ทักษิณ ปัดนั่งที่ปรึกษานายกฯ ขอรับเบี้ยชรา 700 บาท อุบรัฐบาลปรึกษาบางเรื่อง
"ทักษิณ" ปัด รับตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ขอเป็นคนชรารับ 700 บาท บอก "อิ๊งค์" ขอทำหน้าที่ในพรรคก่อน รับ รัฐบาลมาปรึกษาบางเรื่อง
13 เม.ย.2567 ที่ จ.เชียงใหม่ ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ รับประทานอาหารเสร็จ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ได้ลงมาเพื่อเดินทางไปทำภารกิจอื่นต่อ มีประชาชนเข้าไปทักทายและสวมกอดนายทักษิณพร้อมกล่าวว่า “ตนมาจากจังหวัดศรีสะเกษ ขอให้ท่านสุขภาพแข็งแรง”
จากนั้นนายทักษิณจะเดินมาบริเวณหน้าร้านและให้สัมภาษณ์อวยพรวันปีใหม่ว่า “ปีนี้มีอะไรส่งท้ายที่ไม่ค่อยดีหลายอย่าง หวังว่าปีหน้าพี่น้องคนไทยจะได้พบแต่สิ่งดีๆ เพราะปีนี้เศรษฐกิจไม่ดีเพราะมีควันหลงมาจากสถานการณ์โควิด-19, PM 2.5 ก็หวังว่าทุกอย่างจะคลี่คลายขึ้น และนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ก็ตั้งใจทำงาน คงจะประสบผลสำเร็จในเร็วๆ นี้ เครื่องยนต์ดีเซลติดช้าหน่อย แต่ติดแล้วมันวิ่งไม่หยุด"
เมื่อถามว่า ให้กำลังใจนายเศรษฐาอย่างไรบ้างนายทักษิณ กล่าวว่า นายเศรษฐาขยันทำงาน คิดว่าคงจะแก้ปัญหาได้หลายจุด ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจ, PM 2.5, ปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ เมื่อนายเศรษฐาเห็นก็มาปรึกษา และพูดคุยกันเรื่อยๆ
เมื่อถามว่า จะรับตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวด้วยน้ำเสียงติดตลกว่า "ไม่ฮะ ตอนนี้ผมมีตำแหน่งแล้ว อยู่ในฐานะ 700 บาท ฐานะเป็นคนชรา เป็นคนชราดีกว่า"
เมื่อถามว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) จะมีโอกาสเข้าไปนั่งเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า "ยัง ยังไม่เป็น ขอทำงานพรรคอีกนิดหนึ่ง อิ๊งค์อยากนั่งทำงานพรรค"
เมื่อถามว่า หากมีโอกาสกลับมาดูแลรัฐบาล มองไว้หรือไม่ว่าอยากช่วยเรื่องอะไร นายทักษิณ กล่าวว่า รัฐบาลเก่งอยู่แล้ว มีอะไรก็มาปรึกษาเป็นเรื่องๆ หากปรึกษามา ตนก็ให้คำปรึกษาจากประสบการณ์ที่เคยทำมา
เมื่อถามว่า มีสส.ได้ขอตารางที่จะเดินสายไปภาคอื่นๆ หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า ยังไม่ไป ตอนนี้ขอเยี่ยมพรรคพวกก่อน และทำงานเรื่องที่สำคัญและเป็นประโยชน์ ซึ่งเรื่อง PM 2.5 ที่ได้คุยกับนายเศรษฐา ท่านก็ได้สั่งไม่ให้นำเข้าข้าวโพดที่เกิดจากการเผาของประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด ซึ่งมีจุดเผาประมาณ 20,000 ตนเห็นด้วยที่ท่านสั่งห้าม และเผอิญว่าทางกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับองค์การการค้าโลก (WTO) ตนจึงบอกว่าไม่เกี่ยวกับ WTO เรื่องการทำลายสิ่งแวดล้อมถือเป็นเรื่องที่ร้ายแรงที่สุด มากกว่าการค้า ทำให้นายเศรษฐาสั่งห้ามนำเข้าข้าวโพดที่เกิดจากการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน หาข้าวโพดในประเทศขาดแคลนก็ให้สั่งซื้อจากประเทศที่อยู่ไกล จะได้ไม่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนอาหาร และนายเศรษฐากำลังพิจารณาว่าหากหนักกว่านั้น คนที่ทำลายสิ่งแวดล้อมประเทศไทยจากเพื่อนบ้าน อาจจะถูกหมายจับไม่ให้เข้าประเทศ ซึ่งเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่เด็ดขาด
เมื่อถามว่า มาเชียงใหม่รอบนี้มีเวลา 3 วัน จะไปรำลึกความหลังที่ไหนบ้างหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า “ไม่รู้จะมีความหลังกับใคร มีแต่ความหลังกลับบ้านเมือง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปเล่นน้ำที่ไหนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า "แก่แล้ว"
เมื่อถามว่า เมื่อวานนี้ (12 เมษายน) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ได้ลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ และระบุว่าพรรค ก.ก. ได้คะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ในจ.เชียงใหม่ มองเรื่องนี้อย่างไร นายทักษิณ หันมาฟังคำถามแต่ไม่ได้ตอบคำถาม