'เพื่อไทย' ปั้นทีม ‘PTP Academy’ จุดพลุวาระสังคม ส่งรัฐสานต่อ
ต้องจับตาทุกความเคลื่อนไหวของทายาทเจนใหม่ “แพทองธาร-สรวงศ์” ที่เริ่มขยับ ปรับแนวทางการทำงานของ สส.เพื่อไทย ให้ทันสมัย ทันโลก และทันการเมืองยุคใหม่มากยิ่งขึ้น
หลังโชว์ผลงาน 10 เดือนในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล “เพื่อไทย”ก็เริ่มขยับวางยุทธศาสตร์การทำงานอย่างเป็นระบบ มีเป้าหมาย เพื่อกอบกู้คะแนนนิยม หลังพ่ายศึกเลือกตั้งให้กับพรรคก้าวไกล
ก่อนเลือกตั้ง “เพื่อไทย” ไม่ชัดเจนพอกับข้อกล่าวหาร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับ “3 ป.” ทำให้แต้มการเมืองลดน้อยลง
หลังการเลือกตั้งเพื่อไทยยังเสียสัจจะ พลิกขั้วจับมือ “3 ป.” จัดตั้งรัฐบาล เรตติ้งยิ่งวูบ
“บิ๊กเนม-แฟนคลับ” ของพรรคเพื่อไทยตระหนักดีว่า การทำงานในนามเพื่อไทยต้องเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้น “พลพรรคสีส้ม” จะรุกกินแดนจนส่งผลกระทบในระยะยาว
การทำงานของเพื่อไทยจึงถูกแบ่งเป็น 2 ทาง ทางหนึ่งขับเคลื่อนในนาม “รัฐบาล” ซึ่งต้องโชว์ผลงานให้โดดเด่น โดยโจทย์ใหญ่สุดคือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ กระตุ้นทุกมิติให้ประชาชนกลับมาอยู่ดีกินดี
ทางหนึ่ง คือการขับเคลื่อนในนามพรรค เพื่อไทยจึงจำเป็นต้องดำเนินการให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อสะสมคะแนนไม่ให้คู่แข่ง-คู่แค้นทิ้งห่างออกไป
ทว่า จุดอ่อนของเพื่อไทยคือแนวทางการทำงานของ สส.ที่ยังยึดติดรูปแบบเดิม ไม่มีการขับเคลื่อนนโยบายเชิงโครงสร้าง เพื่อสร้างกระแสนิยมภาพกว้าง แม้จะมี สส.รุ่นใหม่ เข้ามาทำงานจำนวนมาก แต่มักจะเป็นทายาท สส.บ้านใหญ่ แนวคิด-แนวต่อสู้ จึงแตกต่างจาก “ก้าวไกล” อยู่มากโข
อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค และ บอย "สรวงศ์ เทียนทอง" เลขาธิการพรรค พยายามสื่อสารเรื่องการปรับรูปแบบการทำงานของ สส.ในทุกมิติ
“แพทองธาร” ประกาศในงาน “10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10” ตอนหนึ่งว่า พรรคเพื่อไทยในอนาคตจะเป็นพรรคการเมืองที่เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลที่มีศักยภาพ มีนโยบายที่ดี สร้างอนาคตให้ประเทศไทย
สะท้อนให้เห็นว่า “หัวหน้าอิ๊ง” ค่อนข้างเอาจริงเอาจังกับงานวางรากฐานของพรรค โดยมี เลขาฯบอย - สรวงศ์ คอยเป็นพ่อบ้าน บริหารจัดการงานหลังบ้านอย่างต่อเนื่อง
โดยเพื่อไทยเตรียมเปิดตัว “ทีม PTP Academy” หรือ Pheu Thai Party Academy ซึ่งจะเป็นหน่วยงานพัฒนาศักยภาพบุคลากร สร้างองค์ความรู้ทางวิชาการ เปิดพื้นที่เชื่อมโยงการทำงานของพรรคกับหน่วยงานข้างนอก โดยได้เริ่มดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่ง มีการจัดอบรมเพิ่มองค์ความรู้ให้กับ สส. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานการเมืองให้มากยิ่งขึ้น
“ทีม PTP Academy” จัดอบรม สส. รุ่นเก่า - รุ่นใหม่ ไปแล้วหลายครั้ง มีการมอบหมายให้ สส.แต่ละคน วางแนวทางการทำงานของตัวเองตามความถนัด เพื่อช่วยขับเคลื่อนในด้านต่างๆ
ล่าสุด มีความคืบหน้างานด้านการศึกษา โดย สส.หญิง “ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์”สส.บัญชีรายชื่อ ที่มาจากอดีตอาจารย์มหาวิทยาลัย ได้ฟื้น “สภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย” หรือสภาฯเยาวชน ซึ่งเคยจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ยุครัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” แต่กลับถูกแช่แข็งเอาไว้ โดยจะกลับมาให้ความสำคัญ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน จะเสนอให้มี “นักจิตวิทยา” ในทุกสถาบันการศึกษา และรวมไปถึงใน “หน่วยทหาร” ทุกหน่วย เพื่อช่วยบำบัดอาการทางจิต เนื่องจากที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เกิดขึ้นจาก“ผู้ป่วยทางจิต”จำนวนมาก ที่สำคัญอาการทางจิต ต้องอาศัยผู้ชำนาญถึงจะสามารถสังเกตอาการได้
นี่เป็นเพียงตัวอย่าง ซึ่งการทำงานของทีม PTP Academy จะมองปัญหาเชิงโครงสร้าง ก่อนจะหาแนวทางแก้ไข หากปัญหาใดยังไม่สามารถแก้ได้ในทีเดียว จะแยกย่อยรายละเอียดของปัญหา ก่อนจะพูดคุยทำความเข้าใจกันในทีม
ทั้งนี้ เมื่อทีม PTP Academy ในแต่ละด้าน มีข้อเสนอไปยัง “รัฐบาล” ให้ช่วยแก้ไข แต่หากต้องแก้กฎหมาย ก็จะเสนอไปยัง “สภาฯ” โดยทั้ง 2 ส่วนจะทำงานควบคู่กันไป
สำหรับทีม PTP Academy มี เลขาฯบอย คอยเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง หลังจากเงียบหายไปจากหน้าสื่อ เพราะต้องทำงานหลังบ้านอย่างเต็มที่ เรื่องการวางรากฐานให้พรรคมีความมั่นคง
หลังจากนี้ ต้องจับตาทุกความเคลื่อนไหวของทายาทเจนใหม่ “แพทองธาร-สรวงศ์” ที่เริ่มขยับ ปรับแนวทางการทำงานของ สส.เพื่อไทย ให้ทันสมัย ทันโลก และทันการเมืองยุคใหม่มากยิ่งขึ้น