ปรับครม.‘กระชับอำนาจ’ เปิดทาง‘ยิ่งลักษณ์’คัมแบ็ก

ปรับครม.‘กระชับอำนาจ’ เปิดทาง‘ยิ่งลักษณ์’คัมแบ็ก

สัญญาณ"ปรับครม." กลาโหม จังหวะ “คานอำนาจ” จากดีลภาคแรก  ชะรอยจะนำไปสู่ "ดีลกลับไทย" ภาค2 จับตารมว.ยุติธรรม “หนังหน้าไฟ”   9เสียงประชาชาติ “ต่อรอง-ต่างตอบแทน?” 

KEY

POINTS

  • กลาโหม จังหวะ “คานอำนาจ” ระหว่าง อำนาจปัจจุบัน โดยมีเงาของ “อำนาจเก่า” ผ่านตัวแทนคือ  “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล ครอบอยู่อีกชั้น
  • จากดีลภาคแรก มี “บิ๊กแดง” เป็นตัวละครสำคัญใน “ซูปเปอร์ดีล” นำมาสู่การเดินทางกลับไทยของ “ทักษิณ”  การขึ้นแท่นรมช.กลาโหม ของ “บิ๊กเล็ก” ชะรอยจะนำไปสู่ดีลภาค2
  • รมว.ยุติธรรม “หนังหน้าไฟ”   9เสียงประชาชาติ “ต่อรอง-ต่างตอบแทน?” 

ต้องจับตาก่อนสิ้นเม.ย.ซึ่งค่อนข้างเป็นที่แน่ชัดว่า จะได้เห็นโฉมหน้า “ครม.เศรษฐา2” ไล่เรียงตั้งแต่ไทม์ไลน์ในสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีการแจ้งไปยังบรรดารัฐมนตรีที่ถูกปรับ-ย้าย หรือ รัฐมนตรีหน้าใหม่ ให้เข้ากรอกประวัติเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติ ก่อนนายกรัฐมนตรีจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ในลำดับถัดไป

โฟกัสโผครม.เศรษฐา2ที่จะปรากฎออกมาเวลานี้ บางกระทรวงอาจต้องลุ้นกันจนถึงนาทีสุดท้าย โดยเฉพาะบางตำแหน่งที่อยู่ในกลุ่มถูกปรับออก อาจยังมีหวังในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ

ขณะที่บางกระทรวงเริ่มนิ่ง โดยเฉพาะกระทรวงกลาโหม ซึ่ง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะโยกจาก “ขุนคลังนิด” ไปนั่งเป็น “บิ๊กนิด”  ในตำแหน่งรมว.กลาโหม โดยมี “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขานุการ รมว.กลาโหม จะขยับเป็น รมช.กลาโหม

น่าสนใจว่า “จังหวะปรับเปลี่ยน” เสนาบดีกระทรวงกระทรวงกลาโหมรอบนี้ เอาเข้าจริงอาจไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนตามวงรอบ6เดือนของรัฐบาลเศรษฐาแต่เพียงเท่านั้น 

แต่อาจหมายรวมไปถึงจังหวะ “คานอำนาจ” ระหว่างเศรษฐา ในฐานะตัวแทนอำนาจปัจจุบัน โดยมีเงาของ “อำนาจเก่า” ผ่านตัวแทนคือ  “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล ครอบอยู่อีกชั้น ภายใต้เงื่อนไข หรือ “ดีล” บางประการที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้หรือไม่ 

ปรับครม.‘กระชับอำนาจ’ เปิดทาง‘ยิ่งลักษณ์’คัมแบ็ก

เพราะอย่างที่รู้กัน  “บิ๊กเล็ก” ถือเป็นคน “คนใกล้ชิด” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี และยังเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่นที่ 20 (ตท.20)โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 31 รุ่นเดียวกับ“บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ รองเลขาธิการพระราชวัง อดีต ผบ.ทบ.  แถมช่วงฟอร์มรัฐบาลเศรษฐา “บิ๊กเล็ก” ยังมีข่าวว่าถูกวางตัวเป็น “รมว.กลาโหม” เสียด้วยซ้ำไป

เป็นเช่นนี้ย่อมต้องจับตา จากดีลภาคแรก โดยมี “บิ๊กแดง” เป็นตัวละครสำคัญใน “ซูปเปอร์ดีล” จัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว  จนนำมาสู่การเดินทางกลับไทยของ “ทักษิณ”  

การขึ้นแท่นรมช.กลาโหม “บิ๊กเล็ก” ที่ว่ากันว่าเส้นทางสู่ดวงดาวอาจสูงกว่าต่ำแหน่ง "รมช." ชะรอยจะนำไปสู่ดีลภาค2 โดยเฉพาะการส่งสัญญาณกลับไทยของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกฯผู้น้อง

ตอกย้ำด้วยท่าทีของ“ทักษิณ”อดีตนายกฯผู้พี่พูดไว้ระหว่างกลับภูมิลำเนาที่จ.เชียงใหม่เมื่อช่วงสงกรานต์“ปีหน้ายิ่งลักษณ์คงได้มีโอกาสมาทำบุญด้วยกัน”

ทำไปทำมาประเด็นการปรับครม. ของรัฐบาลเศรษฐา จากที่กล่าวอ้างเหตุผลปรับเปลี่ยน เพื่อให้การทำงานเป็นไปแบบ "ถูกฝาถูกตัว" เอาเข้าจริงอาจเป็นเพียงเป้าหมายหนึ่งเท่านั้น แต่อีกเป้าหมาย อาจอยู่ “ดีลภาค2” หลังจากนี้!

ปรับครม.‘กระชับอำนาจ’ เปิดทาง‘ยิ่งลักษณ์’คัมแบ็ก

ถอดรหัสสัญญาณ“ปรับครม.” ที่อาจแฝงด้วยวาระซ่อนเร้นไปถึงการกลับไทยของ “อดีตนายกฯหญิง” นอกเหนือจากจากโฟกัสไปที่ การเปลี่ยนถ่ายคานอำนาจในกระทรวงกลาโหมแล้ว 

แน่นอนว่า ในวันที่ยิ่งลักษณ์ กลับไทยเธอจะยังเหลือโทษจำคุก 5 ปี ในคดีปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ฉะนั้นอีกหนึ่งกระทรวงที่จะเป็นหนังหน้าไฟด่านแรกหนีไม่พ้น กระทรวงยุติธรรม ที่เวลานี้อยู่ในการครอบครองของพรรคประชาชาติ มี “ทวี สอดส่อง” เป็นเสนาบดี 

โดยเฉพาะช่องทางในการยื่นทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษที่แบ่งเป็น2กรณี ทั้งกรณีขอพระราชทานอภัยโทษเฉพาะราย ที่เปิดให้ผู้ที่มีประโยชน์เกี่ยวข้อง (บิดามารดา บุตร คู่สมรส) สามารถยื่นเรื่องราวทูลเกล้าฯแทนได้หรืออีกกรณีคือ กรณีที่ไม่มีผู้ใดถวายฎีกา รมว.ยุติธรรม เห็นเป็นการสมควรจะถวายคำแนะนำขอพระราชทานอภัยโทษให้ก็ได้  โดยทั้ง2กรณีผู้ขอพระราชทานอภัยโทษ จะต้องเป็นผู้ต้องโทษที่คดีถึงที่สุดแล้ว

ปรับครม.‘กระชับอำนาจ’ เปิดทาง‘ยิ่งลักษณ์’คัมแบ็ก

จริงอยู่โผครม.เศรษฐา2 ที่กำลังจะเผยโฉมออกมาในเร็ววัน “กระทรวงตราชั่ง” จะเป็นกระทรวงที่ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายการปรับเปลี่ยนของพรรคแกนนำ

ทว่า จุดโฟกัสจริงๆไม่ได้อยู่แค่ที่กระทรวงตราชั่ง แต่ในช่วงที่ผ่านมามีการสะท้อนภาพเกมต่อรองระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ“ประชาชาติ” ซึ่งเป็นหนังหน้าไฟคุมกระทรวงยุติธรรมอยู่เป็นระยะ 

ไม่ว่าจะเป็นข่าวคราว การยึดคืน “ประธานสภาผู้แทนราษฎร” จาก “วันมูหะมัดนอร์ มะทา” เพื่อเป็นรางวัลปลอบใจรัฐมนตรีอกหัก ที่ถูกปล่อยออกมาเป็นระยะ

กระทั่ง “วันนอร์” ออกมาให้สัมภาษณ์ด้วยท่าทีขึง เป็นเรื่องที่รับไม่ได้ 

ไม่ต่างจาก "ภูมิธรรม เวชยชัย"  รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ที่ชิงสยบลือ เพื่อไทยไม่คิดยึดคืนประธานสภา 

จะว่าไปหากนับสูตรสส.10คน ต่อรัฐมนตรี 1คน พรรคประชาชาติมีสส.9คน เท่ากับว่า จะมีโควตารัฐมนตรีแค่1คนคือในส่วนของ  “ทวี”

ที่เวลานี้ยังเหนียวแน่นรมว.ยุติธรรม โดยในส่วนของประธานวันนอร์ แกนนำให้เหตุผลเป็นโควตาคนกลาง 

ทว่าสัญญาณจากพรรคประชาชาติดูเหมือนยังไม่หยุดอำนาจต่อรองแค่1รัฐมนตรี1ประธานสภา เพราะล่าสุด “ทวี” พูดถึงกระแสการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ยอมรับว่า  ภายในพรรคได้พูดคุยกันถึงโควตารัฐมนตรีว่า อยากได้ 2 คนเพื่อทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้

จริงอยู่แม้ “ทวี” จะพูดถึงโควตาพรรคประชาชาติว่า “ต้องเป็นไปตามโควตา และพรรคประชาชาติ ต้องรักษามารยาท เพราะมี สส. เพียง 9 คน และพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่กว่าพรรคประชาชาติ มี สส. 10 คน”

ฉะนั้นหากนับสูตรสส.10คน ต่อรัฐมนตรี 1คน ซึ่งประชาชาติจะได้รัฐมนตรีแค่1โควตา 

เช่นนี้จึงต้องจับตาอำนาจต่อรอง รวมถึงความเป็นไปได้ “2ทาง” ที่ประชาชาติจะได้โควตารัฐมนตรีเพิ่ม

1.คืนตำแหน่งประธานสภา เพื่อแลกกับโควตารัฐมนตรี ตามที่มีกระแสข่าว

2. เพื่อไทยเพิ่ม1โควตาให้กับพรรคประชาชาติ รวมเป็น2รมต.1ประธานสภา แบบฟรีๆเพื่อเป็นการต่างตอบแทนในฐานะรมว.ยุติธรรม เป็นหนังหน้าไฟให้กับตระกูลชินวัตร

จับตาสัญญาณปรับครม.ที่ใกล้จะได้เห็นโฉมหน้าในเร็ววัน ถึงที่สุดอาจไม่ใช่การสลับสับเปลี่ยนตามวงรอบแต่เพียงเท่านั้นแต่อาจรวมไปถึงการเมืองฉากต่อไป โดยเฉพาะการเดินทางกลับไทยของ “ยิ่งลักษณ์” ที่ถูกพูดถึงซูเปอร์ดีลฉาก2อยู่ ณ เวลานี้