‘ก้าวไกล’ ขยับปักธง อบจ. ‘เพื่อไทย’ ซอยเท้าเข็นผลงาน
บททดสอบสำคัญของรัฐบาล และเศรษฐา คือการเร่งสร้างผลงาน สร้างความเชื่อมั่น ให้ความนิยมทางการเมืองกระเดื่อง ในจังหวะที่ ”พิธา“ หวนคืนสังเวียนในสภา ”ธนาธร“ ลุย รื้อขุมทรัพย์กองทัพ เลี้ยงเรทติ้ง กับเป้าหมายต่อสู้ระยะอันใกล้ ”เลือกตั้งอบจ.“
Key Points
- ก้าวไกลวางโรดแมปชัดเจน เกมสภา และศึกต่อไปสู้เลือกตั้งสนามอบจ.
- “พิธา” คืนสังเวียนสภา “ธนาธร” คืนพื้นที่สื่อเลี้ยงกระแส
- "เพื่อไทย" เหมือนติดหล่มในการผลักดันผลงานเรือธง
- ความคืบหน้าของ “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไปไม่ถึงไหน เหมือนพายเรือในอ่าง
- เดินหน้าไม่ง่าย จะถอยยิ่งทำไม่ได้ เพราะเดิมพันทางการเมืองค้ำคอ
- ความยากรัฐบาล คือประคองความคาดหวังประชาชนไม่ให้ลดลง
- ระหว่างที่ “ดิจิทัลวอลเล็ต” หรือ “แลนด์บริดจ์” คาราคาซัง “รัฐบาล” กำลังปลุกปั้น "คาสิโนถูกกฎหมาย" หาเงินเข้าประเทศ
นโยบายเรือธงของรัฐบาล โดยเฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต ยิ่งพยายามเร่งเครื่อง ก็ยิ่งไม่ขยับไปไหนมากเท่านั้น
ความคาดหวังของเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่หมายมั่นปั้นมือให้เงินก้อนโต 5 แสนล้านบาท แจกจ่ายไปคนละหมื่น ก็ยังคาราคาซัง เดินหน้าไม่ได้ ถอยหลังยิ่งไม่ได้ใหญ่ เพราะมีเดิมพันทางการเมืองค้ำคอ
ข้อเสนอแนะของอนุฯ ป.ป.ช. นั่นเอง ที่ทำให้ท่าทีของแกนนำรัฐบาลต้องชะงัก บอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ เลื่อนประชุมไม่มีกำหนด รอความเห็นเป็นทางการจาก ป.ป.ช. ส่งมาถึง
เม็ดเงินที่รัฐบาลหวังจะอัดเข้าสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้า จึงไร้วี่แววเป็นความจริงในเร็ววันนี้
หนำซ้ำ งบประมาณปี 67 ที่ล่าช้าก็ยิ่งซ้ำเติมให้สถานการณ์เต็มไปด้วยความวิตกกังวล เนื่องจากเม็ดเงินลงทุนภาครัฐยังใช้จ่ายไม่ได้ อยู่ในขั้นตอนพิจารณาของกรรมาธิการ วาระ 2
ความยากในขณะนี้ของรัฐบาลคือ การประคับประคองความหวังของประชาชน ไม่ให้ลดต่ำลงจนเกินเส้นความอดทน
ลำพังจะอาศัยการบริโภคในประเทศ หรือการท่องเที่ยว ก็คงไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในกระตุ้นเศรษฐกิจให้ถึงเป้าที่ต้องการ
รวมถึงโครงการแลนด์บริดจ์ ที่รัฐบาลตีปี๊บว่า หลายชาติสนใจลงทุน ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะตอกเสาเข็ม นับหนึ่งได้เมื่อไหร่ ใครจะมาควักกระเป๋าให้เรา ข้อตกลงหรือเงื่อนไขแลกเปลี่ยน จะได้มากกว่าเสีย หรือเสียมากกว่าได้ ก็ยังต้องลุ้น
ดูไปแล้ว ทั้งดิจิทัลวอลเล็ต และแลนด์บริดจ์ อาจจะไม่ส่งผลต่อความนิยมของรัฐบาลในระยะสั้น
ความจำเป็นในวันนี้ รัฐบาลอาจจะต้องหาซีนสร้างสตอรี่ใหม่ๆ ขึ้นมาเรียกความเชื่อมั่นโดยด่วน ในวันที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คืนสังเวียนผู้แทนฯ ในสภา วางโรดแมปก้าวไกลเสร็จสรรพ
จะเหลือก็แค่ บ่วงที่ก้าวไกลเคยเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาเพื่อยกเลิก ม.112 เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ ม.49 วรรค 1 หรือไม่ ต้องลุ้นกันอีกยก
จังหวะเดียวกัน ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ในบทบาท กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการโอนธุรกิจกองทัพไปอยู่ในหน่วยงานอื่น ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาผ่านมา ตระเวนให้สัมภาษณ์อินฟลูเอนเซอร์ ผ่านช่องที่มีคนติดตามในโซเชียลมีเดียจำนวนมาก ซึ่งนับว่าตรงกลุ่มเป้าหมาย
การปรากฎตัวของธนาธร ถูกมองว่าเป็นการเริ่มโหมแคมเปญ ก่อนที่การเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ในสนาม อบจ.กำลังจะมาถึงต้นปี 68
ดูเหมือนก้าวไกลพร้อมแล้วในการมุ่งปักธง อบจ. พิสูจน์ความนิยมที่ได้รับจากการเลือกตั้งใหญ่ปี 66 ที่กวาดคะแนนป็อปปูลาร์โหวตเป็นที่ 1 หลายจังหวัด ไม่เว้นแม้แต่พื้นที่บ้านใหญ่
กลยุทธ์คู่แข่งก้าวไกล โดยเฉพาะเพื่อไทย หากไม่นับโมเดลเหยียบเท้ากัน หรือแพ็กกับพรรคการเมืองอื่นๆ สู้ศึก อบจ. จะเอาอะไรไปใช้หาเสียง
ยกเว้นว่า นายกฯ เศรษฐา จะลุยไฟดิจิทัลวอลเล็ต จนเงินเข้ากระเป๋าประชาชนภายในปีนี้ ก็อีกเรื่องหนึ่ง
ระหว่างนี้ หนึ่งในโครงการที่รัฐบาลนี้ซุ่มเอาจริง คือการผลักดัน“คาสิโนถูกกฎหมาย” ซึ่งมีการตั้งกรรมาธิการศึกษามาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ได้ผลการพิจารณาผ่านความเห็นชอบของสภาเรียบร้อย
แต่พอเปลี่ยนขั้ว ก็มีการตั้งกรรมาธิการขึ้นมาศึกษาอีกรอบ โดยเอาผลการศึกษาครั้งที่แล้ว มาปรับปรุงรายละเอียด ผลดีผลเสีย การร่างกฎหมายรองรับ โลเคชั่นจุดที่ตั้ง จะอนุญาตผู้ประกอบการอย่างไร การจัดเก็บรายได้เข้ารัฐอย่างไร
เรื่องนี้เกือบเป็นจริงขึ้นมาในยุคที่ลุงป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ อยู่ในตำแหน่งรักษาการนายกฯ แล้ว และมีแนวคิดสร้างสนามม้าแห่งใหม่ในเมืองหลวงอีกด้วย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น
ยังมีหลายเรื่อง ที่รอให้คนเป็นนายกฯ คนนี้ผลักดัน เหมือนคาสิโนถูกกฎหมาย หรือเอาเรื่องใต้ดินขึ้นมาบนดิน เพื่อเอาเงินเข้ารัฐ แต่ก็แทบไม่เห็นเศรษฐา พูดถึงมากเท่ากับดิจิทัลวอลเล็ต และแลนด์บริดจ์ หรือการสู้กันทางความคิดกับผู้ว่าฯแบงค์ชาติ
บททดสอบสำคัญของรัฐบาล และเศรษฐา คือการเร่งสร้างผลงาน สร้างความเชื่อมั่น ให้ความนิยมทางการเมืองกระเดื่อง
ความเป็นผู้นำ บางครั้งก็โฟกัสกับงาน และการหาเงินเข้าประเทศ จนอาจลืมมองไปว่า คู่ต่อสู้ทางการเมือง เตรียมพร้อมในสมรภูมิต่อไปเรียบร้อยแล้ว ไม่ได้สาละวนอยู่กับการแก้ปัญหา ผลักดันผลงานที่ยากจะเกิดขึ้นเหมือนกับรัฐบาล จนความได้เปรียบในการยึดกุมอำนาจรัฐ อาจไม่ได้ช่วยอะไรในทางการเมืองเต็มที่มากนัก