งบ67ฉลุย! มติสภาฯ 298 ต่อ166 เสียง 'เห็นชอบ' วาระ3 จับตาสว.ถก26มี.ค .
มติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร 298 ต่อ166 เสียง "เห็นชอบ" งบประมาณ2567 วาระ3 “เศรษฐา” ขอบคุณสมาชิก ลั่นใช้งบอย่างโปร่งใส-ประเทศมั่นคง-ประชาชนมีความสุข จับตาสว.ถก26มี.ค.นี้ คาดพ.ค.บังคับใช้
ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ในวาระ2-3 จำนวน41มาตรา
หลังที่ประชุมมีการลงมติรายมาตราในวาระ2 เสร็จสิ้น ที่สุดที่ประชุมได้เข้าสู่ขั้นตอนการลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ฯ ในวาระ3
ผลปรากฎว่ามติที่ประชุม 298 ต่อ166 เสียง ลงมติ "เห็นชอบ" ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ 2567 เพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย โดยมีผู้งดออกเสียง1เสียงไม่ลงคะแนน1เสียง จากผู้ลงมติ466คน
สำหรับขั้นตอนหลังสภาผู้แทนราษฎรให้ความเห็นชอบ จากนี้จะเป็นการพิจารณาในส่วนของ วุฒิสภา(สว.)พิจารณาให้ความเห็นชอบเป็นด่านสุดท้าย ในวันที่ 26 มี.ค.
จากนั้นสภาฯ จะนำร่าง พ.ร.บ.ไปยังรัฐบาลเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป ซึ่งคาดว่างบประมาณปี 2567 จะมีผลบังคับใช้ในเดือน พ.ค.
จากนั้นนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า กระผมนายกฯ ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ขอขอบคุณท่านประธานและสมาชิกผู้ทรงเกียรติทุกท่าน ที่ได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ. 2567 ซึ่งถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะใช้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาต่างๆ เพื่อให้ประเทศมีความมั่นคง ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน และพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐที่ตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ
นายเศรษฐา กล่าวว่า สำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำและข้อเสนอ รวมทั้งความห่วงใยที่ท่านสมาชิกได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาการประชุม รัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับประโยชน์จากเงินงบประมาณมากที่สุด นอกจากนั้นขอขอบคุณท่านกรรมาธิการวิสามัญทุกท่าน ที่ได้ให้ความสำคัญเสียสละเวลา และร่วมมือกันในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายฉบับนี้อย่างเต็มที่จนสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี พร้อมข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารราชการ รัฐบาลจะนำไปประกอบการพิจารณาการปรับปรุงการดำเนินงาน เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากรมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
“ผมขอให้ความมั่นใจว่านโยบาย มาตรการและงบประมาณที่ได้รับอนุมัติให้นำไปใช้จ่ายในครั้งนี้ จะนำไปใช้ตามวัตถุประสงค์และแผนงานที่กำหนด โดยรัฐบาลจะกำกับดูแล ติดตามการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายที่กำหนดไว้ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนและยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการรักษาสภาพแวดล้อม เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี และมีรายได้เพิ่มขึ้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายสูงสุดตามความมุ่งมั่นของรัฐบาลและท่านสมาชิกสภาแห่งนี้ทุกท่านต่อไป ขอบคุณครับ” นายเศรษฐา กล่าว
จากนั้นนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธาน สั่งปิดการประชุมในเวลา 17.52 น.