‘ชวลิต’ เตือน กู้ ธ.ก.ส. แจก ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ ส่อผิดหลักการ ไม่ผ่านตา กมธ.งบ67
“ชวลิต” เผย ไร้การพิจารณา “โครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ในชั้น กมธ.งบฯ67 ชี้ กู้ “ธ.ก.ส.” มาแจก หวั่น ผิดวัตถุประสงค์เพื่อเกษตรกร จะเหมือนแจก ที่สปก. ในอดีต จะติดร่างแหกันหมด ชี้ ร้านสะดวกซื้อ ทั่วประเทศ ของเจ้าสัวทั้งนั้น ไม่ได้กระจายสู่รายย่อยตามหมู่บ้าน
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ในฐานะกรรมาธิการงบประมาณปี 2567 กล่าวถึงที่มาของงบประมาณ สำหรับใช้ในโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการกู้ยืมจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ว่า จากการจัดทำงบประมาณในปี 2567 ที่ผ่านมา ไม่มีการพิจารณาโครงการนี้ในชั้นกรรมาธิการแต่อย่างใด ซึ่งในหลักการตนเห็นด้วยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ระบว่าต้องมีเงินสกุลหลักสกุลเดียว คือ เงินบาทโดยค่าของเงินบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะความน่าเชื่อถือ
นายชวลิต กล่าวว่า หากค่าเงินของประเทศตกต่ำลง หายนะก็จะมาสู่ประเทศและคนไทยทุกคน ที่สำคัญชาวบ้านเห็นชัดเจนว่า ผู้ที่ได้ประโยชน์ในท้ายที่สุดจากโครงการนี้ คือห้างสะดวกซื้อ ซึ่งมีอยู่ทุกหัวระแหง ทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด ทั่วประเทศ โดยเจ้าของร้านสะดวกซื้อ คือ มหาเศรษฐีอันด้บต้นๆ ของประเทศ เงินงบประมาณหลายแสนล้านบาท จากห้าแสนล้านบาท ไม่ได้กระจายไปยังร้านเล็ก ร้านน้อย ตามหมู่บ้าน ตำบล แต่จะกระจุกตัวอยู่ที่เจ้าสัว เจ้าของร้านสะดวกซื้อ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนก็จะยิ่งกว้างขึ้น
นอกจากนี้ หากใครจำเรื่อง สปก.ได้ สมัยพรรคการเมืองเก่าแก่พรรคหนึ่งเป็นรัฐบาล เมื่อมีการออก สปก.ให้กับ "ผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร" ก็เป็นเหตุให้รัฐบาลในยุคนั้นต้องล้มไป หรือแม้แต่ในรัฐบาลนี้ กรณีออก สปก.ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ให้กับ ผู้ที่ไม่ใช่เกษตรกร ก็ต้องเพิกถอน สปก.ดังกล่าว และต้องออกตัวกันยกใหญ่อยู่ในขณะนี้ ดังนั้น การจะนำเงินจาก ธ.ก.ส. มาใช้ในโครงการนี้ ถ้าจับหลักการของ พ.ร.บ.ธ.ก.ส.ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเกษตรกรไม่ได้ ก็จะคล้ายๆ กับ สปก.ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเกษตรกร ผู้เกี่ยวข้องก็จะติดร่างแหกันไปหมด ตนได้ให้ความเห็นมาโดยไม่มีอคติใดๆ ยังให้กำลังใจทุกฝ่ายในการแก้ปัญหาเพื่อประชาชน แต่ถ้าเดินหน้า โดยไม่ฟังเสียงท้วงติง ถือว่าตนได้ทำหน้าที่ในฐานะคนไทยคนหนึ่งแล้ว