'ทวี' เร่งแยกผู้ต้องขังคดีไม่จบ กว่า 5 หมื่นคน ติดอีเอ็มอยู่บ้านภายในปีนี้

'ทวี' เร่งแยกผู้ต้องขังคดีไม่จบ กว่า 5 หมื่นคน ติดอีเอ็มอยู่บ้านภายในปีนี้

"ทวี" เร่งแก้กฎกระทรวง แยกผู้ต้องขังคดียังไม่จบ-เด็ดขาด ติดกำไลอีเอ็มอยู่บ้าน แก้ล้นคุก พร้อมแก้เครื่องแต่งกาย ไม่แยกใส่สูท ชุดสีลูกวัว ลั่น หากศาลยังไม่ตัดสิน ควรได้ประกันตัว

เมื่อเวลา 08.55 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการแก้ไขกระบวนการต่างๆในการแก้ไขปัญหา เพื่อไม่ให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิตเหมือนเกิดกรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ว่า ในส่วนของกระบวนการยุติธรรม เมื่อวันที่ 27 พ.ค.ได้มีผู้ยื่นหนังสือมา ซึ่งในบทบาทของกระทรวงยุติธรรมจะต้องมีคณะทำงานไปดูในกระบวนการว่าส่วนไหนที่การปฎิบัติยังขัดกฏหมาย เรื่องใหญ่จริงๆที่เราพยายามจะแก้ไขอยู่คือ คดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาที่ศาลยังไม่ตัดสินให้ถึงที่สุดกับคดีที่ตัดสินเด็ดขาดแล้ว ต้องปฏิบัติไม่เหมือนกัน โดยจะแยกการดูแลในเรือนจำ ปัจจุบันสภาพในเรือนจำมีความแออัดมาก โดยขนาดของเรือนจำสามารถดูแลคนได้ประมาณ 180,000 คน แต่ปัจจุบันมีถึง 280,000 คน

และเป็นผู้ต้องขังที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีถึง 5 หมื่นกว่าคน ซึ่งขณะนี้เหมือนเราปฏิบัติขัดรัฐธรรมนูญ ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมที่กำลังดำเนินการอยู่คือ การเสนอเป็นกฎกระทรวง แก้มาตรา 89/1 คือ อยากให้ศาลเป็นผู้ไต่สวนว่าคดีที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอาจจะไม่ต้องส่งมาที่เรือนจำ โดยจะให้อยู่ที่บ้านหรือใส่กำไลอีเอ็ม ขณะนี้พยายามที่จะแยก คนที่ได้ประกันตัวเมื่อต้องไปขึ้นศาลจะใส่สูท แต่คนที่ไม่ได้ประกันตัวจะใส่ชุดสีลูกวัว ซึ่งจะทำให้เกิดข้อแตกต่างและเป็นมุมมอง ดังนั้น ควรจะให้แต่งกายเหมือนกัน ที่สำคัญเมื่อแยกแล้วอยากจะให้เขาได้มีโอกาสเตรียมคดีด้วย เพราะการสู้คดีหากอยู่ข้างนอกจะได้เปรียบในการที่จะหาทนายและหลักฐานต่างๆ ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่และทยอยทำ ปีนี้อยากจะทำให้เสร็จทั้งประเทศ โดยจะเริ่มในเรือนจำก่อน

เมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองขีดเส้นว่าจะต้องไม่มีผู้ต้องขังเสียชีวิตในเรือนจำอีก พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า การเสียชีวิตในเรือนจำสถิติมีเยอะ ซึ่งเกิดจากการเจ็บป่วย และเราไม่อยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะคดีที่ยังไม่มีการตัดสิน ตามหลักการควรได้รับการประกันตัว