'พิธา' ชวนสังคมตั้งสติปมขบวนเสด็จ อย่าผลักคนรุ่นใหม่ หวั่นเกิดความรุนแรง
กังวลแต่เข้าใจ! 'พิธา' ชวนสังคมตั้งสติ ปมบีบแตรขบวนเสด็จ อยากให้ทุกฝ่ายคลี่คลาย ไม่ให้ร้าวไปกว่านี้ อย่าผลักคนรุ่นใหม่ออกไป ไม่ดีต่อภาพรวม หวั่นเกิดความรุนแรง แจงปมนายประกันคดี ม.112 ขอให้แยกเป็นกรณี
เมื่อวันที่ 10 ก.พ. 2567 เวลา 13.35 น. ที่ซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ถนนเยาวราช นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณีเป็นนายประกันให้ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ "ตะวัน" นักกิจกรรมทางการเมืองกลุ่ม "ทะลุวัง" ว่า คิดว่าไม่สำคัญ ในฐานะที่เป็นนักการเมืองและคนไทยคนหนึ่ง กังวลถึงสถานการณ์บ้านเมือง และอนาคตของคนรุ่นใหม่ด้วย จึงอยากเชิญชวนทุกคนตั้งสติ เข้าใจว่ามีหลายฝ่ายไม่สบายใจ กังวลใจ และต้องการความเข้าใจ ตนก็อยากให้ทุกฝ่ายคลี่คลายสถานการณ์ไม่ให้แตกร้าวไปมากกว่านี้ อย่างไรก็ตาม การผลักเยาวชนคนรุ่นใหม่ออกไป ไม่น่าจะเป็นผลดีต่อภาพรวม อยากจะให้ร่วมมือกัน หาทางออก ยํ้าว่าไม่อยากให้เกิดความรุนแรงไปมากกว่านี้
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกล โดยเฉพาะนายพิธา สนับสนุนพฤติกรรมของเยาวชน กรณีขบวนเสด็จหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า คงไม่ใช่สนับสนุน ส่วนเรื่องที่เกี่ยวกับนายประกัน เป็นเรื่องสิทธิการประกันตัว ต้องแยกเป็นกรณี ควรใช้ความละมุนละม่อม หาทางออกร่วมกัน เพื่อทำให้สถานการณ์คลี่คลาย
เมื่อถามย้ำว่า จุดยืนของนายพิธา ต่อการกระทำของ น.ส.ทานตะวัน เป็นอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า “กังวลใจ แต่เข้าใจ”
เมื่อถามว่า วันนี้กลุ่มเยาวชนมีการทำกิจกรรม และเกิดการปะทะกันเกิดขึ้น นายพิธา กล่าวว่า รู้สึกกังวล ทุกฝ่ายควรตั้งสติ และทุกภาคส่วนของสังคมต้องช่วยกัน หาทางออกจากความขัดแย้งในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า จะมีการยื่นประกันตัวกลุ่มเยาวชนคดี มาตรา 112 หรือไม่ เพราะในพรรคก้าวไกล ก็มีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย นายพิธา กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องแยก สิทธิในการประกันตัว ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะถูกสันนิษฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ไว้ก่อน ส่วนการอารักขาบุคคลสำคัญของประเทศ ก็เป็นอีกเรื่อง แต่การแสดงออกก็เป็นอีกเรื่องเช่นกัน อย่าไปผูกรวม จะทำให้การแก้สถานการณ์ไม่ได้ และแตกแยก ไม่เป็นผลดีต่อสังคมไทย