาณาจักรโดยมิชอบด้วยกฎหมายจำนวนกว่า 10,000 ตู้

ต่อมาได้รวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอาญาออกหมายจับ 5 บุคคล ประกอบด้วย

• นายหลี่เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า
• นายหยางยาซุง
• นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์
•  น.ส.นวพร เชาว์วัย
• นายสมเกียรติ กอไพศาล อดีตประธานคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และเป็นอดีตเลขาส่วนตัวนายเฉลิมชัย 

ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร รวมทั้งข้อหาร่วมกันฟอกเงิน 

กระทั่งวันนี้(15ม.ค.) ที่อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวนายสมเกียรติ 1 ใน 5 ผู้ต้องหาตามหมายจับระหว่างเดินทางจากกลับจากมาเก๊ามาลงเครื่องที่ท่าอากาศยานดอนเมือง 

 

ขณะที่นายวิรัช ปิยพรไพบูลย์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมสับปะรดไทยเจ้าของโรงงานสับปะรดกระป๋องที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ พี่ชายของนายเฉลิมชัย ให้สัมภาษณ์กรณี  ถูกพาดพิงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีหมูเถื่อน เนื่องจาก นายกรินทร์   มีนามสกุลเดียวกัน

โดยนายวิรัช ยืนยัน ว่า นายกรินทร์ ไม่ใช่ญาติ เป็นแค่คนมาขอใช้นามสกุลเท่านั้น ซึ่งตนรู้เพียงว่า ญาติเขาอยู่เมืองจีน อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับพ่อของตน ดังนั้นคนรู้จักกันมาขอใช้นามสกุล จึงไม่ได้มีปัญหาอะไร และได้สอบถามกับทางอำเภอว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งทางอำเภอยืนยันว่า ได้ จากนั้นจึงยื่นหลักฐานเอกสารไปตามกฎหมาย และมีการตรวจสอบประวัติไม่พบการกระทำความผิด

นายวิรัช กล่าวว่า ขณะนี้ทนายอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลเพื่อฟ้องเอาผิด กับคนที่กล่าวหาว่าตนกับนายกรินทร์เป็นญาติกัน และมีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งหมูเถื่อน เพื่อดำเนินคดี เพราะเรื่องนี้ทำให้ตนและตระกูลเสียหาย 

“ข่าวที่ลงผิดพลาดโดยไม่มีข้อเท็จจริง ผมกำลังให้ทนายผมตรวจสอบอยู่ ถ้าไม่หยุด และก้าวก่ายความจริง พาดพิงทำให้ผมและตระกูลเสียหาย ไม่ว่าใครผมจะฟ้องทั้งนั้น เจอกันที่ศาล” นายวิรัช กล่าว