'เสรี' ชง 'กกต.' คุมหาเสียงผ่านโซเชียล ชี้ใช้เงินมากกว่าติดป้าย
สว.พิจารณารายงาน กมธ.การเมือง เสนอคุมหาเสียงผ่านโซเชียล "เสรี" ชี้ใช้เงินมากกว่าติดป้าย จี้ "รัฐบาล-ดีอี" ปราบข่าวเท็จ-จาบจ้วงสถาบัน
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณารายงานการพัฒนาพรรคการเมืองและการสร้างพลเมืองในยุคดิจิทัล : ปัญหาและแนวทางแก้ไข เสนอโดยคณะกรรมาธิการ (กมธ.)การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งมีข้อเสนอที่เกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายและระเบียบของกกต.ที่ใช้ในการจัดการเลือกตั้ง โดยเฉพาะการควบคุมการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย
โดย นายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. อภิปรายตอนหนึ่งว่า คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ฐานะองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ต้องตื่นตัว เป็น กกต. ที่ทันสมัย เป็น กกต.ดิจิทัลรู้เท่าทันการใช้เทคโนโลยียุคใหม่ต้องสร้างกระบวนการเพื่อไม่ให้เกิดการเอารัดเอาเปรียบผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ที่ผ่านมา กกต. มีกฎหมายที่ควบคุมการใช้เงิน การติดป้ายหาเสียง แต่ระบบโซเชียลไม่มีการควบคุม ทั้งที่คนที่ใช้โซเชียลใช้เงินมากกว่าการติดป้ายหาเสียง เมื่อไม่ควบคุมจึงทำให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ขณะที่แต่ละพรรคการเมมืองต้องตื่นตัว และนำคนรุ่นใหม่ ซึ่งทุกพรรคมีคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่งที่อ้างว่าเป็นพรรคของคนรุ่นใหม่เท่านั้น ดังนั้นต้องมีวิธีการ กกต.ต้องควบคุมและจัดการเพื่อไม่ให้เลือกตั้งไม่สุจริตหรือไม่เที่ยงธรรม
“หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องทำให้เกิดการพัฒนาการเลือกตั้ง และมีการเลือกที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง ไม่ใช่ไม่มีใครรู้จัก แต่ใช้ไอโอ ไอโอ ทำให้เป็นคนเก่ง คนดี ทั้งที่คนที่ทำคุณงามความดียาวนานไม่ได้รับเลือกตั้ง ผมขอฝากให้พิจารณาด้วยว่าการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทำร้ายสังคม ทำลายบ้านเมือง สร้างเหตุการณ์ไม่ถูกต้อง ไม่ดีงาม ฝากไปยังรัฐบาล กระทรวงดีอีด้วยให้ควบคุมการเผยแพร่ข้อมูลผ่านดิจิทัลที่บิดเบือน จาบจ้วงสถาบันที่มีจำนวนมาก” นายเสรี กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการอภิปรายของสว. ต่างแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง และมีการชี้เฉพาะไปยังการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เอไอ และ ไอโอเพื่อประโยชน์ในการเอาชนะเลือกตั้ง ทั้งนี้ นายกษิดิศ อาชวคุณ สว. อภิปรายโดยคาดหวังให้นักการเมืองที่มีแนวคิดรักชาติ รักบ้านเมือง เข้ามาบริหารประเทศ พร้อมฝากไปยังนักการเทืองให้รู้จักพอ คิดถึงประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นหลัก สำหรับผู้ร่ำรวย อาชีพใดก็ตาม เมื่อตายแล้ว บาทเดียวเอาไปไม่ได้
ขณะที่นาย นายอนุพร อรุณรัตน์ สว. อภิปรายสนับสนุนรายงาน พร้อมระบุว่าจากการติดตามการเลือกตั้งต่างประเทศและประเทศไทยเชื่อว่ามีการใช้ไอโอ และเอไอในการเลือกตั้ง ที่เกิดขึ้น โดยใช้เป็นฐานวางแผนหาเสียง ซื้อเสียง กลั่นแกล้งคู่แข่ง และจะปรากฎอย่างมากในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า ทั้งกระบวนการตัดต่อภาพ คลิปและเสียง และทำลายความน่าเชื่อถือของผู้สมัคร สว. ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม รวมถึงผู้มีสิทธิลงคะแนน รวมถึงเชื่อว่าจะใช้ไอโอ คาดการณ์เพื่อซื้อเสียง ครอบงำ เพื่อหวังเอาชนะเลือกตั้ง กระจายเงิน สอดส่องความเคลื่อนไหวของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ซึ่งตนเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในเมืองไทยต่อไป นอกจากนั้นยังประเด็นการใช้บัญชีปลอมเพื่อปั่นกระแส บิดเบือน การรับรู้ของประชาชนด้วย
“เลือกตั้งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมี การเลือกของ สว. เชื่อว่าจะมีการสร้างข่าวลวง เพื่อทำลายคู่แข่ง ดังนั้นเจ้าหน้าที่ควรพิจารณารายงานของกรรมาธิการเพื่อประโยชน์ในการเลือกกันเองของสว.ที่จะเกิดขึ้น” นายอนุพร อภิปราย
ขณะที่ ว่าที่ ร.ต.วงศ์สยาม เพ็งพานิชภักดี สว. อภิปรายว่าในการเลือกสว.ที่จะเกิดขึ้น ซึ่งจะใช้รูปแบบของการเลือกกันเองและเลือกไขว้ ต้องมีมาตรการในการป้องกันที่จะเกิดขึ้น เช่น การโทรศัพท์ของคะแนน รวมถึงการใช้ไอโอ ปัจจุบันปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นได้เห็นแล้ว ดังนั้นควรแก้ไขรัฐธรรมนูญ.