'ก้าวไกล’ จี้ ‘กองทัพ’ งบเทิดทูนสถาบันเพิ่ม 'งบลับ' เฉียด 500 ล้าน ทำภารกิจใด
"ก้าวไกล"จี้ "กองทัพ"งบเทิดทูนสถาบันเพิ่ม งบลับ ขอเท่าเดิมทุกปีเฉียด 500 ล้าน พร้อมถามงบ 3 ปีย้อนหลัง รถประจำตำแหน่ง "ปลัดกลาโหม"ยก ‘ระเบียบสำนักนายกฯ’ รองรับ ชี้งบพิทักษ์เทิดทูนสถาบัน แค่ 0.93% ของงบกลาโหม
17 ก.ค.ที่รัฐสภา นายชยพล สะท้อนดี สส.ก้าวไกล กมธ.การทหาร ในฐานะ กมธ.พิจารณางบประมาณฯ ปี 2567 ได้ตั้งคำถามถึงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ ถึงงบพิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน เปรียบเทียบงบประมาณปี 2566-2567 ที่งบประมาณส่วนนี้เพิ่มขึ้น จากเดิม 1,449 ล้านบาท เป็น 1,843 ล้านบาท หรือ 27.18 % โดยเฉพาะกองทัพเรือ ที่เพิ่มจาก 45 ล้านบาท เป็น 395 ล้านบาท หรือกว่า 769 % และกองทัพอากาศ ที่เพิ่มจาก 35 ล้านบาท เป็น 65 ล้านบาท หรือกว่า 81 % จึงขอถามว่าเพิ่มขึ้นมาอย่างไรบ้าง
พร้อมกันนี้ นายชยพล ยังได้ถามถึงได้ถามรายละเอียดงบประมาณและการดำเนินการทุกหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างความเข้าใจ เพื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมทั้งถามถึงเงินราชการลับ ที่มีการขอเท่าเดิมไปเรื่อยๆ มีการใช้งานอย่างไรบ้าง เพราะงบประมาณปี 2566-2567 เท่ากัน 469 ล้านบาท ซึ่ง กมธ. จะรับทราบได้หรือไม่ เพราะทางเหล่าทัพจะชี้แจงว่าเป็นชั้นความลับ แต่เป็นงบที่เรามองไม่เห็น จึงอยากให้กองทัพชี้แจงเรื่องนี้
นอกจากนี้ นายชยพล ยังถามเรื่องการตัดลบงบประมาณในส่วนตำแหน่ง ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ’ ต่างๆ ที่ไม่จำเป็นต้องขึ้นมายกแผงทั้งรุ่น
อีกทั้งขอระเบียบประกาศการใช้รถประจำตำแหน่และงบประมาณย้อนหลัง 3 ปี และรายละเอียการลดจำนวนนายพล ไม่ใช่กั้นแค่เพียงการลดจำนวนนักเรียนเตรียมทหาร เพื่อรอเวลานายพลดลดลงไป เพราะตนมองว่าควรจะปรับลดได้เลย
จากนั้น พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงงบราชการลับว่าเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ปี 2547 ผ่าน 4 ภารกิจ ด้านความมั่นคงและการป้องกันราชอาณาจักร ภารกิจด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภารกิจด้านข่าว และภารกิจอื่นที่มีลักษณะปกปิด เพื่อประโยชน์ในด้านเศรษฐกิจ สังคม หรือโดยสภาพแห่งเทคโนโลยี ซึ่งงบส่วนนี้ได้รับการตรวจสอบจากสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเรื่องรถประจำตำแหน่งยึดตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยรถราชการ ปี 2523 ที่กำหนดรถราชการใช้กับตำแหน่งใดบ้าง ส่วนหลักเกณฑ์ค่าตอบแทนแบบเหมาจ่ายยึดตามมติ ครม. ปี 2457
ส่วนงบประมาณพิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบัน หน่วยทหารกระจัดกระจายทั่วประเทศ มีพื้นที่รับผิดชอบของตนเอง ตั้งอยู่ตามจังหวัดอำเภอ ของแต่ละเหล่าทัพชัดเจนเหมือนกับพื้นที่บรรเทาสาธารณภัยที่เข้าไปช่วยเหลือกับประชาชน ดังนั้นมีความจำเป็นในเรื่องของงบประมาณที่พิทักษ์รักษาเทิดทูนสถาบันจะต้องมีทุกหน่วยงานและงบประมาณที่เพิ่มของสำนักงบประมาณที่ตั้งงบฯมิให้ใช้งบกลางให้ตั้งงบตัวเอง จึงเป็นที่มาของงบปีนี้ที่เพิ่มขึ้น และงบพิทักษ์เทิดทูนสถาบันสัดส่วน 0.93% ของงบกระทรวงกลาโหมทั้งหมด
พล.อ.สนิธชนก ยังระบุต่อว่า กำลังให้กรมพระธรรมนูญดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่ล้าหลัง ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งขัดกับกฎหมายใหม่ที่ออกมาอยู่ระหว่างการดำเนินการ
จากนั้น พล.อ.สนิธชนก ได้กล่าวสรุปจบการชี้แจงงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมและสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมว่า กระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า ได้ปรับตัวตามยุคสมัยตามเหตุการณ์ตามภัยคุกคามมาโดยตลอด ไม่ได้ปล่อยให้ล้าหลัง และจะใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ากับประเทศชาติและตระหนักอยู่ตลอดว่าเม็ดเงินมาจากภาษีของราษฎร