'รมว.กลาโหม' ไม่หนักใจ สถานการณ์ชายแดนเมียนมา
"รมว.กห." เผยผลประชุมสภากลาโหม รับฟังรายงานสถานการณ์เมียนมา ระบุไม่หนักใจ หากมีเหตุกองทัพพร้อมป้องปราม ระบุยอดเกณฑ์ทหารโดยสมัครใจไม่เป็นไปตามเป้า
ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานการประชุมสภากลาโหมครั้งที่ 4/ 2567 ว่า ที่ประชุมได้หารือในหลายเรื่อง โดยเรื่องแรกรับทราบถึงสถานการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านเกี่ยวกับการสู้รบในเมียนมา ส่วนภาพรวมแนวชายแดนเมียนมา นั้นมีคณะกรรมการชายแดนทั้งระดับที่ดูแลร่วมกัน ขณะที่กองทัพ ก็มีหน่วยทหาร ซึ่งกองทัพอากาศก็พร้อมที่จะขึ้นบิน โดยมีการบินลาดตระเวน หรือบินเตือน และบินป้องปรามอยู่ด้วย เชื่อว่าไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรหนักใจหากมีการบินรุกล้ำน่านฟ้า พร้อมเครื่องบินสกัดกั้นได้โดยทันที
นายสุทิน กล่าวว่าสิ่งที่น่าสนใจคือ ยอดทหารสมัครใจในปีนี้ ที่เพิ่มขึ้น 9% แต่ไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่อยากได้ จากการวิเคราะห์ คือ การเตรียมตัวช้า ความเชื่อมั่นทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร รวมถึงปัจจัยลบ ที่อาจจะเกิดจากธรรมชาติ หรืออาจจะเกิดจากคนที่ตั้งใจสร้างขึ้น เช่นการฝึกนอกรีต เอาทหารไปรับใช้ และอีกหลายเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ ส่งผลให้ผู้ปกครอง และเด็กยังหวั่นไหว โดยได้คุยกันในที่ประชุมว่า ในปีต่อไป ต้องประชาสัมพันธ์ให้พร้อมทุกมิติทุกช่องทาง รวมถึงร่วมมือกับภาคีอื่นๆ ในการสื่อสารไปถึงเด็ก และผู้ปกครอง และสั่งการในที่ประชุมว่าจะต้องจัดการปัจจัยลบทั้งหมดให้ได้
นายสุทิน กล่าวด้วยว่านอกจากนั้นมีเรื่องความคืบหน้าการปฏิรูปโครงสร้างกำลังพล และกองทัพ ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสภากลาโหมเคยอนุมัติหลักเกณฑ์ให้มีข้าราชการพลเรือน ในกระทรวงกลาโหม โดยการประชุมวันนี้สำนักงานนโยบาย และแผนของกระทรวงกลาโหม จะเดินทางเรื่องนี้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะจัดสัมมนากับกองกำลังพล ในการเตรียมความพร้อม เพื่อจัดโครงสร้าง และสื่อสารถึงกำลังพลให้เชื่อมั่นในเส้นทางใหม่ ภายในเดือนพ.ค.
นายสุทิน กล่าวด้วยว่าสำหรับการใช้ งบประมาณปี67 ที่เวลาอีก 5 เดือน โดยได้กำชับทุกเหล่าทัพทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง วางแผนดำเนินการจัดการให้ทันกับเวลา และจะต้องทำอย่าให้งบเสียหาย บนพื้นฐานของการยึดระเบียบปฏิบัติให้เคร่งครัด และโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และนำนโยบายของรัฐบาลไปดำเนินการให้ได้ เช่นการจัดซื้อจัดจ้างยุทโธปกรณ์ ให้ใช้ของภายในประเทศ การถ่ายทอดเทคโนโลยี ต้องขอถ้าทำได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการรองรับสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศอิหร่าน กับอิสราเอล โดยนายสุทิน กล่าวว่า ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดให้รู้ทัน ส่วนเรื่องการสู้รบตนมองว่า บางพื้นที่ยังอยู่ไกล ผลกระทบค่อนข้างน้อย ส่วนประเทศไหนที่อยู่ใกล้เราได้ให้สั่งเตรียมการในระดับเข้ม และขอให้จับตาอย่าประมาท