'สว.' หวัง ฝ่ายค้าน ขยี้แผลเก่า-ขุดข้อมูลเชิงลึก ศึกอภิปรายทั่วไป

ที่รัฐสภา นายประพันธ์ คูณมี สว. ให้สัมภาษณ์ต่อกรณีที่สภาฯ เตรียมอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ในวันที่ 3-4 เม.ย. โดยเชื่อว่า หาก สส. นำข้อมูลเชิงลึกมาอภิปราย และชี้เห็นข้อบกพร่อง ผิดพลาด หรือ พฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่ผิดของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แม้ว่าจะไม่มีการลงมติไม่ไว้วางใจ แต่ในทางการเมืองเท่ากับพ่ายแพ้ทางการเมือง ประชาชนไม่เชื่อถือ ศรัทธา และจะกลายเป็นกระแสที่รัฐบาลต้องแสดงความรับผิดชอบ และเปลี่ยนวิธีการทำงาน  โดยมีหลายประเด็นที่มองว่า สส. จะนำประเด็นที่ สว. อภิปรายนำร่องไปแล้ว ทำการบ้านต่อ เพราะมีประเด็นไม่สุจริต และออกระเบียบผิดกฎหมาย เช่น  ปัญหาที่ดิน สปก.4-01, เรื่องในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ที่นายกฯ เป็นประธาน ก.ตร. รวมถึงเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน เงินดิจิทัลวอลเล็ต การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล

“ถ้าสส.สามารถชี้ข้อมูลให้เห็น โดยนำตัวเลขมาแสดง อย่างกรณีที่ดินส.ป.ก. เพราะมีกลุ่มทุนไปถือสิทธิ์ในที่ดินหลายสิบแปลง ซึ่งไม่ใช่หลายร้อยไร่แต่เป็นหลายหมื่นไร่ อยู่ในพื้นที่สวยงามทั้งนั้น  ถ้าสส. เอารายชื่อแสดงว่ามีบริษัทไหนบ้าง กลุ่มทุนไหนบ้าง รัฐบาลก็อยู่ไม่ได้ เรื่องการรับส่วยแม้จะเป็นความผิดในวงการตำรวจ แต่เรื่องส.ป.ก. เป็นความผิดของคนในวงการรัฐบาล ผมหวังว่า การอภิปราย ของสส. จะแสดงให้เห็นถึงความมีประสิทธิภาพ และความเอาจริงเอาจังในการอภิปรายเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน จนรัฐบาลต้องนำไปปรับปรุงและแก้ไขปัญหาของประเทศชาติต่อไป ” นายประพันธ์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่ฝ่ายรัฐบาลออกมาระบุห้ามฝ่ายค้านอภิปรายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถือว่าตีตนไปก่อนไข้หรือไม่ นายประพันธ์ กล่าวว่า ประเด็นนี้ตนไม่แน่ใจว่าพรรคก้าวไกล จะอภิปรายจริงจังแค่ไหน แต่ตนเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์น่าจะทำหน้าที่เรื่องนี้ได้ดีกว่า แต่เห็นว่ายิ่งรัฐบาลออกมาปกป้องนายทักษิณ รัฐบาลก็จะเสียเอง เพราะขณะนี้คนก็มองจ้องไปที่รัฐบาลอยู่แล้วว่าเป็นผู้ทำลายหลักนิติธรรมเสียเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่เรื่องหนึ่ง เพราะรัฐบาลได้แถลงนโยบายว่าจะปกป้องหลักนิติธรรมเเพื่อให้เกิดความเชื่อถือ แต่ความจริงรัฐบาลเป็นไปเช่นนั้นหรรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่ฝ่ายค้านอาจจะหยิบยกขึ้นมาอภิปรายถ้าลงลึกไปว่ารัฐบาลมีพฤติกรรมไปเอื้อประโยชน์ให้กับคนๆเดียว ก็จะเป็นปัญหาได้.