จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องทำให้ได้
เมื่อพิจารณาวิสัยทัศน์ข้อ 1 แล้วบอกได้เลยว่า ไม่มีอะไรใหม่ แถมยังมีความเสี่ยงที่เพิ่งปรากฏชัดจากการระบาดของโควิด-19 การพึ่งพาการท่องเที่ยวมากเกินไป เมื่อผู้คนเดินทางไม่ได้ภาคส่วนนี้จึงเสียหายมาก
ฟังดูฮึกเหิม “Thailand Vision “IGNITE THAILAND : จุดพลัง รวมใจ ไทยต้องเป็นหนึ่ง” 8 วิสัยทัศน์ที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ประกาศออกมาเพื่อใช้เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน พุ่งเป้าทำประเทศให้กลายเป็นศูนย์กลางเมืองแห่งอุตสาหกรรมระดับโลก แต่เมื่ออ่านลึกลงไปในรายละเอียดรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เริ่มตั้งแต่วิสัยทัศน์ข้อแรกคือการทำให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว อันนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่
มหกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อปี 2530-2531 เมื่อรัฐบาลประกาศให้เป็นปีท่องเที่ยวไทย Visit Thailand Year สิบปีต่อมามีแคมเปญ Amazing Thailand ที่ผู้คนยังจำได้ในปี 2541 ที่ช่วยแก้ทั้งปัญหาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวจากวิกฤติต้มยำกุ้ง จนการท่องเที่ยวกลายเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญมากตัวหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ไทยประเทศเดียวที่ใช้ท่องเที่ยวเป็นจุดขาย แทบทุกประเทศล้วนใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวดึงเม็ดเงิน ด้วยเหตุผลง่ายๆ ว่า การท่องเที่ยวลงทุนน้อย ใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ แล้วลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มให้ผู้คนเดินทางสะดวกสบายก็ขายได้
ดังนั้น เมื่อพิจารณาวิสัยทัศน์ข้อ 1 แล้วบอกได้เลยว่า ไม่มีอะไรใหม่ แถมยังมีความเสี่ยงที่เพิ่งปรากฏชัดจากการระบาดของโควิด-19 การพึ่งพาการท่องเที่ยวมากเกินไป เมื่อผู้คนเดินทางไม่ได้ภาคส่วนนี้จึงเสียหายมาก กระทั่งทั่วโลกเปิดประเทศกันหมดแล้วแต่นักท่องเที่ยวจีนที่ไทยคาดหวังไม่มาตามคาด การฟื้นตัวไม่ได้ดังใจส่งผลให้เศรษฐกิจโตช้าอีกเช่นกัน
ส่วนวิสัยทัศน์ข้อ 2 และ ข้อ 3 นับเป็นจุดแข็งเดิมๆ ดูไปแล้วคล้ายรัฐบาลกำลังกินบุญเก่า ที่น่าสนใจ คือวิสัยทัศน์ที่ 6 การผลักดันศูนย์กลางผลิตยานยนต์แห่งอนาคต วิสัยทัศน์ที่ 7 ศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล และวิสัยทัศน์ที่ 8 ศูนย์กลางทางการเงิน ที่รัฐบาลตั้งเป้าดึงอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ทั้งเอไอ ไฮเทค เซมิคอนดักเตอร์ และเทคโนโลยีสารพัดสารเพ
ในโลกที่ภูมิรัฐศาสตร์ยังตึงเครียด มหาอำนาจอย่างสหรัฐและจีนยังเขม่นกันไม่เลิก กระแสลดความเสี่ยงย้ายฐานการผลิตออกจากจีนกำลังมา ทำอย่างไรให้ไทยได้ประโยชน์ก็ต้องหันมาพัฒนาไฮเทค แน่นอนว่าไทยไม่ได้คิดได้ประเทศเดียว เพื่อนบ้านก็คิดได้เหมือนกัน เบื้องต้นมีวิสัยทัศน์แล้วขั้นต่อไปก็ต้องทำให้ได้จริง ไม่ขายฝันไปวันๆ และอาจมีคนถามถึงการจะเป็นศูนย์กลางการเงิน รัฐบาลทำนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตได้หรือยัง เรื่องนี้รัฐบาลต้องมีคำตอบ และที่ลืมไม่ได้พัฒนาเทคโนโลยีรองรับอนาคตแล้วอย่าลืมพัฒนาคนด้วย