'เศรษฐา' เมินครหา 'นายกฯทับซ้อน' ยันอำนาจเต็ม-แนวโน้มควง'ทักษิณ'ลงพื้นที่
"เศรษฐา" เมินครหา "นายกฯทับซ้อน" ยืนยันมีอำนาจเต็ม "ทักษิณ"จิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย พร้อมยอมรับแนวโน้มควง"อดีตนายกฯ"ลงพื้นที่
ที่โรงแรมอนันตรา เชียงใหม่รีสอร์ท นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงโอกาสการลงพื้นที่ร่วมกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีประชาชนมาให้การต้อนรับ และยังเป็นบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทยด้วย โดยยอมรับว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่ยังไม่มีการนัดหมาย พร้อมเห็นว่า นายทักษิณ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคเพื่อไทย และยังเป็นจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย และยังเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีความนิยมสูง หากไม่ดึงประโยชน์ ประเทศก็จะไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่
ส่วนกังวลจะเกิดภาพนายกรัฐมนตรีทับซ้อนกันหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ยืนยันว่า ไม่เคยคิด และไม่เคยมีประเด็นดังกล่าว และรับทราบดีว่า อดีตนายกรัฐมนตรีหลาย ๆ คน มีความนิยมชมชอบสูง และตนเชื่อว่า ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีจากพรรคการเมืองใด ก็มีความหวังดีกับประเทศชาติ แม้จะมีแนวความคิด หรือนโยบายที่แตกต่างกันไป
แต่ขณะนี้ ตนเองเป็นนายรัฐมนตรี ก็จะต้องบริหารความคาดหวังของประชาชนทุกคน และอดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง
ซึ่งตนก็เชื่อว่า มีความหวังดี หากมีความเป็นไปได้ในข้อแนะนำ ก็จะต้องมาบริหารจัดการราชการ และความเหมาะสม ดังนั้น จึงไม่ได้คิดใด ๆ และยินดีรับฟังเสมอ พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่ได้มีแนวคิดที่จะขจัดข้อวิจารณ์ดังกล่าวด้วย
ไม่ว่าจะทับซ้อน 4 คน หรือ 5 คน ตนเองก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะไม่ได้เป็นการทุจริต หรือทำให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ และตนเองก็พร้อมที่จะชี้แจงข้อวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว และบริหารราชการแผ่นดินต่อไป ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจใด ๆ และไม่ได้รำคาญใจที่จะชี้แจง เพราะหากมีการถามอีกตนก็จะตอบอีก เพราะคือความจริง
นายเศรษฐา ยังย้ำถึงอำนาจการตัดสินใจของตนเองว่า
"ผมนายเศรษฐา ทวีสิน คือ นายกรัฐมนตรี และมีอำนาจตัดสินใจเต็มที่ ภายในรัฐธรรมนูญราชอาญาจักรไทย"
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเป้าหมายการตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรนอกสถานที่ ที่จังหวัดพะเยาว่า เป็นการประชุมธรรมดา และจะไปพิจารณาถึงความต้องการของพื้นที่ และเป็นความตั้งใจของรัฐบาล ที่อยากจะไปให้ครบทุกภาค และเวียนไปตามจังหวัดต่าง ๆ
ส่วนการลงพื้นที่ของตนเองนั้น นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า จะยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จากนี้ต่อไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคม ตนเองไม่มีภารกิจเดินทางไปต่างประเทศ แต่ก็จะลงพื้นที่ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันเสาร์หน้า (23 มี.ค.) ก็จะลงพื้นที่จังหวัดพิจิตร และในวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) จะลงพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา