'ดีเอสไอ'ให้ประกัน 'เฮียเก้า' 2 แสน เหตุไร้พฤติกรรมหลบหนี
"ดีเอสไอ"ให้ประกัน "เฮียเก้า"2 แสน เหตุไม่มีพฤติกรรมหลบหนี เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับรู้จัก "เฉลิมชัย" ด้านรักษาการอธิบดี DSI รับพบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกในคดีลักลอบค้าเนื้อสัตว์เถื่อน
23 ม.ค.2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษดีเอสไอ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดี ดีเอสไอ เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนและคดีตีนไก่สวมสิทธิ โดยมี พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาเตรียมเชิญข้าราชการระดับสูง และข้าราชการหน่วยงานของรัฐในการเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการการนำเข้าสินค้าทางการเกษตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนสุกรแช่แข็ง เนื้อวัว ตีนไก่ ชิ้นส่วนไก่ ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.64 จนถึงปัจจุบัน เพื่อนำไปสู่การขยายผลหาผู้มีส่วนร่วมในการกระทำผิดเพิ่มเติม
หลังการประชุมซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง พ.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกรณีของตู้คอนเทนเนอร์ที่ค้างท่า จำนวน 161 ตู้ ซึ่งได้นำสำนวนส่ง ป.ป.ช.ไปบางส่วนแล้ว /กลุ่มที่ 2 คือ กลุ่มนำเข้าและผ่านไปยังห้องเย็น จำนวน 2,388 ตู้ ซึ่งรอหลักฐานจากกรมศุลกากรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินคดีต่อไป และกลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มตีนไก่สวมสิทธิ์ ที่มีการออกหมายจับ 5 ราย คือ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า , นายหยาง ยา ซุง , นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ , น.ส.นวพร เชาว์วัย และนายสมเกียรติ กอไพศาล ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน
ซึ่งรับมอบตัวแล้ว 4 ราย เหลือเพียง นายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ (บุตรชายของเฮียเก้า) ที่ยังไม่ประสานขอมอบตัว ขณะนี้อยู่ที่ฮ่องกง
โดยในส่วนของ "เฮียเก้า" ที่เข้ามามอบตัวมาเมื่อวานนี้ ได้ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และขอนำเอกสารหลักฐานมาแก้ข้อกล่าวหาภายหลัง พนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวไปในวงเงิน 2 แสนบาท เนื่องจากเป็นการเข้ามามอบตัวเพื่อต่อสู้คดี ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี แต่ได้กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
.
โดย "เฮียเก้า" ไม่ได้ให้การซัดทอดบุคคลใด แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการในสังกัดในกระทรวงฯ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่ารู้จักหรือสนิทกับบุคคลเหล่านี้ระดับไหน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้ปากคำ อย่างไรก็ตามจากข้อมูลของดีเอสไอ พบว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นๆ เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจำนวนกี่คน ส่วนกรณีของนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชายของเฮียเก้า ผู้ต้องหาในคดีสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด.
ซึ่งหลังจากนี้จะต้องมีการเรียกข้าราชการระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์มาให้ข้อมูล หรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา ระบุว่า เป็นขั้นตอนในลำดับต่อไป โดยเบื้องต้นคณะพนักงานสอบสวนอาจจะเชิญระดับรองอธิบดีกรมปศุสัตว์มาให้ปากคำในฐานะพยานก่อน ยังไม่ถึงขั้นอธิบดี ส่วนระยะเวลานัดหมายเป็นสัปดาห์นี้หรือสัปดาห์ถัดไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับวาระการประชุมวันนี้เป็นการวิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งหมด เพื่อจะได้เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ตามที่เรียนแจ้งข้างต้น อีกทั้งข้อมูลที่พนักงานสอบสวนได้จากการสอบปากคำเฮียเก้าก็อาจเชื่อมโยงไปถึงบุคคลอื่นได้ โดยเฉพาะในเรื่องตีนไก่สวมสิทธิ์ไปขายประเทศจีน และหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะไปขยายผลในเรื่องหมูเถื่อน เพราะค่อนข้างมีความยุ่งยากและซับซ้อนมากกว่าตีนไก่ เนื่องจากมีตัวละครจำนวนมาก ทั้งยังมีการตัดตอนกันไปก่อน