‘เศรษฐา’ เมิน คนไม่ชอบ โต้ โดนวิจารณ์ ทัวร์นอกไร้ผลงาน โว บ.ระดับโลกตกลงเพียบ

ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจเดินทางเยือนออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเยอรมนี ว่า การประชุมอาเซียน-ออสเตรเลีย ที่กรุงเมลเบิร์น ตั้งแต่เมื่อ4มี.ค.ที่ผ่านมา จุดประสงค์หลักๆที่ไปเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สร้างยุทธศาสตร์การร่วมมือกับทุกประเทศ มีการพบปะกับผู้นำหลายประเทศ ทั้งมาเลเซีย สปป.ลาว ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ พบปะกับภาคเอกชน6เจ้า จากนั้นบินไปกรุงเบอร์ลิน ร่วมงานท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งตนได้ไปประกาศว่า ปีหน้า จะผลักดันให้เป็นวาระแห่งชาติ ปี2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย Tourism Hub เราจะมีการยกระดับศิลปะวัฒนธรรมไทย อาหาร แฟชั่น ให้เป็นที่ยอมรับทั่วโลก จะมีห้างระดับโลกมาแสดงสินค้าที่ไทย มิชลิน ไกด์ รวมถึงการเริ่มต้นพูดคุยให้มีการจัดแข่งขัน Formula 1 ที่จะเป็น Street Race มิชลิน เวิล์ดฟู้ด เอ็กโปร ปารีสแฟชั่นโชว์ และกิจกรรมต่างๆ เราจะกระตุ้นเรื่องของการท่องเที่ยว 

นายกฯ กล่าวว่า หลังจากนั้นตนได้บินไปฝรั่งเศส ได้หารือกับนายนายเอมานูว์แอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ผลักดันเรื่องของFTA เป็นหลัก และเรื่องของการยกเว้นวีซ่าเชงเก้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นวาระที่พูดคุยกับทุกประเทศที่เราไปสหภาพยุโรป ท่านให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ทั้ง2เรื่อง และยังได้พบปะกับภาคเอกชนที่ฝรั่งเศส 23 ราย และตนยังได้ไปเมืองคานส์ ซึ่งปีหน้าเราจะไปจัดนิทรรศการที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยให้ใหญ่ขึ้น เพื่อขยายความให้กับต่างประเทศได้ทราบ และเมื่อเสร็จสิ้นก็ได้บินกลับมาที่กรุงเบอร์ลิน ได้พบปะพูดคุยกับภาคเอกชนเยอรมัน7ราย ที่เป็นค่ายรถชั้นนำ และยังได้ พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องของเยอรมนีถึงเรื่องFTAและวีซ่าเชงเก้น อย่างไรก็ตาม เราได้เชิญภาคเอกชนที่มีปัญหาในการทำธุรกิจในไทยมาร่วมพูดคุยเสนอแนะข้อคิดเห็น และอาจจะมีบางอย่างที่เขายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับประเทศไทย ก็มีการพูดคุยกันอย่างลงรายละเอียด เพราะฉะนั้นก็เชื่อว่าการเดินทางครั้งนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก 

นายกฯ กล่าวถึงเสียงวิพากย์วิจารณ์กรณีเดินทางไปแล้วไม่มีผลงานที่ชัดเจน ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ก็ได้ยินมาตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งมา ตนขอเรียนอย่างนี้ว่า จริงๆแล้วการลงทุนหลายอย่าง การลงทุนเป็นแสนล้าน เขาไม่ตัดสินใจภายในเวลา2-3เดือนหรอก หลายเรื่องต้องใช้เวลาพิจารณากันนาน ต้องมีเวลาพูดคุยกันนาน บางเรื่องที่เราได้เดินทางมาถึงตรงนี้ตรงนี้ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้รัฐบาลเดียวได้ริเริ่มขึ้นมา เราก็ต่อยอดจากรัฐบาลก่อนๆ มาด้วยที่เขาทำมาดี อะไรที่ทำดีก็พยายามจะต่อยอดต่อไป ก็สังเกตเรามา6เดือนแล้ว ต่อยอดจากรัฐบาลที่แล้วก็มาอยู่นาน การที่เราเดินทางไปบอกชาวโลก ว่าประเทศไทยเปิดแล้ว เหมาะสมกับการลงทุนเรื่องอะไรบ้าง ไม่ใช่แค่นายกฯคนเดียว ตัวผมคนเดียว

“จะชอบหรือไม่ชอบผมเป็นการส่วนตัว แต่ผมว่าอย่าด้อยค่าศักยภาพของประเทศไทย หน้าที่ผมคือต้องพิสูจน์ตัวเองเดินทางไปบอกว่าประเทศไทยมีอะไรดีบ้าง” นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ในหลายหน่วยงานและหลายกระทรวง ก็มีส่วนร่วมในการทำงาน มีการทำการบ้านกันเยอะมาก ไม่ใช่เป็นเรื่องอะไรที่อยู่ดีๆแล้วผมจะบินเข้าไปเจอ การบ้านที่เราทำกันมาก่อนหน้านั้นก็มโหฬารเยอะแยะไปหมด ลองไปสอบถามดูก็ได้ เรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เป็นเรื่องง่าย ถ้าย้อนเวลาไปเรื่องบางเรื่อง ที่บางท่านก็ข้อกังวล เช่น วีซ่าฟรีของประเทศจีน ตอนที่เราประกาศฟรีไปขาเดียว ก็มีคนบอกว่าเขาจะไม่ให้ กระทรวงต่างประเทศก็ทำมาได้ เราจะทยอยทำไปเรื่อยๆ อย่างเช่นวีซ่าเชงเก้น สหภาพยุโรปมีหลายประเทศ ไม่ใช่ประเทศเดียวที่สามารถตกลงได้ เราก็ต้องการให้ทุกประเทศมีความสบายใจ ในการพี่น้องคนไทยจะได้เดินทางอย่างสะดวก เรื่องที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดคือเรื่องการลี้ภัย ไปเที่ยวแล้วก็ไปเป็นโรบินฮู้ด หนีไปอยู่เลยทำนองนี้ เป็นเรื่องที่เขามีความกังวลมาก กระทรวงการต่างประเทศก็ต้องมีการให้ข้อมูลที่ชัดเจนว่าเรามีมาตรการอย่างไรที่จะปกป้องตรงนี้ได้ เมื่อสหภาพยุโรปมีหลายประเทศก็ต้องใช้เวลานานในการทำบ้าง 

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องที่เราได้ประกาศไป Ignite Thailand 8 ข้อ เป็นการเสริมศักยภาพของประเทศไทยให้โลกได้เข้าใจว่าดีอย่างไรที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ตนเชื่อว่า ยืนอยู่ในตรงนี้ตำแหน่งนี้ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองไปเรื่อยๆ คนมีหน้าที่จะต้องถามหรือให้ข้อคิดเห็น หรือไม่เห็นด้วยก็มีหน้าที่ที่จะถามมา หน้าที่ตนอยู่ตรงนี้เป็นนายกฯ ก็ต้องตอบ ทีมงานเราตนก็หวังว่า คำติบางคำก็อาจจะไม่ทำให้เขาต้องมีความไม่สบายใจหรือว่าหมดกำลังใจไป เพราะการที่ทำการใหญ่ขนาดเอาคนมาลงทุนเป็นล้านล้านล้านเนี่ย มันไม่ใช่แค่ตนคนเดียว มันเป็นทีมงานของข้าราชการที่ทำงานกันลืมเหน็ดลืมเหนื่อยกันมาทุกวัน อย่างที่ไปทุกคืนห้องสำนักงานเลขาธิการทำงานถึงตี3ทุกคืน กว่าจะจัดแต่ละประชุมได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเอาซีอีโอของบริษัทใหญ่ๆ มาเจอกันและจัดเวลาให้ลงตัว แค่นี้มันก็ยากเต็มที่ การเตรียมเอกสารถามตอบอะไรที่เขาต้องการบ้าง 

"ผมก็บอกว่าทุกอย่างต้องใช้เวลา การที่เราจะต้องประสบความสำเร็จมา ผมเชื่อว่าจากนี้ต่อไปก็จะทยอยเห็นเข้ามาเรื่อยๆ วันที่21มี.ค.นี้ ประธานไมโครซอฟท์ก็จะมาเยี่ยมเยียนที่ทำเนียบฯ มีการประกาศข่าวดี หลายบริษัทระดับโลกเขาตกลงแล้ว แต่เขาขอให้เก็บเป็นความลับไว้ก่อน เพราะต้องผ่านบอร์ดเขา เขาต้องการเคลียร์อะไรหลายๆ อย่าง เพราะฉะนั้นตรงนี้ถามตรงๆ ผมไม่รู้สึกอะไร ผมเป็นห่วงข้าราชการที่เขาทำงานกันหนัก ไม่อยากให้รู้สึกท้อถอยมากกว่ากับเสียงติฉินนินทาเหล่านี้" นายกฯ กล่าว

นายกฯ กล่าวว่า การนำเสนอผ้าขาวม้าใช้พันคอระหว่างเยือนต่างประเทศนั้น ไม่ได้หาซื้อมาเผื่อเป็นผู้นำแฟชั่นจ๋า แต่พี่น้องประชาชนนำมามอบให้ ผูกเอวด้วยความรักความผูกพัน ก็อยากตอบสนองเขาโดยการนำเอาสินค้าเก๋ๆ ไปให้ชาวโลกได้เห็นว่าเราเองก็มีตรงนี้เหมือนกัน ก็เอาไปน้อยไปนิดนึง อยากมีออฟชั่นมากกว่านี้หน่อย ซึ่งต่างชาติก็สนใจนำผ้าขาวม้าไปทำเป็นผลิตภัณฑ์ แต่ของพวกนี้ต้องใช้เวลา แบรนด์ใหญ่ๆ ของทั่วโลกมีมาตรฐานของ QC รวมถึงเรื่องเล่าที่มาที่ไป ของสิ่งของเหล่านี้ก็มีส่วน ตนก็เชื้อเชิญพวกแฟชั่นเฮ้าส์ต่างๆ ที่อยู่ฝรั่งเศสมาดู ว่าจะประสานความร่วมมือตรงไหนได้บ้างกับพี่น้องคนไทย ทางทูตไทยในฝรั่งเศสก็พยายามเก็บงานอยู่ 

นายกฯ กล่าวว่า ในเดือนพ.ค. จะมีการจัด Business Forum อีกครั้ง ระหว่างนักธุรกิจฝรั่งเศสและนักธุรกิจไทยที่ปารีส และจะกลับมาจัดที่ไทยในเดือนธ.ค. และนายมาครงจะมาเยือนไทย ปีหน้าด้วย 

"หลายเรื่องก็ข้องใจถามก็จะตอบ ทำไมไปบ่อยแล้วยังไม่ได้ผลงาน ถามอีกผมก็ตอบอีก ยินดีที่จะตอบ" นายกฯ กล่าว 

เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่อการจัดแข่งขัน Formula E และ Formula 1 ในประเทศไทย อันไหนจะเกิดก่อนกัน นายกฯ กล่าวว่า Formula E เกิดก่อนแน่นอน น่าจะเริ่มได้ที่เชียงใหม่ ต้นปีหน้า Formula 1 เกิดขึ้นเร็วสุด 2027 อีก3ปีข้างหน้า มีสล็อตว่างคุยกันเรียบร้อยแล้ว โดยในส่วนของผู้เกี่ยวข้องกับ Formula E ที่จะไปเจอกันที่เชียงใหม่ 16มี.ค.นี้ เพราะเขาเห็นมีอยู่2-3เมืองที่เหมาะสมจะทำ เราจะไปดูว่าจะไปดูพื้นที่ไหนที่มีศักยภาพบ้าง เพราะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเขาจะมาเต็มที่เลย