เกมเร่ง ‘เศรษฐา’ เข้าเรดโซน ‘อนุรักษ์’ขย่ม‘ทักษิณ’เกินดีล
การเปิดเกมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ “เศรษฐา-พิชิต” จึงน่าจับตาว่ามี “บิ๊กเนม” เข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด เพราะการบีบให้ “เศรษฐา” เข้าสู่เรดโซน ย่อมมีนัยสำคัญแฝงอยู่
KEYPOINTS
- 40 สว. ค้างคาใจคดีถุงขนม 2 ล้านบาท ของ “พิชิต” ซึ่งเป็นแผลเก่าฝังลึก
- นายกฯ มีความมั่นใจการตั้ง “พิชิต” ชอบธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย เพราะได้สอบถาม “กฤษฎีกา” แล้ว
- ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาคำร้อง 40 สว. "นายกฯ -พิชิต" ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ในวันที่ 23 พ.ค.
สั่นสะเทือน “บ้านจันทร์ส่องหล้า-พรรคเพื่อไทย” ทุกองคาพยพ ภายหลังสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องจาก “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้อง สว. 40 คน เข้าชื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้พิจารณาวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” และ “พิชิต ชื่นบาน” สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 ประกอบมาตรา 160 (4) (5) หรือไม่
“40 สว.” อยู่ในปีกอนุรักษนิยม ค้างคาใจกรณีคดีถุงขนม 2 ล้านบาท ของ “พิชิต” ซึ่งเป็นแผลเก่าฝังลึก แม้จะใช้ทุกวิธีสกัดไม่ให้ฝั่งตรงข้ามนำมาเล่นงาน แต่ยังไม่สามารถสลัดให้พ้นตัว “พิชิต” ออกไปได้
ครม.เศรษฐา 1 ชื่อ “พิชิต” ถูกส่งตรงมาจากบ้านจันทร์ส่องหล้า มาถึงมือ “เศรษฐา” เพื่อเป็นหนึ่งในมือทำงาน “ปฏิบัติการลับ” อำนวยความสะดวกพา “นายหญิงพลัดถิ่น” กลับบ้าน
ชื่อ “พิชิต” ไปติดในขั้นตอนการตรวจคุณสมบัติของ “กฤษฎีกา” จนกระทั่งปรับครม. เศรษฐา 2 “พิชิต” ติดโผแบบนอนมา เพราะมั่นใจว่าไม่ติดปัญหา เนื่องจาก “กฤษฎีกา” ตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อย โดยมั่นใจว่าไม่ขั้นรัฐธรรมนูญ
“เศรษฐา” มีความมั่นใจว่าการตั้ง “พิชิต” เป็นเรื่องที่ชอบธรรม และถูกต้องตามกฎหมาย เพราะได้สอบถาม “กฤษฎีกา” เรียบร้อยแล้ว
“ผมก็เคยบอกไปแล้วว่าก่อนที่จะมีการแต่งตั้งให้นายพิชิต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มีการสอบถามไปทางคณะกรรมการกฤษฎีกา และผมมั่นใจว่า จะสามารถตอบคำถามได้”
ทว่าปฏิบัติการเงียบของ “40 สว.” ส่งเรื่องให้ “พรเพชร” รับเรื่องวันที่ 15 พ.ค. ก่อนส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญ วันที่ 16 พ.ค. และสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ รับเรื่องหนังสือคำร้อง วันที่ 17 พ.ค. ก่อนจะพิจารณาคำร้อง และลุ้นสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ในวันที่ 23 พ.ค. ส่ง “เศรษฐา-เพื่อไทย” เข้าเรดโซน
ว่ากันว่า “หัวแถว 40 สว.” มาจาก สว.สายทหาร สายอดีตข้าราชการประจำ ซึ่งจัดอยู่ในสายอนุรักษนิยม ซึ่งเป็นศัตรูเก่าของ “ทักษิณ”
โดยมี “พล.อ.บุญธรรม โอริส” สว.สายทหาร เป็นแกนหลัก ในแวดวงทหารรู้กันดีว่า “พล.อ.บุญธรรม” เป็นเด็กสายลุงอดีตเบอร์หนึ่ง เคยเป็นนายทหารปืนใหญ่จากกองทัพภาคที่ 2 นครราชสีมา ถูก “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ในช่วงเป็นหัวหน้า คสช. เรียกตัวมาทำงานในตำแหน่งรองผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.)
นอกจากนี้ พล.อ.บุญธรรม ยังได้รับการแต่งตั้งให้สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ช่วงการเลือกตั้งปี 2562 พล.อ.บุญธรรม ได้เข้าร่วมทีมเสนาธิการคุมการเลือกตั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ของพรรคพลังประชารัฐ
เมื่อไล่สาย 40 สว. แล้ว อาจจะเห็นเกมเบื้องลึก “อนุรักษนิยม” ที่แม้จะยอมกลืนเลือด เปิดดีลกับ “ทักษิณ” จากศัตรูสู่มิตร เพื่อขวางลำ “พรรคก้าวไกล” ซึ่งมีจุดยืนทางการเมืองเด่นชัดกว่า “เพื่อไทย” ยังไม่ไว้วางใจ “ทักษิณ-เพื่อไทย” แบบร้อยเปอร์เซ็นต์
เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีสัญญาณไฟเขียวให้ “ทักษิณ” เดินเกมการเมืองแบบสะดวกโยธิน แต่มีบางจังหวะก้าวที่เจ้าตัวเดินเลยธง-เดินเกินดีล อาทิ การลงพื้นที่จ.เชียงใหม่ทันทีที่ได้รับการพักโทษ การเปิดโต๊ะพูดคุยกับ “กลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา” เป็นต้น
ดังนั้นการเปิดเกมยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติ “เศรษฐา-พิชิต” จึงน่าจับตาว่ามี “บิ๊กเนม” เข้ามาเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด เพราะการบีบให้ “เศรษฐา” เข้าสู่เรดโซน ย่อมมีนัยสำคัญแฝงอยู่
มีกระแสข่าววงใน “บิ๊กอนุรักษนิยม” อาจจะต้องเปิดดีลกับ “ทักษิณ” รอบใหม่ อาจจะมีเงื่อนไขในดีลที่ชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะเงื่อนไขพา “ยิ่งลักษณ์” กลับบ้าน และปฏิบัติการหลายอย่างที่ไม่ควรจะเลยธง !!!
