‘สานอุดมการณ์พ่อ-ตามรอยแม่’ จังหวะ‘ชนม์ทิดา’เดิมพัน‘อัศวเหม’
สัญญาณ"บ้านใหญ่ม้าทองคำ" สลัดแบรนด์พรรค ชักธงรบสนามท้องถิ่น จับตา "เพลง ชนม์ทิดา" ทายาทรุ่น3 ในวันที่ ไร้ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เสาหลักบ้านใหญ่ ถึงเวลาส่งต่อ “มรดกการเมือง” ด้วยเดิมพันที่แพ้ไม่ได้ !!
Key Points:
- สานต่ออุดมการณ์พ่อ-เดินตามรอยแม่! ทำการเมืองในนาม “กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า”สัญญาณชักธงรบจาก “บ้านใหญ่ม้าทองคำ”
- “เพลง”ชนม์ทิดา ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ด้วยเหตุผล “ข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย” ระหว่างการทำงานในฐานะสส. และการทำงานการเมืองท้องถิ่น ทว่าเบื้องลึกจริงๆ มีมากกว่านั้น
- “พิม อัศวเหม” ทายาทรุ่น 3 หลานอาของ “ชนม์สวัสดิ์” และเป็นหลานปู่“วัฒนา” ก็ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ปีที่แล้ว
- ในยามที่ไร้ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เสาหลักบ้านใหญ่ม้าทองคำ จังหวะก้าวย่างในการส่งต่อ “มรดกการเมือง” ม้าทองคำหลังจากนี้ มีเดิมพันสูงลิบชนิดแพ้ไม่ได้ !!
สานต่ออุดมการณ์พ่อ-เดินตามรอยแม่! ทำการเมืองในนาม “กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า”สัญญาณชักธงรบจาก “บ้านใหญ่ม้าทองคำ” ส่งผ่านไปถึงการเมืองระดับท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดในอนาคตอันใกล้
หลังการลาออกของ“ศักดิ์สยาม ชิดชอบ”จากตำแหน่งเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยและสส.บัญชีรายชื่อ “คอการเมือง”ต่างจับตาไปที่จังหวะก้าวย่างของเมืองปากน้ำ
“เพลง” ชนม์ทิดา อัศวเหม ลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนหนึ่งเดียวของ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์”อดีตประธานหอการค้าจังหวัดสมุทรปราการ และ“มาดามตู่”นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ
รวมทั้งเป็นหลานปู่ “วัฒนา อัศวเหม” นักการเมืองผู้มากบารมี และยังถือเป็นทายาทรุ่น 3 บ้านใหญ่เมืองปากน้ำ อยู่ในลิสต์รายชื่อลำดับถัดไปที่เตรียมตีตั๋วผู้แทนเข้าสภา
แต่คล้อยหลังแค่ข้ามคืน “เพลง” ชนม์ทิดา ได้ประกาศลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ด้วยเหตุผล “ข้อจำกัดทางด้านกฎหมาย” ระหว่างการทำงานในฐานะสส. และการทำงานการเมืองท้องถิ่น
ทว่าเบื้องลึกจริงๆ มีมากกว่านั้น!
ไล่มาตั้งแต่การปรากฎภาพเคียงข้างระหว่าง “เพลง ชนม์ทิดา” และ “แม่ตู่ นันทิดา” ที่เดินสายลงพื้นที่เมืองปากน้ำเสมือนเป็นการแนะนำตัวล่วงหน้าในศึกเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะเกิดขึ้น
นั่นคือ การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(นายกอบจ.) และสมาชิกสภา อบจ.ทั่วประเทศ ซึ่งชุดปัจจุบันจะครบวาระในเดือนธ.ค.2567 นี้ และตามไทม์ไลน์ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 45 วัน คาดว่า การเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2568 หรือราว 1 ปีข้างหน้า
อย่างที่รู้กัน “สนามเมืองปากน้ำ” ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของตระกูลอัศวเหม มาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ยุค “วัฒนา” ผู้มีสมญานาม “เจ้าพ่อปากน้ำ” ส่งต่อรุ่นต่อรุ่น จนมาถึงทายาทรุ่น 3
กระทั่งการเลือกตั้งครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พ.ค.2566 เกิดปรากฎการณ์เดิน 2 ขา ภายในบ้าน “อัศวเหม” ซึ่งเวลานั้นยังมี “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เป็นแม่ทัพใหญ่
ในส่วน “เพลง ชนม์ทิดา” ซึ่งรู้กันโดยทั่วว่า เป็นหวานใจของ “เป๊ก” เศรณี ชาญวีรกูล ลูกชายคนเดียวของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 5 พรรคภูมิใจไทย ตามคำชักชวนของ “อนุทิน”
ฝั่ง “เสี่ยหนู อนุทิน” ประกาศกร้าวกลางเวทีหาเสียง “ถ้าเลือกภูมิใจไทย ไอ้ลูกสะใภ้ผมก็ได้เข้าสภาไปด้วย ” เช่นนี้จึงเป็นเหตุให้ 2 ตระกูลต้องเกี่ยวดองกันไปโดยปริยาย
ขณะที่ “อัศวเหม” คนอื่นๆ แบ่งเป็น “3 หลานชายวัฒนา” (ลูกพี่ชาย-น้องชายวัฒนา ) ประกอบด้วย อัครวัฒน์ อัศวเหม ลงชิงเขต 1 วรพร อัศวเหม ลงชิงเขต 4 ต่อศักดิ์ อัศวเหม ลงชิงเขต 7 ในนามพรรคพลังประชารัฐ
ขณะที่อีกหนึ่งทายาทแถว 3 คือ พิม อัศวเหม ลูกสาว “พูนผล-ประภาพร อัศวเหม” และเป็นหลานปู่ของวัฒนาอีกคน ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 8 พรรคพลังประชารัฐ
เป็นเช่นนี้จึงมีการมองเกม “บ้านใหญ่ม้าทองคำ” ว่า เป็นการเดินหมากเลือก “2 ใบ 2 พรรค” คือ บัญชีรายชื่อ ให้เลือกภูมิใจไทย และ สส.เขต ให้เลือกกลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า (พรรคพลังประชารัฐ)
ทว่า ผลที่ออกมากลับผิดคาด เมื่อเมืองปากน้ำถูก “ส้มกลืน” ยกจังหวัด “5 อัศวเหม” จาก 2 พรรค ไม่ได้เข้าสภาฯ แม้แต่คนเดียว เมื่อเช็กรายเขต นอกจากจะพ่ายผู้สมัครหน้าใหม่แล้ว คะแนนยังหล่นวูบ ทิ้งห่างแชมป์ คือ พรรคก้าวไกลไปหลายช่วงตัว
ไม่ต่างจากคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ทุกเขต “พลังประชารัฐ” หล่นมาอยู่ลำดับ 4 ด้วยคะแนน 24,746 คะแนน ขณะที่“ภูมิใจไทย” ไล่หลังมาในลำดับที่ 5 ด้วยคะแนน เพียง 13,362 คะแนน
ไล่ลึกไปกว่านั้น ไม่ได้มีเพียงแค่ “เพลง ชนม์ทิดา” ทายาทรุ่น 3 อัศวเหม ที่เลือกสลัดแบรนด์พรรคลงสู้สนามท้องถิ่นแบบเต็มตัวแต่เพียงเท่านั้น
แต่ยังมีในส่วนของ “พิม อัศวเหม” ทายาทรุ่น 3 หลานอาของ “ชนม์สวัสดิ์” และเป็นหลานปู่“วัฒนา” ที่ได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐไปตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. ปีที่แล้ว แถมช่วงที่ผ่านมายังเดินสายลงพื้นที่แบบถี่ยิบ แนะนำตัวล่วงหน้าไปแล้วเช่นเดียวกัน
ขณะที่เมื่อวันเด็กที่ผ่านมาก็ยังปรากฎภาพ “หลานพิม” ลงพื้นที่ร่วมกับ “อาตู่” นันทิดา มอบของขวัญวันเด็ก ไม่ต่างจากนักการเมืองสายปากน้ำคนอื่นๆ ที่เริ่มขยับหมากเดิมเกมสนามท้องถิ่นแต่เนิ่นๆ
ทั้งหมดทั้งมวล ย่อมเป็นการตอกย้ำสัญญาณชักธงรบจาก “บ้านใหญ่ม้าทองคำ” ในการเดินเครื่องเต็มสูบสู่สนามเลือกตั้งท้องถิ่นในเร็วๆ นี้
จากความพ่ายแพ้แบบยับเยินในการเมืองสนามใหญ่ จึงกลายเป็นศึกหนักของ “บ้านใหญ่ม้าทองคำ” ในการแก้เกมในอนาคต โดยเฉพาะสนามท้องถิ่นที่ต้องกลับมาขบคิดอย่างหนัก
ยิ่งในยามที่ก้าวไกล “คู่แค้น” สำคัญกำลังเผชิญ “คลื่นใต้น้ำ” จากปัญหาการวางตัวผู้สมัคร
ไม่นานมานี้เกิดกรณีที่ “ธนาชัย เพชรบดี” รองนายกเทศมนตรีตำบลสำโรงเหนือ มีการขึ้นป้ายทั่วเมืองปากน้ำ เปิดตัวลงสมัครนายกอบจ.สมุทรปราการ ในนาม “กลุ่มสมุทรปราการก้าวไกล”
ทว่าในภายหลัง เพจพรรคก้าวไกลสมุทรปราการ-move forward party กลับมีการโพสต์ชี้แจงว่า “ธนาชัย”ไม่ได้เป็นผู้สมัครที่ผ่านกระบวนการรับรองของพรรคก้าวไกล และได้จัดทำป้ายในนามพรรค โดยมีข้อความว่าเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ. ในนามพรรคก้าวไกลขึ้นเอง
จังหวะนี้เองอาจเป็นเกมเข้าทางบ้านใหญ่ปากน้ำ ในการชิงจังหวะตัดหน้าโชว์ความพร้อมส่งสัญญาณชักธงรบข่มขวัญคู่ต่อสู้ไปในคราวเดียวกันอีกด้วย
ต้องจับตาในยามที่ไร้ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์” เสาหลักบ้านใหญ่ม้าทองคำด้วยแล้ว จังหวะก้าวย่างในการส่งต่อ “มรดกการเมือง” ม้าทองคำหลังจากนี้ มีเดิมพันสูงลิบชนิดแพ้ไม่ได้ !!