‘ดามาพงศ์-หักพาล’ ‘ภาพเก่า’ เล่าแล้วเล่าอีก
ยามใดที่ "บิ๊กโจ๊ก" เข้าไปใกล้ชิดคนใน "ตระกูลชินวัตร" และ "ตระกูลดามาพงศ์" ก็มีจะคนไปขุดเรื่องเก่าความสัมพันธ์ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ กับ ดาบไสว หักพาล มาเล่าใหม่อยู่เสมอ
KEY
POINTS
- ยามใดที่บิ๊กโจ๊กเข้าไปใกล้ชิดคนในตระกูลชินวัตร และตระกูลดามาพงศ์ ก็มีจะคนไปขุดเรื่องเก่าความสัมพันธ์ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ กับ ดาบไสว หักพาล มาเล่าใหม่อยู่เสมอ
- เมื่อ พล.ต.ท.เสมอ ย้ายมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 ซึ่งมีกองบัญชาการตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา ดาบไสว หักพาล ผู้บังคับหมู่งานพลาธิการ ตำรวจภูธรภาค 9 จึงทำหน้าที่เป็นพลขับประจำตัวของ พล.ต.ท.เสมอ
- ดาบไสว หักพาล ทำหน้าที่เป็นพลขับให้ “นายเสมอ”เพราะรู้พื้นที่ และรู้จักนิสัยใจคอคนใต้ สมดังคำที่ว่า‘มีเสมอ ต้องมีไสว’ เมื่อนายกลับกรุงเทพฯ ดาบไสวก็กลับมาประจำการที่ฝ่ายพลาธิการตามเดิม
ชั่วโมงนี้ มวยคู่เอกไฟต์แรก ‘ต่อเฟรนด์ลี่’ และ ‘โจ๊กหวานเจี๊ยบ’ จบด้วยผลเสมอ แต่ฝ่ายหนึ่งใกล้แขวนนวม จึงไม่มีนักข่าวให้ความสนใจมากนัก ต่างจากอีกฝ่ายหนึ่งที่อายุราชการ ยังเหลืออยู่อีกบานเบอะ
เมื่อเจอหน้านักข่าวแถวทำเนียบฯ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. จึงต้องตอบคำถามเรื่องเป็นแมวชีวิตที่ 11 หรือไม่ รวมไปถึงคำถามนำทำนองว่า ฆ่าไม่ตาย
บิ๊กโจ๊กไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้ม มีเพียงคำถามเดียวที่ตอบคือ กรณีไปราชการที่เชียงใหม่ ในวันที่ ทักษิณ ชินวัตร กลับบ้าน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ บอกว่า ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยขบวนสำคัญ เพราะเป็นอดีตนายกฯ ไม่มีเรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวอะไรทั้งสิ้น
เมื่อนักข่าวถามนำว่า ถูกมองเป็นสายบ้านจันทร์ส่องหล้า บิ๊กโจ๊กตอบสั้นๆ ว่า ไม่มีสายไหน
ยามใดที่บิ๊กโจ๊กเข้าไปใกล้ชิดคนในตระกูลชินวัตร และตระกูลดามาพงศ์ ก็มีจะคนไปขุดเรื่องเก่าความสัมพันธ์ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ กับ ดาบไสว หักพาล มาเล่าใหม่อยู่เสมอ
อย่างเมื่องานกิจกรรม “แสงนำใจ ไทยทั้งชาติ เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต” ครั้งที่ 9 เฉลิมพระเกียรติ ที่ท้องสนามหลวง วันอาทิตย์ที่ 29 ต.ค.2566
คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ควงลูกสาว แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ออกงานครั้งแรก ซึ่งในวันนั้น มีคนปล่อยคลิปช่วงที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เข้ามาหาคุณหญิงอ้อที่นั่งอยู่บนโซฟา ด้วยการย่อตัวลงไปกล่าว ‘สวัสดี’ พร้อมทักทายสั้นๆ และลุกขึ้นโค้งคำนับ ก่อนเดินจากไป
สื่อหลายสำนักอธิบายภาพบิ๊กโจ๊ก เข้าคารวะคุณหญิงอ้อ ด้วยเรื่องเล่าในอดีต เมื่อครั้งที่ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ บิดาคุณหญิงพจมาน เคยรับราชการอยู่ภาคใต้ และมีลูกน้องคนสนิทชื่อ ดาบตำรวจไสว หักพาล ก็คือบิดาของบิ๊กโจ๊ก นั่นเอง
ผู้ที่ติดตามประวัติคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ก็คงทราบว่า บิดาคือ พล.ต.ท.เสมอ ดามาพงศ์ อดีตผู้ช่วยอธิบดีกรมตำรวจ เป็นนายตำรวจมีผลงานการปราบปรามและการสืบสวนที่โดดเด่นคนหนึ่ง
พล.ต.ท.เสมอ เป็นลูกชาย ร.ต.อ.จำปา ดามาพงศ์ แห่ง อ.จตุรัส จ.ชัยภูมิ บิดาคุณหญิงอ้อ เรียนจบหลักสูตรเตรียมทหารบกปีที่ 2 ได้เลือกเรียนหลักสูตรนายร้อยทหารบกสายตำรวจ จบการศึกษาเมื่อปี 2488 ติดยศร้อยตำรวจตรี และได้สมรสกับพจนีย์ ณ ป้อมเพชร
พล.ต.ท.เสมอและพจนีย์ มีบุตรธิดา คือ พงศ์เพชร ดามาพงศ์ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ พล.ต.ต.น.พ.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และบรรณพจน์ ดามาพงศ์ (บุตรบุญธรรม)
ในช่วงหนึ่ง พล.ต.ท.เสมอ ได้ไปรับราชการตำรวจในภาคใต้ ในตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 เนื่องจากปี 2515 จอมพลถนอม กิตติขจร หัวหน้าคณะปฏิวัติได้จัดตั้งกองบัญชาการตำรวจภูธร 1- 4 ขึ้นแทนกองบัญชาการตำรวจภูธรเดิม
กองบัญชาการตำรวจภูธร 4 มีอำนาจรับผิดชอบปกครองบังคับบัญชาตำรวจภูธร 14 จังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่กองบังคับการตำรวจภูธรเขต 8 - 9 เดิม
ภาคใต้ช่วงที่ พล.ต.ท.เสมอ มาดำรงตำแหน่ง ผบช.ภ.4 เป็นพื้นที่สีแดง พคท.ภาคใต้ขยายเขตจรยุทธ์อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ยังมากไปด้วยผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผลประโยชน์เถื่อนนอกระบบในทุกพื้นที่
พ่อคุณหญิงพจมาน มาเจอกับพ่อบิ๊กโจ๊กได้อย่างไร? และถ้อยวลีที่ว่า ‘มีเสมอ ต้องมีไสว’ นั้นมาได้อย่างไร
จากบันทึกของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล บอกเล่าเรื่องของบิดาคือ ดาบตำรวจไสว หักพาล สมรสกับสุมิตรา หักพาล อดีตข้าราชการครู โรงเรียนกลับเพชรศึกษา จ.สงขลา มีบุตร 2 คน คือพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. และเจษฎา หักพาล
เมื่อ พล.ต.ท.เสมอ ย้ายมาเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธร 4 ซึ่งมีกองบัญชาการตั้งอยู่ที่จังหวัดสงขลา ดาบไสว หักพาล ผู้บังคับหมู่งานพลาธิการ ตำรวจภูธรภาค 9 จึงทำหน้าที่เป็นพลขับประจำตัวของ พล.ต.ท.เสมอ
ก่อนหน้านั้น มีคนพูดทำนอง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เป็นเด็กบ้านดามาพงศ์ ซึ่งบิ๊กโจ๊กบอกว่า ตนเองไม่ใช่เด็กในบ้านดามาพงศ์
เนื่องจากบิดาเป็นนายดาบสังกัดกองพลาธิการตำรวจ จึงมีหน้าที่เป็นพลขับให้ผู้บังคับบัญชา ซึ่งขณะนั้น พล.ต.อ.เสมอ เคยมารับตำแหน่งอยู่ไม่นาน แล้วก็โยกย้ายไปที่อื่น
ดังนั้น เรื่องที่มีคนเล่าว่า เมื่อ พล.ต.ท.เสมอ กลับมารับราชการในกองบัญชาการสอบสวนกลาง ดาบไสวยังติดตามมาเป็นพลขับ และตำรวจติดตาม พล.ต.ท.เสมอจนเกษียณอายุราชการนั้น ไม่เป็นความจริง
สรุปว่า ดาบไสว หักพาล ทำหน้าที่เป็นพลขับให้ “นายเสมอ”เพราะรู้พื้นที่ และรู้จักนิสัยใจคอคนใต้ สมดังคำที่ว่า‘มีเสมอ ต้องมีไสว’ เมื่อนายกลับกรุงเทพฯ ดาบไสวก็กลับมาประจำการที่ฝ่ายพลาธิการตามเดิม