'อัครเดช' จี้ 'นายกฯ' เอาจริงปราบทุนจีนทำธุรกิจอุตสาหกรรมผิดกฎหมาย
"ปธ.กมธ.อุตสาหกรรม" ยันทำงานคู่ขนาน รมว.อุคสาหกรรม ตรวจสอบกากแร่อันตราย พร้อมจี้ "นายกฯ" เร่งปราบทุนจีนสีเทา ทำธุรกิจอุตสาหกรรมผิดกฎหมาย
ที่รัฐสภา นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวก่อนการประชุมกมธ. วาระติดตามการแก้ปัญหากากแร่แคดเมียม การทำงานของกมธ.ฐานะฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อควบคุมการบริหารราชการแผ่นดินตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจ โดยเป็นการทำงานคู่ขนาดกับ นส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรมฐานะฝ่ายบริหาร แม้จะเป็นจากพรรคเดียวกัน แต่ต้องทำงานตามบทบาทหน้าที่เพื่อให้ประชาชนและประเทศชาติได้ประโยชน์สูงสุด ทั้งนี้ตนและ รมว.อุตสาหกรรม ได้พูดคุยกันเป็นระยะ เพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น และรมว.อุตสาหกรรมไม่ได้นิ่งเฉย และลงพื้นที่ติดตามปัญหาจนได้คืนกากแคดเมียมเกือบครบแล้ว
เมื่อถามถึงกรณีที่เคยระบุว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐรับผลประโยชน์ในเรื่องการขนย้ายกากแร่แคดเมียม นายอัครเดช กล่าวว่า มีผู้มาร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่รัฐรับผลประโยชน์ในเรื่องของการย้ายกากแร่แคดเมียม ที่มีต้นทางอยู่ที่ จ.ตาก ช่วงเดือนม.ค. แต่ไม่ทราบว่าเป็นแร่อะไร ทั้งนี้กมธ. ได้สอบสวนหาข้อเท็จจริง โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาสอบ ซึ่งครั้งแรกเราพุ่งเป้าไปที่อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นพื้นที่เหมืองแร่สังกะสีเก่า แต่ได้ข้อมูลไม่ชัดเจน จนการประชุมนัดที่ 4 เราถึงทราบและแถลงข่าวให้รัฐบาลไปดำเนินการ และให้รปะชาชนเฝ้าระวัง
“ถือเป็นโชคดีของคนไทยที่เจอเร็ว ไม่ใช่ว่าต้องให้พี่น้องประชาชนล้มป่วยก่อนเหมือนในต่างประเทศ แล้วเราค่อยมาสืบหากันว่าพี่น้องประชาชนล้มป่วย เสียชีวิตเพราะอะไร”นายอัครเดช กล่าว
เมื่อถามว่าเจ้าหน้ารัฐที่ถูกต้องเรียนเป็นระดับท้องที่ต้นทาง ปลายทาง หรือกำกับดูแลใบอนุญาต นายอัครเดช กล่าวว่า ตามเอกสารที่ร้องเรียนเบื้องต้นมีทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องที่มาจากระทรวงอุตสาหกรรม ส่วนจะเป็นต้นทาง ปลายทาง หรือระดับไหนขอตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง โดย กมธ.จะติดตามเรื่องดังกล่าวต่อไป
เมื่อถามย้ำว่ามีข้อมูลทุนจีนเทาเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องดังกล่าวด้วยหรือไม่ ประธานกมธ.อุตสาหกรรม กล่าวว่า ต้นทางที่จ.สมุทรสาคร เป็นคนจีน ทั้งการเตรียมส่งออก เป็นเจ้าของโรงงานที่ไปตรวจพบกากแร่แคดเมียม ที่ต.คลองกิ่ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี และเป็นผู้ประกอบการคนจีน ที่พบว่าเป็นโรงงานทำผิดกฎหมายและให้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ไปจับกุมดำเนินคดีมาแล้ว จะเห็นได้ว่าตัวละครที่เป็นคนจีนมีทั้งหมด 3 ตัวละคร ตัวละครสุดท้ายต้นทางที่จ.สมุทรสาครที่เป็นโรงหลอม ก็มีผู้ประกอบการคนจีนที่สวมสิทธิ์หลบเลี่ยงภาษี
“ผมจึงเรียกร้องให้นายกฯหยิบยกเรื่องนี้มาเป็นวาระแห่งชาติในการดำเนินการกับนักลงทุนจีนสีเทาทางด้านอุตสาหกรรมที่ละเมิดกฎหมาย เพราะ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ทุนจีนกระทำความผิดซ้ำซาก ทำให้เกิดผลกระทบกับประชาชนต่อเนื่องรุนแรง ซึ่งทางกมธ.เคยสอบสวนและให้เจ้าหน้าที่ไปดำเนินคดีมาแล้ว”นายอัครเดช กล่าว.