‘จุลพันธ์’ รมช.คลัง แจงปมนโยบายสิทธิทำกินที่ราชพัสดุ
“จุลพันธ์” รมช.คลัง โพสต์เฟซบุ๊กแจงนโยบายมอบสิทธิการเช่าที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและทำกินในการดูแลของกรมธนารักษ์ ให้ใช้ประโยชน์ ยังไม่เคยเรียกคืนสิทธิการเช่า
วันที่ 2 มี.ค. 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจงเกี่ยวกับนโยบายมอบสิทธิการเช่าที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและทำกินในการดูแลของกรมธนารักษ์
โดยระบุว่า รายละเอียดสิทธิประโยชน์ในการเข้าสู่ระบบเช่าของกรมธนารักษ์ ดังนี้
- พื้นที่ราชพัสดุถูกจัดสรรให้พี่น้องประชาชนได้ใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องและยังไม่เคยเรียกคืนสิทธิการเช่า เว้นพื้นที่ติดภารกิจสำคัญทางราชการ เช่น ภารกิจทางทหารที่อาจเป็นอันตรายต่อประชาชน ก็จะไม่สามารถให้เช่าได้
- ระบบสิทธิการเช่า 3 ปี เป็นการปฎิบัติตามระเบียบของทางราชการ หากจัดให้เช่ามากกว่าสามปี เช่น 30 ปี จะมีการต่ออายุสัญญาเช่าอย่างต่อเนื่องคราวละ 3 ปี เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องเสียค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนสิทธิการเช่าจำนวนมาก (ในกรณีเช่าคราวละเกิน 3 ปี)
- สิทธิในการเช่าที่ดินราชพัสดุสามารถสืบทอดไปยังทายาทได้ ตั้งแต่ดำเนินการมารัฐยังไม่เคยเรียกคืนสิทธิการเช่า
- มีอัตราค่าเช่าที่ต่ำ ดังนี้
สำหรับการ #เช่าเพื่ออยู่อาศัย เนื้อที่เช่าทั้งหมดไม่เกิน 100 ตารางวา คิดอัตรา 25 สตางค์/ตารางวา/เดือน เกินกว่า 100 ตารางวา คิดอัตราค่าเช่า 50 สตางค์/ตารางวา/เดือน
หาก #เช่าเพื่อการเกษตร เนื้อที่เช่าทั้งหมดไม่เกิน 50 ไร่ คิดอัตราค่าเช่า 20 บาท/ไร่/ปี เกินกว่า 50 ไร่ คิดอัตราค่าเช่า 30 บาท/ไร่/ปี กรมธนารักษ์จะยกเว้นค่าธรรมเนียมแรกเข้าทั้งหมด ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการรังวัดทั้งหมด และเรียกเก็บหลักประกันสัญญาเช่าเท่ากับอัตราค่าเช่าเพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น
- ผู้เช่าจะได้รับการอำนวยความสะดวกและการดูแลจากรัฐในฐานะที่ดินเช่า มีการจัดการสาธารณูปโภคเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา การขอทะเบียนบ้าน และการช่วยบรรเทาความเสียหายเมื่อเกิดเหตุอุบัติภัยต่างๆ เนื่องจากเป็นพื้นที่ในการกำกับดูแลของรัฐโดยตรง
- ผู้เช่าสามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น เพราะสิทธิการเช่าที่ดินราชพัสดุสามารถนำไปเป็นหลักประกันเพื่อขอสินเชื่อจากธนาคารที่ดำเนินการโดยรัฐได้
- เมื่อทำสัญญาเช่าที่ดิน จะมีการยกเว้นค่าเสียหายฐานบุกรุกที่ดินราชพัสดุให้ผู้ได้สิทธิเช่า
- เป็นการแก้ปัญหาข้อพิพาทระหว่างรัฐและประชาชนอย่างยั่งยืน
นายจุลพันธ์ ระบุว่า จากความสำเร็จของ หนองวัวซอโมเดล ที่จังหวัดอุดรธานี และพื้นที่ในจังหวัดกาญจนบุรี ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในความร่วมมือของกรมธนารักษ์และกระทรวงกลาโหม ขอเชิญชวนพี่น้องที่สนใจมาเข้าร่วมโครงการกับกรมธนารักษ์ รัฐบาลพร้อมสนับสนุนและดูแลผู้เช่าที่ดินราชพัสดุ
"เราตั้งใจจะขยายพื้นที่โครงการเพื่อมอบสิทธิในที่ดินสำหรับอยู่อาศัยและทำกินแก่พี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไปครับ"