คู่ขนาน ‘ทักษิณ-เศรษฐา’ จังหวะพลิกเกม‘เพื่อไทย‘

Key Points

• การปรับครม. ทุกๆ ครึ่งปี เพื่อตอบแทนคนที่ร่วมแรงสู้กันมา คงไม่กระทบกับการเดินหน้านโยบายภาพใหญ่ 
• ทักษิณ ชินวัตร บารมีทางการเมืองยังเหลือล้น ดึงดูดคีย์แมนทุกแวดวงเข้าหา ถือเป็นแม่เหล็กที่รวมขุมกำลังกลายเป็นผลพลอยได้ให้เพื่อไทย
• เศรษฐา ทวีสิน มีเดิมพันต้องสร้างผลงาน ฟื้นเศรษฐกิจ ก็เพื่อเป้าหมายเดียว ชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป

ความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังสงกรานต์ ทำท่าจะคึกคักขึ้นอีกเป็นกอง เมื่อสัญญาณปรับคณะรัฐมนตรี ค่อยๆ ฉายให้เห็นความชัดเจน เมื่อครบ 7 เดือนการทำงานของรัฐบาล

สไตล์การบริหารจัดการทางการเมืองในแบบฉบับทักษิณ ชินวัตร ที่มักปรับครม. เร็ว อาจกำลังถูกเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี นำมาปรับใช้ผ่านการเขย่าเก้าอี้กันใหม่ เมื่อสัดส่วนรัฐมนตรีมีจำกัด แต่กลุ่มก๊วนการเมืองโดยเฉพาะในเพื่อไทย ที่มีส่วนร่วมสู้ศึกกันมา หลายคนยังไม่ได้รับการปูนบำเหน็จอย่างทั่วถึง

เมื่อเก้าอี้มีน้อย แถมระยะเวลารัฐบาลก็มีจำกัด เกมเปลี่ยนตัว หรือเก้าอี้ดนตรีจึงอาจจะได้เห็นจนชินตา แทบจะทุกวงรอบครึ่งปีก็ว่าได้

เดิมพันสำคัญของรัฐบาลเพื่อไทย อาจจะพูดได้ว่า ไม่ได้อยู่ที่ตัวบุคคล หรือใครจะมาเป็นรัฐมนตรี เพราะไม่ว่าใครจะขึ้นมามีตำแหน่งก็ตาม ยุทธศาสตร์การเคลื่อนเกมการเมือง หรือนโยบายในภาพใหญ่ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ถึงอย่างไร นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตก็ยังต้องเดินหน้าต่อ รวมถึงนโยบายเรือธง อาทิ ซอฟต์พาวเวอร์ แลนด์บริดจ์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่รวมกาสิโนอยู่ในนั้น หรือแม้แต่การยกระดับท่องเที่ยว ฟื้นเศรษฐกิจ แก้ปัญหาปากท้อง 

ปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ล้วนมีส่วนสำคัญที่จะบ่งบอกว่าเป้าหมายของเศรษฐา และเพื่อไทย คือการทวงแชมป์ด้วยการชนะเลือกตั้งครั้งต่อไป จะมีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร 

โครงการแจกเงินหมื่นที่กำลังเข้ารูปเข้ารอย ตามไทม์ไลน์เงินถึงมือประชาชนภายในไตรมาส 4 หรือภายในสิ้นปีนี้ สอดรับกับการวางเกมเตรียมพร้อมรับการเลือกตั้งนายก อบจ. ในช่วงต้นปี 68 อย่างลงล็อก 

การเก็บชัยชนะในสนาม อบจ.ของเพื่อไทย ย่อมมีส่วนต่อยอดถึงการเลือกตั้งใหญ่อย่างปฏิเสธไม่ได้ อารมณ์ของผู้คนที่ได้เงินหมื่นไว้ใช้จ่าย เป็นสิ่งที่เพื่อไทยคาดหวังว่าจะแปรเปลี่ยนเป็นคะแนนเสียง เลือกคนจากค่ายสีแดง

ในช่วงที่เงินดิจิทัลวอลเล็ตกำลังสะพัด ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เห็นทักษิณ เดินสายอย่างเข้มข้น ถือว่ามีความหมายในทางการเมือง และส่งผลถึงเพื่อไทยอย่างที่สุด 

เลยอาจจะมองได้ว่า บทบาทของทักษิณในช่วงที่ผ่านมา บารมีทางการเมืองยังเต็มเปี่ยม ความเคลื่อนไหวต่างๆ ได้รับความสนใจมาโดยตลอด สื่อมวลชนทุกแขนงต่างติดตามจับตาทุกฝีก้าว

ทักษิณสามารถดึงดูดคีย์แมนคนสำคัญในหลายแวดวงให้เข้ามาอยู่ในโคจรได้อย่างไม่ขาดสาย การรวบรวมขุมกำลังจากทุกสารทิศเข้ามา ย่อมเป็นแรงส่ง หรือผลพลอยได้ให้พรรคแกนนำรัฐบาลอย่างปฏิเสธไม่ได้ 

จนอาจมีผลในระยะยาวถึงตัวของอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนเล็กที่ถูกคาดหมายว่า กำลังเตรียมเนื้อเตรียมตัวขยับบทบาทในทางการเมืองที่สูงขึ้นเป็นผู้นำหญิงในอนาตด

ขณะเดียวกัน เศรษฐา เองที่ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายบริหาร มีเดิมพันตรงที่ต้องสร้างผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ ก็เพื่อต่อยอดความสำเร็จทางการเมืองสำหรับเพื่อไทยเช่นเดียวกัน

บทบาทคู่ขนานที่ดูจะไม่เกี่ยวข้องกันระหว่างทักษิณ และ เศรษฐา อาจมีผลลัพธ์ที่มาบรรจบกันคือ การร่วมกันก่อร่างสร้างความสำเร็จครั้งใหม่ของเพื่อไทย ในวันที่พรรคก้าวไกลยังเป็นหนามยอกอก ช่วงชิงคะแนนเสียงในฐานเดียวกัน ชนิดที่ไม่เคยมีใครทำได้มากขนาดนี้มาก่อน