8 เดือน ‘รัฐนาวาเศรษฐา’ เปราะบาง ท้าทาย ขยายแนวรบ

8 เดือน ‘รัฐนาวาเศรษฐา’ เปราะบาง ท้าทาย ขยายแนวรบ

8 เดือนของ “รัฐบาลเศรษฐา” ที่เปิดแนวรบภายใน ภายนอก โดยไม่คาดคิดถึงพายุที่กำลังก่อตัว ความเปราะบางที่แกนนำรัฐบาลมองข้าม จะด้วยความชะล่าใจ หรือทำอะไรโดยประมาทอารมณ์ผู้คนในสังคม ย่อมผลักคนที่คิดไม่เหมือนรัฐบาล ไปยืนอยู่ตรงข้าม

Key Points

  • แรงกดดันในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ของรัฐบาล อาจเป็นที่มาความขัดแย้งกับ “แบงก์ชาติ” หากตัวเลขไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ก็มีข้ออ้างว่าใครอุปสรรค
  • ศึกภายในพรรคร่วม เริ่มกรุ่นขึ้นทุกขณะ กัญชา กลายเป็นชนวน ระหว่างเพื่อไทยและภูมิใจไทย เมื่อนายกฯ สั่งเก็บเป็นยาเสพติด 
  • กรณีข้าววินเทจ10ปี ที่บอกว่ากินได้ ก็ท้าทายอารมณ์สังคมไม่น้อย ที่ห่วงคุณภาพ สารปนเปื้อนก่อมะเร็ง แต่ภูมิธรรม เวชยชัย กลับ ฟาดยับคนเห็นต่างไม่ยั้ง ว่าดราม่า หรือเป็นพวกจินตนาการ นำความจริง 

รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ที่บริหารอำนาจมา 8 เดือน กำลังเข้าโหมดโดนรุมเร้าจากปัจจัยภายใน ภายนอก การดำเนินนโยบายที่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และหลายเรื่องที่ทำ ก็ท้าทายอารมณ์สังคมไม่น้อย

แรงกดดันของรัฐบาลข้ามขั้ว นำโดย พรรคเพื่อไทย คือการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง เติมเงินใส่กระเป๋าประชาชน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่าย แต่ปัญหาในมุมมองของรัฐบาล ชี้ไปที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ที่ยึดหลักการตัวเองอย่างมั่นคง ไม่แกว่งตามแรงกดดันของฝ่ายการเมืองที่ต้องการให้ลดดอกเบี้ย

นอกจากเศรษฐา ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับกับผู้ว่าแบงก์ชาติ แล้ว อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ก็เพิ่งฟาดแบงก์ชาติว่าเป็นอุปสรรคแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ถ้าไม่ยอมให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ประเทศไม่มีทางลดเพดานหนี้ได้

เรื่องนี้ทำเอาทัวร์ลงอุ๊งอิ๊งเพียบ ตั้งแต่เรื่องก้มหน้าอ่านสคริปต์ หรืออาจไม่เข้าใจหรือเข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนหรือไม่ เพราะขนาดดอกเบี้ยเงินกู้แพงขนาดนี้ คนยังเป็นหนี้กันบานตะไท

หากแบงก์ชาติลดดอกเบี้ยลง เพดานหนี้ที่อุ๊งอิ๊งว่าไว้ จะลดลงจริงหรือไม่ หรือยิ่งกระตุ้นให้คนกู้มาใช้กันมือเติบและเป็นหนี้เพิ่มกันแน่ หลายคนเลยสับสนว่าต้องแก้ที่พฤติกรรมคน หรือนโยบายแบงก์ชาติกันแน่

เรื่องนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่า หากรัฐบาลไม่สามารถทำได้ตามเป้า คือดัน GDP โตเฉลี่ย 5% ใน4ปี ก็จะมีข้ออ้างหรือไม่ ว่าที่ทำไม่สำเร็จเป็นเพราะแบงก์ชาติ

ไหนจะเรื่องกัญชา ที่เศรษฐา สั่งให้แก้กฎกระทรวงสาธารณสุข กระชากกลับไปเป็นยาเสพติด ทั้งที่เรื่องนี้เป็นนโยบายไฮไลท์ของภูมิใจไทย ที่ปลดล็อกให้เสรี

แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีปัญหาอยู่บ้าง ในเรื่องสันทนาการ จนต้องตามล้างตามเช็ดมาตลอด เพราะไม่มีมาตรการควบคุมรอบด้าน ตั้งแต่แรก มีปัญหาก็แก้กันที จนผิดคอนเซ็ปต์เพื่อการแพทย์ค่อนข้างมาก จะออกกฎหมายมาคุมภายหลัง สถานการณ์ก็ไปไกล จนอาจไม่ทันการณ์

แน่นอนว่า การที่เศรษฐา และเพื่อไทย หักดิบภูมิใจไทย ย่อมสร้างแผลใจกันไม่น้อย แม้อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูใจไทย จะโชว์สปิริต ว่าไงว่ากัน ไม่ต่อต้าน

แต่ในวันข้างหน้า หากมีกรณีให้ภูมิใจไทยต้องต่อรองกับเพื่อไทย เรื่องกัญชาอาจเป็นข้ออ้างมากดดันได้ เพราะเคยยอมกลืนเลือด ยอมแช่แข็งสายเขียวมาแล้ว กรณีภูมิใจไทยจึงเป็นจุดเสี่ยงของรัฐบาลผสมชุดนี้ไม่น้อย

ต่างจากรณีรวมไทยสร้างชาติ เรื่องการแบ่งงานในกระทรวงคลัง จน กฤษฎา จีนะวิจารณะ ลาออกรมช.คลัง หรือกรณีครม.เบรก กระทรวงพลังงาน ของบฯ กลางหลายพันล้านอุ้มราคาน้ำมันดีเซล ก็อาจสร้างแรงกระเพื่อมไม่มากเท่าหรือไม่ เพราะท่อน้ำเลี้ยงมาจากแหล่งเดียวกัน

หรือกรณีข้าววินเทจ 10 ปี ที่ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ลงทุนเปิดโกดังปัดฝุ่นหุงกินโชว์ จนผู้คนพากันผวา ว่าอาจมีสารปนเปื้อนบางชนิดที่เป็นพิษกับร่างกาย คนที่เห็นต่างกับรัฐบาลเรื่องนี้ กลับโดนรองฯ อ้วน ฟาดกลับว่าดราม่า หรือจินตนาการนำความจริง

ไม่แน่ว่าการที่ ภูมิธรรมกล้าปะฉะดะ เรื่องข้าว 10 ปี นั้น อาจประเมินแล้วว่ากลุ่มต่อต้านอย่างไรก็จุดไม่ติด เห็นได้จากการสลัดก้าวไกลมาตั้งรัฐบาลกับเครือข่าย 3 ป.

กรณีทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับไทย และได้รับการพักโทษ ก็ไม่มีเอฟเฟกต์อะไรเกิดขึ้นกับรัฐบาล แถมฝ่ายค้านก็อ่อนแอ ก้าวไกล มีกระแส แต่ผลงานยังไม่มีอะไรชัดเจน

รวมถึงกระแสข่าวของอดีตนายกฯ ที่พยายามสร้างบทบาทในภูมิภาคอาเซียน มีการพูดกันหนาหูถึงไปพบอันวาร์ อิบราฮิม นายกฯมาเลเซียที่ภูเก็ต หรือกรณีพบกับผู้นำกลุ่มชาติพันธ์ุที่สู้รบกับกองทัพเมียนมา ที่ต่างไม่ยอมลงนามให้บิ๊กเนมจากไทย รับบทนายหน้าค้าสันติภาพ ด้วยสถานะส่วนตัวกับทางการไทยที่เป็นคนละเรื่องกัน จึงอาจกระทบความเชื่อมั่นในตัวผู้นำไทยจากเพื่อนบ้านหรือไม่

8 เดือนของรัฐบาลเศรษฐา ที่เปิดแนวรบภายใน ภายนอก โดยไม่คาดคิดถึงพายุที่กำลังก่อตัว ความเปราะบางที่แกนนำรัฐบาลมองข้าม จะด้วยความชะล่าใจ หรือทำอะไรโดยประมาทอารมณ์ผู้คนในสังคม ย่อมผลักคนที่คิดไม่เหมือนรัฐบาล ไปยืนอยู่ตรงข้าม

ยังไม่นับกรณียิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่นับวันรอเดินทางกลับไทย

แกนนำคนสำคัญที่เคยชุมนุมต่อต้านทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ อย่างอัญชลี ไพรีรัก เริ่มปรากฎตัวบนเวทีม็อบ คปท.ข้างทำเนียบฯ บ่อยขึ้น

ฝ่ายต่อต้านเองกำลังรอจังหวะสุกงอม รอคนคุมเกม คือรัฐบาล เดินพลาด หลุดจากร่องจากรอยเท่านั้นเอง