'สุรชาติ' มอง 'รมว.ตปท.' ใหม่ ต้องฟื้นบทบาทไทย บนเวทีโลก

'สุรชาติ' มอง 'รมว.ตปท.' ใหม่ ต้องฟื้นบทบาทไทย บนเวทีโลก

"นักวิชาการด้านความมั่นคง จุฬาฯ" เปิด 12สเปค รมว.ต่างประเทศ ชี้ไม่จำเป็นต้องควบรองนายกฯ พร้อมมอง รมว.ตปท.คนใหม่ ต้องฟื้นบทบาทไทยบนเวทีโลก

นายสุรชาติ บำรุงสุข นักวิชาการด้านความมั่นคง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ไทยแลนด์ ต่อการเปลี่ยนตัวรมว.ต่างประเทศของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ในมิติของตำแหน่งที่มองว่ารมว. ต่างประเทศต้องควบกับรองนายกฯ นั้น ตนมองว่า การเจรจาระหว่างประเทศของกระทรวงการต่างประเทศ ไม่ผูกติดกับตำแหน่งรองนาย​กฯ อีกทั้งตำแหน่งรองนายกฯ ที่ผูกกับรมว.กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ข้อได้เปรียบการเจรจา อย่างไรก็ดีตำแหน่งรองนายกฯ ในความรับผิดชอบต้องคุมบอร์ดต่างๆ  ดังนั้นการควบตำแหน่งอาจไม่เหมาะเพราะ รมว.ต่างประเทศเรื่องใหญ่ต้องเดินทางบ่อย

“ตำแหน่งรองนายกฯ ควบกับรมว.ต่างประเทศ นั้น ที่ผ่านมาเกิดขึ้นในรัฐบาลรัฐประหาร เพราะเขาส่งทหารเข้ามาคุมราชการ ดังนั้นหากยึดว่าต้องควบนั้นอาจทำให้กลายเป็นตำแหน่งพิเศษทางการเมืองไทยได้ นอกจากนั้นทุกยุค รมว.ต่างประเทศไม่มีสส. หรือ มุ้งของตนเอง และมาโดยอำนาจของนายกฯ" นายสุรชาติ กล่าว 

นายสุรชาติ กล่าวด้วยว่า สำหรับสเปค ของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ  ตามงานวิจัยปริญญาเอกที่ศึกษามา มี 12 ข้อ คือ

1.มีความรู้และเข้าใจการเมืองระหว่างประเทศ เพื่อไม่แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม

2. รมว.ต่างประเทศต้องนำนโยบายของรัฐไปปฏิบัติได้จริง

3.ต้องขับเคลื่อนนโยบายได้ รวมถึงผลักดันนโยบายรักษาผลประโยชน์ของรัฐไทยในเวทีสากล

4.ดำเนินการลดทอนปัญหา ผลกระทบเชิงลบต่อรัฐในเวทีสากล

5.ต้องควบคุมระบบราชการภายในกระทรวงให้ได้ การเป็นรมว.ต้องไม่ถูกหลอก

6.ประสานกับนายกฯและทำงานเป็นทีมกับนายกฯได้

7.นายกฯต้องฟังและเชื่อใจรมว.ต่างประเทศที่ดำเนินนโยบาย เพราะเป็นงานนอกบ้าน

8.ต้องเข้าใจระบบราชการ กฎระเบียบ และสิ่งที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการดำเนินนโยบาย

9.มีทีมในการทำงาน เพราะงานต่างประเทศทำส่วนเดียวหรือคนเดียวไม่ได้

10.ต้องสร้างความมั่นใจให้กับรัฐบาลในการผลักดันนโยบายของประเทศในเวทีโลก

11.ต้องกล้าคิดตัดสินใจดำเนินนโยบาย และผลักดันนโยบาย

12.สร้างความศรัทธาในหน่วยงาน ฐานะเจ้ากระทรวง  ไม่ใช่ต้องให้บุคลากรรัก 100% แต่ต้องสร้างศรัทธา พากระทรวงไปสู่อนาคต

“นโยบายต่างประเทศแยกไม่ออกจากนโยบายความมั่นคง เพราะมีความทับซ้อนในหลายเรื่อง เช่น วันนี้ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเมียนมา หรือท่าทีของไทยต่อสงครามที่เมียนมา ตกลงเป็นนโยบายต่างประเทศหรือนโยบายความมั่นคง ผมคิดว่าลึกๆ ถือว่าเป็นนโยบายความมั่นคงระหว่างประเทศ ทั้งนี้ขณะนี้มีโจทย์ใหญ่อีกชุด คือ สงครามเย็น หรือ การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ รมว.ต่างประเทศต้องเล่นให้เป็น โดยช่วง 10 ปีหลังรัฐประหาร ถึง ปี 66 บทบาทของกระทรวงลดหายไปจากจอเรดาร์โลก ดังนั้นรมว.ใหม่ต้องผลักดันมากขึ้นเพราะสถานการณ์เวทีโลกเข้มข้น และส่วนหนึ่งเราไม่เกี่ยวแต่เกี่ยวด้วยเงื่อนไขในสถานการณ์โลก เช่น ฉนวนกาซาที่คนไทยส่วนหนึ่งยังไม่ได้กลับ ปัญหาในทะเลแดง เป็นต้น”นายสุรชาติ กล่าว

เมื่อถามถึงประเมินตัวของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ ที่เป็นตัวเต็งนั่งรมว.ต่างประเทศ นายสุชาติ  กล่าวว่า ตนไม่รู้จัก แม้ตนจะมีลูกศิษย์เยอะในกระทรวงต่างประเทศ แต่ความสัมพันธ์ไม่มีอะไร  มีความรู้จักส่วนตัวไม่มาก ไม่กล้าตอบ ทั้งนี้เข้าใจนายมาริษว่าเป็นนักเรียนนอกโดยตรง ไม่ใช่สิงห์ดำ.