'แพทองธาร' ร่วมถกผู้นำพรรค 'รัสเซีย - อาเซียน' หนุนสันติภาพ - มั่นคงภูมิภาค
“แพทองธาร” เข้าร่วมประชุมระดับผู้นำพรรค รัสเซีย - อาเซียน ส่งเสริมสันติภาพ และความมั่งคั่งในภูมิภาคร่วมกัน ยืนยันรัฐบาลเศรษฐา หนุนเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศ BRICS พัฒนาสันติภาพ ความมั่งคั่งกรอบกติกาโลกใหม่ที่เที่ยงธรรม
เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2567 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เข้าร่วมการประชุมระดับหัวหน้าพรรคการเมืองระหว่างรัสเซีย และกลุ่มประเทศอาเซียน: หัวข้อ “การจัดระเบียบโลกใหม่อย่างเที่ยงธรรม (A New Just World Order)” ทั้งนี้มี นายดมีตรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย และหัวหน้าพรรคยูไนเต็ดรัสเซีย เป็นประธานในการจัดประชุมครั้งนี้ด้วย
อีกทั้งยัง มีผู้นำพรรคการเมืองในกลุ่มประเทศอาเซียน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก ประกอบด้วย สมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโช ฮุน เซน ประธานพรรคประชาชนกัมพูชา นายเลอ ฮอย ทรัง ประธานด้านต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงประชาสัมพันธ์ศูนย์กลางกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม นายเดฟ ลักโซโน รองหัวหน้าพรรคโกลคา อินโดนีเซีย นายทองลุน สีสุลิด เลขาธิการใหญ่ พรรคประชาชนปฏิวัติลาว นายอับดุล ราห์มาน ดาลาน เลขาธิการพรรคอัมโน มาเลเซีย และนายอู ขิ่นยี ประธานพรรคสหสามัคคี และการพัฒนา สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า
นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “ในอดีตระเบียบโลกมีวิวัฒนาการมาจากมหาอำนาจทางการเมือง และอำนาจทางเศรษฐกิจเพียงไม่กี่ประเทศ โดยไม่ได้ให้ความสนใจกับผลประโยชน์ของประเทศเล็กๆ มากนัก การประชุมในวันนี้เป็นนิมิตหมายที่ดีที่มีการหารือในการเพิ่มบทบาทของกลุ่มประเทศอาเซียนในเวทีโลกในการสะท้อนปัญหา และหาทางออกต่อปัญหาต่างๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพ และความมั่งคั่งในภูมิภาคร่วมกัน
ทั้งนี้ในการประชุมวันเดียวกันนี้ เหล่าผู้นำในกลุ่มประเทศอาเซียนล้วนเห็นตรงกันว่าในแง่ของการเปลี่ยนแปลงทางภูมิศาสตร์การเมือง ภูมิศาสตร์เศรษฐกิจ และความท้าทายต่างๆ ที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เช่น เทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ภาวะโรคระบาด โควิด-19 การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงด้านพลังงาน และความเปลี่ยนแปลงอื่นๆ อีกมากมายต้องได้รับการใส่ใจ และการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เหล่าผู้นำพรรคการเมืองล้วนเห็นพ้องกันว่าระเบียบโลกต้องปรับเปลี่ยนอย่างเที่ยงธรรมเพื่อให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศกำลังพัฒนาด้วย
นางสาวแพทองธาร ได้แลกเปลี่ยนถึงแนวทางในการป้องกันภาวะวิกฤติทั้งในประเทศ และระดับภูมิภาค ผ่านมาตรการ และกลไกต่างๆ ในการช่วยเหลือ และสนับสนุนตนเองระหว่างกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น การจัดตั้งกองทุนสำรองระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน เพื่อป้องกันสงครามสกุลเงินที่อาจเกิดขึ้น หรือการออกแบบมาตรการ เช่น การริเริ่มตลาดตราสารหนี้แห่งเอเชีย ซึ่งถือเป็นอีกแนวทางที่จะเพิ่มช่องทางการระดมทุน รวมถึงการจัดตั้งสำนักงานวิจัยเศรษฐกิจมหภาคของกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อรับผิดชอบในการติดตาม คาดการณ์ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงิน หรือการให้คำแนะนำต่างๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเป็นตัวอย่างของสำนักงานที่มีบทบาทในการป้องกันวิกฤติที่สำคัญมากจนถึงปัจจุบัน
“นี่เป็นบางตัวอย่างของมาตรการที่เหล่าประเทศสามารถนำมาพิจารณาปรับใช้ในการสร้างระเบียบโลกใหม่ที่เที่ยงธรรม และยุติธรรมมากขึ้น” นางสาวแพทองธาร กล่าว
นางสาวแพทองธาร กล่าวอีกว่าในอดีตประเทศไทยได้ร่วมกับประเทศที่มีแนวคิดเดียวกันจัดตั้ง Asia Cooperation Dialogue (ACD) ซึ่งเป็นการประชุมระดับทวีปครั้งแรกในปี พ.ศ.2545 โดยมีประเทศสมาชิก ACD จำนวน 35 ประเทศ ACD ได้พัฒนาเป็นเวทีที่สำคัญสำหรับการเจรจาเพื่อแสวงหาวิธีการในการกำหนดรูปแบบระเบียบโลกใหม่อย่างเป็นรูปธรรม เมื่อมีการแลกเปลี่ยน และการพูดถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของประเทศเศรษฐกิจใหม่
เช่น องค์กร BRICS ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มประเทศ BRICS มีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพที่จะเป็นองค์กรที่ร่วมกำหนดระเบียบโลกใหม่ให้เที่ยงธรรมยิ่งขึ้น รัฐบาลไทยภายใต้การนำของท่านนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ได้แสดงเจตจำนงที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศ BRICS ในอนาคตเพื่อร่วมสนับสนุน สันติภาพ ความมั่งคั่ง และการกำหนดกรอบกติกาโลกใหม่ที่เที่ยงธรรม และครอบคลุมยิ่งขึ้น