‘ชวน’ฟังธงรัฐบาลครบเทอม-นายกฯ4ปี อยู่ที่'ตัวจริง' รัฐประหารไม่สร้างเงื่อนไข

55ปีบนถนนการเมือง "ชวน หลีกภัย" สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกฯ อดีตประธานสภา และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์  มองอนาคตการเมือง ในห้วงที่สัญญาณการเมืองมีการจับตาไปที่ไปที่การปรับคณะรัฐมนตรี(ปรับครม.)ในวงรอบ6เดือนรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ผ่านรายการ “เนชั่นสุดสัปดาห์” ออกอากาศทางเนชั่นทีวี ช่อง 22

เริ่มต้นที่ระบบเลือกตั้งว่า เรื่องความรู้ประชาชนเป็นเรื่องสำคัญ อย่างที่บอกหนีไม่พ้นว่าจะต้องมีเลือกตั้ง ที่ผ่านมาเราไปใช้ระบบต่างประเทศเขาเยอะเช่นระบบวันแมนวันโหวต สมัยก่อนเป็นระบบเขตใหญ่ สส.มีเขตละ3คนถือเป็นการเปิดโอกาสในการเข้าสภา เราอาจรับเงินคนนี้แต่เลือกอีกคนเข้าสภา สถานการณ์วันนี้การใช้กติกาแบบนี้ยังคิดว่าน่าสนใจเพื่อให้ประชาชนมีทางเลือก

ชวน ยังฉายภาพไปถึงสภาชุดปัจจุบัน ภายใต้คำถามมีปัจจัยอะไรที่จะทำให้สภาชุดนี้อยู่ไม่ครบ4ปี มองว่า สภาชุดนี้เป็นสภาที่จำนวนสส.รัฐบาลแข็ง 300 กว่าเสียง ไม่ต้องไปเลือกพรรคใหม่เข้ามาเพิ่มอยู่ได้สบาย ดูบรรยากาศแล้วไม่มีแนวโนมพรรคไหนเกที่จะออก มีแต่เขาจะให้ออก

ฉะนั้นรัฐบาลปัจจุบันในแง่ความมั่นคงในสภาเสียงเกิน ตัวอย่างกรณีที่พรรคก้าวไกลเสนอให้นับองค์ประชุม ซึ่งเป็นธรรมดาเมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านก็ทำแบบนี้ 

ขณะที่ฝ่ายค้านมีไม่มากดูจากอภิปรายมาตรา152 เทียบกับเมื่อ4ปีที่แล้วเบามากโดยเฉพาะผู้นำพรรคที่จะวิจารณ์รัฐบาล เที่ยวที่แล้วพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดนหนักคนเดียว เที่ยวนี้กระจัดกระจาย การที่จะมุ่งเป่าไปตีนายกฯมีน้อย ฉะนั้นสภาโอกาสอยู่ครบเว้นแต่จะมีอุบัติเหตุที่เราไม่รู้

"รัฐประหาร"ต้องไม่สร้างเงื่อนไข

ถามว่า โอกาสเกิดรัฐประหารมีอีกหรือไม่ ชวน ตอบว่า ผมไม่กล้าตอบเพราะเมื่อตอนเป็นนายกฯก็มีสื่อถามเช่นนี้ ผมตอบไปว่า ไม่สร้างเงื่อนไข ไม่ปฏิเสธการหาผลประโยชน์ ทหารเอายศมาให้ “พี่หนั่น” (พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์) พี่อย่ารับ ผมสั่งทหารอย่าไปให้ยศนักการเมืองคนใด พอเป็นนายกฯครั้งที่2ก็ไม่มีคนมาถาม

ถามย้ำว่า รัฐบาลอย่าสร้างเงื่อนไข ชวน ตอบว่า ถ้าเราไปอ่านคำปรารภในรัฐธรรมนูญมีคำพูดคำหนึ่งที่ผมจำได้ตลอดว่าแม้จะมีกฎหมายแก้ไขหลายฉบับ รัฐธรรมนูญหลายฉบับแต่บ้านเมืองก็มีปัญหาเพราะมีบุคคลที่ย่ามใจ ไม่ประพฤติตามหลักของประชาธิปไตยที่ควรจะเป็นมีพฤติกรรมที่ไม่ซื่อตรง

ซึ่งมาจากทั้งพฤติกรรมส่วนบุคคล หรือมองว่าการเมืองคือ "ธุรกิจ" เขาก็จะมองว่าเส้นทางที่จะทำให้การเมืองเป็นประโยชน์ได้คือ ผลประโยชน์ทางธุรกิจมองว่าแต่ละพรรคที่ร่วมอยู่คงไม่ได้เอาประเด็นนี้ไม่เป็นข้อรังเกียจ

ชวน ยังย้อนไปถึงเหตุการณ์ในปี2533 ที่พรรคประชาธิปัตย์ถอนตัวจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลในรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวันเริ่มต้นที่ นายพิชัย รัตนกุล ออกไปก่อนด้วยเหตุผล ถูกข้ามหน้าข้ามตาจากกลุ่มบ้านพิษณุโลก ก่อนนำมาสู่ช่วงที่"บุฟเฟ่ต์คาบิเนต" ที่เริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงการโยกย้ายทหารที่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทหารยึดอำนาจ

สภาฯครบเทอม-นายกฯขึ้นอยู่กับตัวจริง

“วันนี้พูดตามตรง ดูเหมือนรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงไม่มีผลงานเพราะนายกรัฐมนตรีพูดเองหมด” 

ถามว่า นอกเหนือจากสภาที่เชื่อว่าครบเทอม คิดว่าตัวนายกฯจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ ชวนมองว่า อยู่ที่ตัวท่าน เวลาจะปรับครม.มีคนไปถามท่าน ท่านจะรู้ได้ไงเพราะท่านไม่ใช่คนปรับ 

“นายกฯมีสิทธิตามกฎหมายแต่เบื้องหลังไม่ใช่ท่าน  เป็นที่รู้กันอยู่ ในสภาเพื่อนสส.ที่เคยอยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็มาเล่าให้ฟังเขาก็จะบอกว่ามันอยู่ที่ใคร หัวหน้าพรรคไม่ได้เป็นนายกฯ”