ก้าวไกล ถาม 'กห.-ทอ.' เลี่ยงเปลี่ยนสนามกอล์ฟ คาใจอ้างแนวร่อน-พนักงาน2พันคน

ที่รัฐสภา คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพ นำโดย น.ส.เบญจา แสงจันทร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.)ในฐานะรองประธาน กมธ.ฯ คนที่ 1, นายเชตวัน เตือนประโคน ส.ส.ปทุมธานี พรรค ก.ก.,นายเอกราช อุดมอำนวย ส.ส.กทม., และนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรรณ์ ส.ส.ฉะเชิงเทรา แถลงผลการประชุม 

นายเชตวัน กล่าวว่า ตามที่ผู้บัญชาการกองทัพอากาศได้ตอบโต้ว่า หากเปลี่ยนสนามกอล์ฟเป็นสวนสาธารณะ จะทำให้มีคนตกงานทันที 2,000 คน ทำให้เราสงสัยว่า 2,000 คนนั้นมีหน้าที่อะไรบ้าง และได้นับรวมทหารเกณฑ์ไปด้วยหรือไม่ เพราะเท่าที่คุยกับผู้ประกอบการธุรกิจสนามกอล์ฟท่านหนึ่ง ก็ได้เผยว่า สนามกอล์ฟของตนเองมีขนาดใหญ่กว่านี้ มีรีสอร์ทและสปาด้วย ก็ไม่น่าใช้จำนวนคนเยอะขนาดนั้น 

ส่วนการจ้างงานแคดดี้ เป็นงานที่ไม่ได้มีเงินเดือนประจำ แต่มีรายได้จากการออกรอบ ไม่มีสวัสดิการ ประกันสังคม ดังนั้น หมายความว่ากองทัพจ้างงานอย่างไม่เป็นธรรมหรือไม่ เรื่องการตกงานนั้น ข้อเสนอของตนคือ เมื่อเรามีสวนสาธารณะ มีศูนย์การเรียนรู้ เราสามารถเปลี่ยนคนที่ทำงานในส่วนนี้ มาทำงานในพื้นที่สาธารณะนี้แทนได้

นายเชตวัน กล่าวว่า สำหรับกรณีที่นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบโต้เมื่อวานนี้ โดยอ้างว่าสนามกอล์ฟอยู่ในพื้นที่แนวร่อน และเป็นพื้นที่ด้านความมั่นคง ตนเองเคยอภิปรายว่า แนวร่อนนับจากหัวสนามบิน มีระยะ 10 กิโลเมตร ต้องไปดูว่าแนวร่อนห้ามทำอะไรบ้าง ตามระเบียบการบินพลเรือน ได้กำหนดว่าห้ามปล่อยควัน บอลลูนล่าม ซึ่งหากต้องเคลียร์พื้นที่แนวร่อนในระยะ 10 กิโลเมตร แล้วตึกรามบ้านช่องในบริเวณนั้นจะต้องเอาออกด้วยหรือไม่ รับประกันได้หรือไม่ ว่าจะไม่มีการปล่อยควัน และบอลลูนล่ามในพื้นที่เหล่านั้น ดังนั้น เมื่อนำพื้นที่แนวร่อนมาใช้ทำสนามกอล์ฟได้ ทำไมจึงเอามาทำสวนสาธารณะให้ประชาชนไม่ได้

ด้านนายเอกราช กล่าวว่า ที่ตนเคยเสนอญัตติให้กองทัพอากาศ จ่ายภาษีค่าเช่าสนามกอล์ฟ และปรับปรุงสนามกอล์ฟในส่วนรางระบายน้ำให้มีความปลอดภัย ตามมาตรฐานการบินขององค์การการบินระหว่างประเทศ และกรณีที่ทางเจ้ากรมการบินพลเรือน ได้เข้ามาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการทหารนั้น ตนจึงมีข้อเสนอว่า อยากให้มีการปรับปรุงแบบโปร่งใส และเสนอให้สนามกอล์ฟที่อยู่ บนทางรันเวย์สนามบินดอนเมืองขณะนี้ เป็นพื้นที่ท่องเที่ยว จะได้เก็บภาษีมาเป็นเม็ดเงินคืนให้รัฐบาล

ด้านนายจิรัฏฐ์ กล่าวว่า ตนเพิ่งจะรู้จากการประชุม กมธ.ฯ ว่า กองทัพเรือรับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าสวนผลิต มาส่งต่อให้ประชาชนเหมือนเป็นพ่อค้าคนกลาง ที่ลูกค้าไม่มีสิทธิเลือก ฉะนั้นต้องตั้งคำถามว่า ที่พร้อมจะถ่ายโอนให้นั้นจริงหรือไม่ ได้คุยกันแล้วหรือยัง เดี๋ยวก็จะโดนหักหน้าแบบที่ผ่านมาอีก ที่บอกว่าจะตั้งนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก. ไปเป็นกรรมการ แต่สุดท้าย ผู้บัญชาการทหารเรือมาบอกกว่า ส.ส. เป็นไม่ได้ 

“อยากให้ท่านไปประลองกำลังกันในกระทรวงให้เสร็จสรรพก่อน ค่อยมาชี้แจงกับประชาชนให้เข้าใจ จะได้เกิดความหวังว่า เขาจะได้ใช้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเหมือนคนอื่นเขา อยากให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปเคลียร์กันให้เสร็จก่อน ส่วนเรื่องความตั้งใจของเรา จริงๆ แล้ว ไม่ต้องการจะไปทำลาย หรือสร้างชื่อให้ตนเองอย่างที่ถูกกล่าวหา เราทำตามหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎร ว่าภารกิจของกองทัพ ไม่ใช่สิ่งที่เขากำลังทำอยู่ ซึ่งปกติแล้วเวลาหน่วยงานราชการ เมื่อถูกยัดเยียดภารกิจให้ทำ มีแต่ร้องโอดครวญทั้งนั้น แต่เมื่อเป็นกองทัพ กลับหวงแหนไม่คิดจะปล่อยง่ายๆ โดยเห็นได้จากท่าทีการตอบในที่ประชุม กมธ. ที่ไม่มีท่าทีจะคืนธุรกิจไฟฟ้า ให้กับการไฟฟ้าฯ เลย จึงอยากให้ทุกฝ่ายตกลงให้เสร็จสรรพ และทำความเข้าใจกับภาระหน้าที่ของตัวเองให้ดี” นายจิรัฏฐ์ กล่าว