'แคดเมียม' เกมการเมือง ปมซ่อนเงื่อน พปชร. 'ร้อยเอก' ขย่ม 'พลเอก'

แม้จะเป็นเรื่องน่าตกใจ แต่ไม่ใช่เรื่องที่ต้องแปลกใจว่าเหตุใดสารอันตรายอย่าง “แคดเมียม” จึงกระจายอยู่หลายพื้นที่ หลายภูมิภาคในประเทศของเรา

ต้นทาง 15,000 ตันจาก จ.ตาก ขายต่อไปที่สมุทรสาคร แล้วขนส่งบางส่วนต่อไปที่ชลบุรี

แต่ละกระบวนการขั้นตอนผิดกฎหมายเกือบทั้งหมด มีการนำกากแคดเมียมใส่บิ๊กแบ็ก วางกองเกลื่อนทั้งในโกดังและด้านนอก ไม่สนฟ้าฝน สภาพอากาศ เสี่ยงถูกน้ำชะให้รั่วไหลปนเปื้อนต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน

เรื่องแบบนี้เกิดได้ในประเทศอย่างไทย และอีกบางประเทศที่มี “โทษลักษณะ” (ตรงข้ามกับ “คุณลักษณะ”) เหมือนกับไทยเท่านั้น เพราะบ้านอื่นเมืองอื่นที่ดีๆ คงไม่มีใครยอมให้เกิด

นี่เป็นแค่กากแคดเมียมแหล่งเดียวที่พบและเป็นข่าวขึ้นมา ลองถามใครก็ได้ในประเทศนี้ว่าเชื่อหรือไม่ว่ามีสารอันตรายแค่เท่าที่เป็นข่าวเท่านั้น ร้อยทั้งร้อยต้องตอบว่า “ไม่เชื่อ!”

และความจริงก็เป็นแบบนั้น เพราะเมื่อเร็วๆ นี้ รายการสืบสวนความจริง ทางเนชั่นทีวี ก็เพิ่งเปิดโปงขบวนการลักลอบทิ้งและหลอมกากอุตสาหกรรม ซึ่งล้วนเป็นวัตถุอันตรายเช่นกัน ปักหมุดกันที่ภาคตะวันออก ทั้งฉะเชิงเทรา และชลบุรี...

กรณีแคดเมียม สารอันตราย และขยะอุตสาหกรรม สะท้อนความเป็น “ประเทศแคดเมียม” ของไทย ซึ่งกำลังจะกลายเป็น ”ถังขยะโลก” เพราะเชื่อมโยงการกระทำผิดกฎหมาย ความละเลยหละหลวม เนื่องจาก “เงินซื้อได้” ในแทบทุกขั้นตอน

ประเทศแคดเมียมจึงเป็นสวรรค์ของ “นายทุนจีนเทา” และนายทุนชาติอื่นๆ ที่ใช้เงินและผลประโยชน์เป็นใบเบิกทางนำสิ่งเลวร้ายมากองไว้ที่บ้านเรา

ความเป็น “ประเทศแคดเมียม” ของไทยยังแอดวานซ์ไปมากกว่าคู่แข่ง เพราะเรื่องร้ายๆ ทุกเรื่องใช้วิธีแก้ไขแบบ “ไฟไหม้ฟาง - ขายผ้าเอาหน้ารอด” จากนั้นก็บิดให้เป็นเรื่องการเมือง ชิงคะแนนแย่งเก้าอี้บนทุกข์ชาวบ้านกันอีกรอบ

อย่างกรณีแคดเมียมล่าสุดนี้ มีคนช่างสังเกตชี้ชวนให้ดูการแสดงเรื่อง “ร้องเพลงคนละคีย์” ระหว่างประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กับ รมว.อุตสาหกรรม ทั้งๆ ที่มาจากพรรคเดียวกัน แต่เหมือนไม่ใช่พวกเดียวกัน จนเกิดคำถามว่าเกี่ยวโยงกับห้วงเวลาใกล้ปรับ ครม.ด้วยหรือไม่

ใหญ่กว่าระดับพรรค ขึ้นไปถึงระดับรัฐบาล ก็มีการอ่านเกมให้จับตาท่าทีนายกฯเศรษฐา ว่าอาจจะใช้เรื่องแคดเมียม กดดันรัฐมนตรีทรัพยากรฯ ซึ่งมีข่าวเก้าอี้สั่นคลอนมาตลอดด้วยหรือไม่

ทั้งจากปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปัญหาลิงล้นเมือง และปัญหาการจัดการภายในกระทรวงที่มีข่าวลบๆ ของคนใกล้ตัวออกมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน

เพราะถ้ารัฐมนตรีรายนี้ตกเก้าอี้ อาจส่งผลถึงอิทธิพลของ “สายลุงพลเอก” ในพรรคพลังประชารัฐลดต่ำลง เปิดทางให้ “สายพี่ร้อยเอก” ขึ้นมายึดอำนาจเบ็ดเสร็จแทน และจะเป็นผลดีกับพรรคเพื่อไทย ส่วนปัญหาแคดเมียมจะจบอย่างไร รอข่าวซาค่อยว่ากัน…

นี่คือเกมการเมืองที่ซ่อนอยู่ในปัญหาแคดเมียม สะท้อนความเป็น “ประเทศแคดเมียม” อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ

ที่น่าเศร้าก็คือ บ้านเราไม่ได้มีแค่ “สารแคดเมียม” ที่เป็นอันตราย แต่ยังมี “สารตาใส - สารศรีธนญชัย” แพร่กระจายอยู่ทั่วไป ทุกกระทรวง ทบวง กรม

โดยเฉพาะที่หน่วยงานราชทัณฑ์ สาร 2 ตัวนี้ปนเปื้อนหนาแน่นจนแยกไม่ออกระหว่าง นักโทษป่วย กับนักโทษแข็งแรง และ “พักโทษ” กับ “พ้นโทษ” ต่างกันอย่างไร

ก่อผลข้างเคียงให้กระทรวงยุติธรรม มีอาการคล้ายโรค “อิไตอิไต” ชาวบ้านร้านตลาดเลยเติม “อ.อ่าง” เพิ่มให้ กลายเป็นชื่อ “กระทรวงอยุติธรรม”

นอกจากนั้นยังมี “เชื้อโรคร้าย” อาศัยอยู่ในหน่วยงานพิทักษ์สันติราษฎร์ เจ้าเชื้อที่ว่านี้ระบาดมานาน จากที่เคยแฝงตัวแบบหลบๆ ซ่อนๆ วันนี้กลายร่าง ผงาดขึ้นเป็น “หัวหน้าใหญ่” กับ “รองหัวหน้า” ทำเรื่องผิดกฎหมายแทบทุกอย่าง

โดยเฉพาะรับเงินพนันออนไลน์ หรือไม่ก็ตั้งตนเป็นเจ้าของเว็บพนันเสียเอง ทั้งๆ ที่มีหน้าที่หลักในการปราบปราม

เมื่อ “คนจับโจร” กลายร่างเป็น “หัวหน้าโจร” จึงไม่แปลกที่ “กิจการโจร” จะเฟื่องฟูในประเทศนี้ และเป็น Destination ของ “นายทุนโจรข้ามชาติ” มาเปิดกิจการ และกลายเป็น “ฮับ” ของอาชญากรรมข้ามชาติทุกแขนง โดยที่นายกฯเศรษฐาไม่ต้องสวมบทเซลล์แมน บินไปชักชวนให้เปลืองงบ-วุ่นวาย

ทั้งคอลเซ็นเตอร์ ผับอัพยา ค้ามนุษย์ แหล่งซุกก่อการร้าย ฝรั่งมาเฟีย จีนเทา จีนดำ แขกขาว ฟอกเงิน ฯลฯ

 ฉะนั้นสำหรับพี่ไทยแล้ว แคดเมียมน่ะเรื่องเด็กๆ!!!