'วราวุธ' ยันไม่มีสัญญาณปรับ ครม. ชี้ ทำงานการเมือง พรรคต้องปรับตัว
“วราวุธ” ยัน ไม่ได้รับสัญญาณปรับ ครม. ปัดตอบ 7 เดือนถึงหรือไม่ โบ้ยถาม "เพื่อไทย" ขอทำงานจนนาทีสุดท้าย เผย หัวใจสำคัญของการทำงานการเมือง พรรคต้องปรับตัว
เมื่อวันที่ 20 เม.ย.67 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง การพูดในห้องประชุมว่า พรรคชาติไทยพัฒนา ดูแลงานสิ่งมีชีวิตมาหมดแล้ว ตั้งแต่ 4 เท้า ถึง 2 เท้า ไม่รู้ว่าอนาคตจะมีเท้าหรือไม่ ว่า ยังไม่ได้รับการส่งสัญญาณเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรี แต่ในความหมายที่พูด คือ ในอนาคตหากทำงานในมิติอื่นๆ อาจจะไม่มีเท้าเลยก็ได้ เราคาดเดาไม่ได้ ขึ้นอยู่กับการพูดคุยของพรรคร่วมรัฐบาล ส่วนมีการพูดคุยกับพรรคร่วมหรือยัง ไม่สามารถตอบแทนพรรคอื่นได้ แต่ในส่วนของพรรค ยังไม่ได้มีการหารือ
ส่วนมั่นใจว่าจะได้อยู่ที่เดิมหรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่ได้มั่นใจ เพราะยังไม่รู้ ยังไม่มีการติดต่อ ก็ทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนรัฐมนตรีที่มีชื่อว่าถูกปรับเริ่มมีการหวั่นไหวเหมือนถอนใจแล้ว พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันยังไม่ได้รับสัญญาณใช่หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ถึงจะมีสัญญาณหรือไม่มีสัญญาณ แต่ตราบใดที่ยังดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. อยู่ ก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย ถึงแม้มีข่าวว่าจะปรับออก หรืออย่างไรก็แล้วแต่ ตราบใดที่ยังใส่หมวก รัฐมนตรี พม.กินเงินเดือนจากภาษีประชาชน เราก็จะทำงานจนถึงนาทีสุดท้าย
นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบแทนรัฐบาลและพรรคแกนนำได้ ว่า ทำงานมา7 เดือน ถึงเวลาต้องปรับครม.หรือไม่ พรรคเพื่อไทยต้องเป็นผู้ตอบคำถามนี้ แต่ยืนยันในส่วนของพรรค 7 เดือนที่ผ่านมา เรามีผลงานมากมาย เปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวง พม.
นายวราวุธ กล่าวถึงปัญหาใหญ่ของกระทรวง พม. คือปัญหาประชากรผู้สูงอายุ ว่า การจะให้มีประชากรเพิ่มขึ้น ต้องให้คนรุ่นใหม่ มีครอบครัว มีลูก ต้องแก้ปัญหาที่ต้นตอ สร้างความหวังให้คนรุ่นใหม่ มั่นใจว่าจะมีศัดยภาพดูแลครอบครัว ทั้งที่อยู่อาศัย คุณภาพการศึกษา คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่เอื้อให้อยากมีครอบครัว ซึ่งไม่ใช่เฉพาะ พม. ที่ต้องรับผิดชอบ แต่ทุกกระทรวงต้องแก้ปัญหาร่วมกัน เพื่อสร้างสังคมที่คนรุ่นใหม่อยู่แล้วสบาย มีความหวัง มีที่พึ่งในอนาคต
นายวราวุธ ยังกล่าวถึงการปรับตัวของพรรคชาติไทยพัฒนาให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองให้พรรคคงอยู่ต่อไป ว่า ตนคิดว่าหัวใจสำคัญของการทำงานการเมือง คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงในงานที่เราทำ ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนา ตั้งแต่การเลือกตั้งปี 2562 จนถึงวันนี้ ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนได้เห็นแล้ว ไม่ว่าเราจะทำงานอยู่ในกระทรวงใด เราสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ในทางที่ดี ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือวันนี้ที่เราดูแลกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เราเปลี่ยนมิติการทำงานของกระทรวงจากเชิงรับเป็นเชิงรุก ทำงานในรูปแบบ พม.หนึ่งเดียว ดังนั้นการทำงานของพรรคชาติไทยพัฒนาเราเป็นนักปฏิบัติ อยู่ที่ใดเราก็สร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดคุณประโยชน์มากที่สุดให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการเมืองสมัยใดก็แล้วแต่ เป้าหมายของการเมืองคือการทำให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้น และตนคิดว่าเราได้ทำออกมาเป็นรูปธรรมอย่างที่สุดให้ประชาชนได้เห็น
ส่วนจะทำอย่างไรให้พรรคชาติไทยพัฒนาคงอยู่ต่อไป นายวราวุธ กล่าวว่า การคงอยู่ของพรรคหัวหน้าพรรคพูด มันไม่สำคัญเท่ากับสมาชิกพรรคพูด หากหัวหน้าพรรคบอกว่าเราจะอยู่ค้ำฟ้าต่อไปเหมือนเป็นดาวค้างฟ้า ก็ไม่เหมือนกับสมาชิกนับหมื่นนับแสนคนพูด หากมีคนสัก 2-3 แสนคนพูดต่อกันว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะอยู่ ตนคิดว่ามันน่ามั่นใจมากกว่าหัวหน้าพรรคพูดเพราะหัวหน้าพรรคก็แค่เสียงเดียว แต่สมาชิกพรรคนับหมื่นนับแสนชีวิต น่าจะให้ความมั่นใจกับสังคมได้มากกว่าคนคนเดียว
ส่วนจำนวนสมาชิก ของพรรคชาติไทยพัฒนามีเพิ่มขึ้นหรือไม่หลังจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาปี 2566 นายวราวุธ ระบุว่า จากนี้เรามีสมาชิกพักอยู่ประมาณ 10,000 คน ซึ่งเป็นการรักษาปริมาณสมาชิกที่เรามีอยู่ทั่วประเทศ ไม่ให้ลดลง
ส่วนการวางยุทธศาสตร์ให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในพรรคชาติไทยพัฒนามากขึ้นใน นายวราวุธ กล่าวว่า ขณะนี้เรามีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานในระดับนึงแล้ว รวมถึงมีการปรับปรุงการสื่อสารกับพี่น้องประชาชน ในช่องทาง
โซเชียลมีเดียต่างๆ มีทีมโฆษกหน้าใหม่และมีสุภาพสตรีเข้ามาร่วมด้วย เป็นการปรับการทำงานการทำงานของพรรคร่วมกับการคงอยู่ของผู้หลักผู้ใหญ่ที่ยังอยู่ในพรรคชาติไทยพัฒา
ส่วนพรรคชาติพัฒนามีความมั่นใจจากสู้กับพรรครุ่นใหม่ไฟแรงที่มีอยู่ในตอนนี้ได้หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า "เรื่องงานเราไม่เคยกลัว ถ้าพูดกันถึงเรื่องงานนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาเราทำงานไม่เคยแพ้ใคร เรามั่นใจว่าเราสู้ได้แน่นอน"