‘อรรถกร-อนันต์’ ชิงดำ รมช. วัดพลัง 2 ก๊ก พปชร.
เกมนี้ยังต้องวัดพลังกลุ่มธรรมนัส และกลุ่มที่อยู่ตรงข้าม โดยเฉพาะก๊วนกำแพงเพชร ใครจะเข้าวินชิงเก้าอี้ที่ว่างมานาน ไม่แน่ว่า ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อาจจะต้องปวดหัวอีกรอบ เมื่อแนวโน้มต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง
Key Points
- เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องวินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรีของไผ่ ลิกค์ ในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ จึงทำให้ความคลุมเครือตรงนี้ไม่ได้ถูกทำให้กระจ่าง
- แกนนำพลังประชารัฐในสายธรรมนัส พรหมเผ่า จึงต้องมองตัวเลือกถัดไป คือ อรรถกร ศิริลัทธยากร
- แต่กลุ่มก๊วนกำแพงเพชร มองต่าง หาก ไผ่ ชวดเก้าอี้ โควตานี้ก็ต้องเป็นของจังหวัดตามเดิม คือ อนันต์ ผลอำนวย
- งานนี้นอกจากจะวัดใจเศรษฐา ทวีสิน จะเอาอย่างไรกับไผ่ และลุงป้อม ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะจัดการกับเกมวัดพลังในพรรคอย่างไร
เก้าอี้รัฐมนตรีที่เหลือในโควตาพรรคพลังประชารัฐ ที่ว่าง 1 ตำแหน่ง ยังคาราคาซังในเรื่องคุณสมบัติแคนดิเดตอันดับ 1 อย่าง "ไผ่ ลิกค์" สส.กำแพงเพชร
ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ ไม่รับคำร้องของเจ้าตัวไว้วินิจฉัย จึงยังไม่มีใครการันตีคุณสมบัติ ว่าสามารถขึ้นชั้นเป็นเสนาบดีได้หรือไม่
งานนี้จึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ "เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ซึ่งมีอำนาจโดยตรง จะนำรายชื่อของไผ่ ลิกค์ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ หรือไม่
ก่อนหน้านี้ ท่าทีของคณะกรรมการกฤษฎีกา มีความเห็นในข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องถึงคุณสมบัติของไผ่ ลิกค์ ไว้แล้ว อาจไม่ได้เป็นผลบวกกับเจ้าตัวสักเท่าไหร่ ประเด็นนี้ ก็อาจเป็นส่วนสำคัญต่อการพิจารณาของนายกฯเศรษฐา
ถึงแม้ว่าในพลังประชารัฐ สายที่สนับสนุน จะอ้างว่า กกต. มองว่าคุณสมบัติของไผ่ ลิกค์ ไม่ติดขัดแต่อย่างใด
ในเมื่อแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมองกันไปคนละทาง ความไม่ชัดเจนตรงนี้ จึงเป็นปัญหาโดยตรงกับเจ้าตัว เพราะอาจไปไม่ถึงฝัน
แกนนำพลังประชารัฐ โดยเฉพาะในสายของ "ธรรมนัส พรหมเผ่า" เลขาธิการพรรคฯ เลยต้องคิดเผื่อทางเลือกเอาไว้ หากดัน ไผ่ ไม่สำเร็จ ก็คงถึงคิวคนถัดไปขึ้นมาแทน
หนึ่งในตัวเต็งที่ถูกพูดถึงมาระยะหนึ่งแล้ว คือ หนุ่มเบนซ์ "อรรถกร ศิริลัทธยากร" สส.ฉะเชิงเทรา ที่ได้รับสัญญาณให้เตรียมตัวรับบุญหล่นทับ
จะว่าไปแล้ว "อรรถกร" ก็ถือเป็นคนใกล้ชิดในกลุ่มผู้กอง และเรียกได้ว่าเป็นน้องรักคนหนึ่งของไผ่ ก็ว่าได้ จึงไม่แปลก หากหวยจะออกที่หนุ่มแปดริ้วคนนี้
ทว่า ความเคลื่อนไหวบางกลุ่มในพรรคพลังประชารัฐ กลับมองต่าง ในเมื่อโควตาของไผ่ ถือเป็นโควตาของ"กลุ่มกำแพงเพชร" หากถึงเวลาที่แคนดิเดตเบอร์ 1 ลุ้นยังไงก็ลุ้นไม่ขึ้น ก็ต้องสลับตัวคนในมุ้งกำแพงเพชร ขึ้นมาแทน ไม่ใช่โยนไปให้จังหวัดอื่น
ชื่อของ "อนันต์ ผลอำนวย" สส.กำแพงเพชร จึงเป็นตัวเลือกแรก ที่แกนนำกลุ่มหวังดันให้พรรค เคาะชื่อเสนอนายกฯ เพื่อปรับ ครม. ครั้งต่อไปในตำแหน่ง รมช.พาณิชย์
เกมนี้ยังต้องวัดพลังกลุ่มธรรมนัส และกลุ่มที่อยู่ตรงข้าม โดยเฉพาะก๊วนกำแพงเพชร ใครจะเข้าวินชิงเก้าอี้ที่ว่างมานาน
ไม่แน่ว่า ลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อาจจะต้องปวดหัวอีกรอบ เมื่อแนวโน้มต่างฝ่ายต่างมีเหตุผลของตัวเอง
ท่ามกลางการจับตามองมาตลอดว่า ทิศทางต่อไปข้างหน้าของพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นอย่างไร ในวันที่พาวเวอร์ของเครือข่ายลุงป้อม ไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน
จากศูนย์กลางอำนาจที่เคยรุ่งเรือง สมาชิกและแขกเหรื่อคับคั่งที่บ้านป่ารอยต่อฯ กระทั่งวันนี้ได้ย้ายวงโคจรไปอยู่ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ที่เป็นศูนย์กลางอำนาจที่แท้จริงในปัจจุบัน
ว่ากันว่า บิ๊กเนมการเมืองเข้าออกกันเป็นว่าเล่น หลายปัญหาที่เคยติดขัด จะได้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ และหาทางออกได้ในที่สุด
สถานการณ์ในพลังประชารัฐ ในจังหวะเช่นนี้ จะรักษาเพดานบินให้คงที่ หรือจะไต่เพดานบินให้สูงขึ้นกว่านี้ได้ คำตอบคงอยู่ที่"ลุงป้อม" และบรรดาบ้านใหญ่ทั้งหลาย ว่าจะยังร่วมหัวจมท้าย ไปจนสุดทางแค่ไหน
หรือถ้าสถานการณ์บังคับจริงๆ การลงแบบซอฟต์แลนดิ้งที่สุด จะออกมาหน้าตาอย่างไร ต้องตามต่อยาวๆ แต่วันนี้เมื่อมีจังหวะต้องแย่งชิง ศึกในย่อมๆ ก็คงต้องเป็นไปตามบทที่แต่ละฝ่ายต้องแอ็กชั่น
ตามจังหวะการเมือง เมื่อไฟต์บังคับ พลังประชารัฐ ต้องส่งชื่อรัฐมนตรีช่วยคนใหม่ เพื่อรักษาโควตาให้ตัวเอง นายกฯ เศรษฐา จึงจำเป็นต้องปรับ ครม. ซึ่งอาจมีบิ๊กพรรคร่วมรัฐบาลรอผสมโรง ฉวยโอกาสขอเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเช่นกัน
เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรีที่อยู่ในข่ายโลกลืม มีข่าวปล่อยออกมาตลอดว่าจะอาจจะต้องหลุดเก้าอี้ จึงต้องวัดใจ ศูนย์รวมอำนาจแห่งบ้านจันทร์ส่องหล้า จะตัดสินใจขยับหมากการเมืองอย่างไร
แต่ที่แน่ๆ พรรคพลังประชารัฐ อยู่ในช่วงวัดกำลัง ใครของจริง ใครของแท้ หลากกลุ่ม-หลายก๊วน ที่ลุงป้อมให้คำมั่นสัญญา จะตอบแทนเก้าอี้รัฐมนตรี หากยังอยู่กับพรรคในช่วงสู้ศึกเลือกตั้ง 2566 แต่โควตา 4 เก้าอี้ ไม่สามารถตอบแทนได้ทุกกลุ่ม จึงต้องวัดใจเบอร์หนึ่ง จะบริหารอำนาจที่เหลือเพียงน้อยนิดอย่างไร