เลขา กกต.ปัดให้ความเห็นปมแจกเงินดิจิทัลไม่ตรงปก มีอำนาจแค่ดูข้อกฎหมาย

เลขา กกต.ปัดให้ความเห็นปมแจกเงินดิจิทัลไม่ตรงปก มีอำนาจแค่ดูข้อกฎหมาย

เลขา กกต.ปัดออกความเห็น ปมแหล่งที่มาแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตไม่ตรงปก ตามผลศึกษา ป.ป.ช. เผยมีแค่อำนาจพิจารณาข้อกฎหมายเท่านั้น ชี้พรรคการเมืองทำนโยบายหาเสียงไม่ครบ เป็นทุกรัฐบาล

เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2567 ที่ห้องประชุมออดิทอเรียม บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กทม. นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีโครงการ แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ของรัฐบาล ที่สำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ความเห็นว่าแหล่งที่มาของเงินเปลี่ยนไป โดยการออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) กู้เงินฯ 5 แสนล้านบาท ว่า ตนทราบเพียงแต่ในข่าว กกต.ต้องทำไปตามกฎหมาย ก่อนการหาเสียง โครงการลักษณะนี้มีกว่า 756 โครงการ งบประมาณรวม 70 ล้านล้านล้านบาท ขณะนั้นดูเพียงว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ อาทิ สัญญาว่าจะให้ หรือเข้าข่ายหลอกลวงหรือไม่ โดยจะพิจารณาว่าใช้งบประมาณแผ่นดินหรือไม่ อยู่ในอำนาจหน้าที่ที่จะทำหรือไม่ รวมไปถึงอยู่ในวิสัยที่จะทำหรือไม่ แต่ไม่ได้พิจารณาว่าดีไม่ดี เพราะเป็นเรื่องของประชาชน พรรคให้ข้อมูลกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งแล้ว กกต.จะพิจารณาเพียงข้อกฎหมาย

นายแสวง กล่าวอีกว่า เมื่อผ่านการเลือกตั้งเข้ามา ข้อเสนอแนะที่ว่าไม่ตรงปก ที่ผ่านมาทุกรัฐบาลมีโครงการที่หาเสียงไว้ บางครั้งก็ไม่ทำเลย บางครั้งก็ทำต่างจากที่หาเสียงไว้ ซึ่ง กกต.ก็ต้องมาดูว่า การที่รัฐบาลทำเพียงบางส่วนของนโยบาย หรือไม่ทำเลย หรือไม่ตรง ผิดกฎหมายหรือไม่ และกฎหมายอนุญาตให้เราทำได้แค่ไหน ย้ำว่า กกต.ไม่สามารถทำเกินกว่ากฎหมายได้

นายแสวง กล่าวด้วยว่า ไม่สามารถตอบได้ว่า แหล่งที่มาของเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ผิดจากที่หาเสียงไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ เพราะในชั้นการพิจารณาของ กกต. จะพิจารณาเพียงการใช้เงินจากที่ใด แหล่งเงินมาจากไหน สิ่งที่ทำอยู่ในอำนาจหน้าที่หรือไม่ แต่เมื่อมีคนมาร้อง ก็ต้องพิจารณาว่าอำนาจของ กกต.กฎหมายให้อำนาจแค่ไหน

เมื่อถามว่า กกต.จะส่งความเห็นไปยังรัฐบาลหรือไม่ นายแสวง กล่าวว่า กกต.ไม่มีหน้าที่วินิจฉัยหรือให้ความเห็น ต้องมีข้อเท็จจริงทางกฎหมายแล้วจะวินิจฉัย ไม่สามารถให้ความเห็นก่อนได้