รอยแค้น ‘บิ๊กบราเธอร์’ ‘บ้านป่า’ ไล่ล่า ‘บ้านจันทร์’

รอยแค้น ‘บิ๊กบราเธอร์’ ‘บ้านป่า’ ไล่ล่า ‘บ้านจันทร์’

รอยรักรอยแค้น ‘ทักษิณ’ เผชิญการเมืองลี้ลับ ‘ประวิตร’ บิ๊กบราเธอร์ยุค 3 ป.ฉวยจังหวะนายใหญ่ทรุด ปั่นกระแสลุงใจบันดาลแรง ฝันนายกฯส้มหล่น

สามก๊กการเมืองไทย ก๊กบ้านจันทร์ ติดบ่วงนิติสงคราม ก๊กอนุรักษนิยม ไม่ลงตัว ลุงตู่ลอยลมบน ลุงป้อมไม่วางมือ และก๊กบ้านสีส้ม มีอนาคตไกล

พลันที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ติดบ่วงคดีถอดถอนออกจากนายกฯ โดยการเดินเกมของกลุ่ม สว.คนหน้าเดิม ทักษิณ ชินวัตร จึงไปพูดที่โคราชว่า กำลังเผชิญหน้ากับ ‘การเมืองลี้ลับ’  

รอยแค้น ‘บิ๊กบราเธอร์’ ‘บ้านป่า’ ไล่ล่า ‘บ้านจันทร์’

หลังอัยการสูงสุดสั่งฟ้องทักษิณ คดี ม.112 แพทองธาร ชินวัตร ก็ออกมาชี้เป้าคดีนี้คือ ผลพวงรัฐประหาร 2557 อันเป็นฉากหนึ่งของการเมืองลี้ลับ

การเมืองไทยยุคหลังระบอบ 3 ป. ยังแบ่งได้เป็น 3 ก๊กคือ ก๊กอำนาจใหม่ โดยพรรคเพื่อไทย ตกที่นั่งลำบาก เศรษฐา-ทักษิณ ติดบ่วงการเมือง

ก๊กอำนาจเก่า สายลุงตู่ อยู่แบบเงียบๆ ผิดกับสายลุงป้อม ที่ยังเคลื่อนไหวใต้ดิน ผ่านเครือข่าย สว. และกลุ่มคนนอกสภา

ก๊กอำนาจใหม่ (ในอนาคต) กระแสความนิยมดีวันดีคืน แม้พรรคก้าวไกลเสี่ยงจะถูกยุบในเร็ววันนี้

นับแต่ปี 2548 ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย ต่อสู้กับการเมืองลี้ลับ หรือรัฐพันลึก มายาวนานเกือบ 20 ปี เจอรัฐประหาร 2 ครั้ง แต่อำนาจเก่าก็พ่ายแพ้ในสมรภูมิเลือกตั้ง

รอยแค้น ‘บิ๊กบราเธอร์’ ‘บ้านป่า’ ไล่ล่า ‘บ้านจันทร์’

เฉพาะการเลือกตั้งปี 2566 พรรคก้าวไกล กวาด สส.มาเกินเป้าหมาย สร้างปรากฏการณ์ส้มทั้งแผ่นดิน เขย่าขวัญกลุ่มอนุรักษนิยม 

ดังนั้น กลุ่มอนุรักษนิยมจึงเลือกประนีประนอมกับเครือข่ายทักษิณ เพื่อสกัดพรรคก้าวไกลไม่ให้เข้าสู่อำนาจ ทำให้เกิดรัฐบาลเศรษฐา

สว.สาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จึงพร้อมใจกันโหวตเลือกเศรษฐา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยการนำของ สว.หัวแถวเพื่อน ตท.12 

ขณะที่ สว.สาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีทั้งโหวตไม่เห็นชอบ ,งดออกเสียง และไม่อยู่ในที่ประชุม แม้แต่ตัวลุงป้อมเอง ก็ไม่เข้าร่วมประชุมโหวตนายกฯ

วันก่อน เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะพูดถึง พล.อ.ประวิตร ผ่านรายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก.ว่า ‘ผมไม่เคยคุย ผมไม่เคยรู้จักท่านมาก่อน’

เมื่อถูกถามว่า คิดจะไปคุยกับ พล.อ.ประวิตร บ้างหรือไม่ เศรษฐาตอบว่า ‘ไม่ได้อยู่ในตารางที่จะไปคุย แต่ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล พรรคพลังประชารัฐถือว่ามีตัวแทนแล้ว คือ ร.อ.ธรรมนัส กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ...ถ้าท่านให้ไปให้ผมไป ผมก็ไปหาท่าน’

รอยแค้น ‘บิ๊กบราเธอร์’ ‘บ้านป่า’ ไล่ล่า ‘บ้านจันทร์’

ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส และ พล.ต.อ.พัชรวาท ทำงานร่วมกับนายกฯเศรษฐาอย่างราบรื่น แต่บ้านจันทร์ส่องหล้ากับบ้านป่ารอยต่อฯ กลับมีระยะห่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ

ไม่น่าแปลกใจที่จะมีข่าวเรื่องลือหักดีลล้มดีลมาเป็นระยะๆ พร้อมกับกระแสลุงป้อมนายกฯส้มหล่น 

ปมความหลังฝังใจ

ทักษิณ ชินวัตร คงนึกไม่ถึงว่า รัฐประหาร 19 ก.ย.2549 และรัฐประหาร 22 พ.ค.2557 จะเปิดทางให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ได้ขึ้นมามีอำนาจ ในฐานะพี่ใหญ่ หรือ ‘บิ๊กบราเธอร์’ แห่งบูรพาพยัคฆ์

เนื่องจากทักษิณสมัยเป็นนายกฯ ได้แต่งตั้ง พล.อ.ประวิตร เป็น ผบ.ทบ. เมื่อปี 2547 และอยู่ในตำแหน่งแค่ 1 ปี ก็ถึงคิว พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน นายใหญ่จึงค่อนข้างจะไม่ให้ราคาลุงบ้านป่ามากนัก

ถ้ายังจำกันได้ 19 ก.ย.2561 ครบรอบ 12 ปี ยึดอำนาจรัฐบาลทักษิณ พล.อ.ประวิตร รองนายกฯ สมัยนั้น ให้สัมภาษณ์ว่า ‘แล้วบ้านเมืองมันยุ่งอยู่ นี่เพราะใคร’ 

ทักษิณจึงโพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ตอบโต้ พล.อ.ประวิตร ว่า ‘ท่าทีและน้ำเสียงขึงขังน่ากลัวจัง ไม่นุ่มนวลอ่อนหวาน เหมือนตอนมาเกาะโต๊ะขอเป็น ผบ.ทบ. เลย’

กลางปี 2564 ทักษิณพูดถึง พล.อ.ประวิตร อีกครั้งผ่านแคร์คลับเฮ้าส์ ประเด็นตั้งบิ๊กป้อมเป็น ผบ.ทบ.ว่า ‘เขามีกองเชียร์เยอะมาก..ผมไม่ค่อยรู้จักเขา ก็รู้ว่าเป็นพี่ชายรุ่นพี่ผมคือ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รู้จักกันดี ก็เลยตั้ง’ แถมหยอดทิ้งท้ายว่า ‘หากฝึกดูโหงวเฮ้งหน่อย วันนั้นก็คงไม่ตั้ง’

ลุงบ้านป่าอกหัก

ก่อนจะเกิดรัฐบาลดีลข้ามขั้ว มีกระแสข่าวมาตลอดเวลาว่า พล.อ.ประวิตรต้องการผนึกขั้ว 188 เสียง(พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย รวมไทยสร้างชาติ ชาติไทยพัฒนา) ให้เหนียวแน่น เพื่อลุ้นนายกฯส้มหล่น

สุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับดับฝันพี่ใหญ่ เมื่อไฟเขียวให้พรรครวมไทยสร้างชาติ ไปจับมือกับพรรคเพื่อไทย 

ภายหลังขั้ว 188 เสียง ถูกตีแตก ลุงบ้านป่าพยายามใช้กำลังภายในสกัดกั้นไม่ให้เพื่อไทยไปถึงฝั่งฝัน ฝากความหวังไว้กับเสียง สว. แต่ สว.สายลุงตู่ มีจำนวนมากกว่า เศรษฐาจึงได้เป็นนายกฯ

อีกด้านหนึ่ง ในพรรคพลังประชารัฐ พัชรวาท-ธรรมนัส ตัดสินใจแหกด่านลุงป้อมเปิดดีลกับเพื่อไทย ร่วมแถลงข่าว 11 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาลเพื่อไทย

นับจากนั้น พล.อ.ประวิตร ก็เก็บตัวเงียบไม่ไปประชุมสภาฯ จนมีข่าวลือว่า ลุงบ้านป่าถอดใจวางมือ ส่งไม้ต่อให้น้องชายดูแลพรรค พปชร.ต่อไป

ปั่นนายกฯส้มหล่น

ต้นปี 2567 พล.อ.ประวิตร กลับมาเปิดบ้านป่ารอยต่อฯอีกครั้ง พร้อมประกาศพลิกโฉมพรรค พปชร. เป็นพรรคอนุรักษนิยมทันสมัย 

จังหวะที่นายใหญ่เดินเกมพลาด ตั้งมือกฎหมาย พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีสำนักนายกฯ ทั้งที่มีประวัติด่างพร้อย เปิดช่องให้ สว.ตัวตึงขวาจัด เปิดเกมรุกเงียบยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ถอดถอนทั้งเศรษฐาและพิชิตออกจากตำแหน่ง

จริงๆแล้ว สารตั้งต้นของปฏิบัติการสอยเศรษฐา มาจากอดีต สว.ชื่อ ‘พ.’ คนวงในบ้านป่า ร่วมมือกับ สว.สายลุงป้อม เป็นตัวเปิดเกมล่าชื่อ สว.ให้ได้ 25 คนในยกแรก

ก่อนจะมีการลงชื่อเพิ่มเติมให้ครบ 40 คน ส่วนใหญ่เป็นสายอดีตข้าราชการพลเรือน ที่มีความคิดอนุรักษนิยม และยังหวาดระแวงทักษิณ ส่วน สว.สายทหาร-ตำรวจ มีน้อยกว่าที่คาดไว้

ว่ากันว่า ทีมงานบ้านป่ายังอ่านเกมข้ามช็อต กรณียุบพรรคก้าวไกล จะทำให้มี สส.สีส้ม ประมาณ 20 คน ตัดสินใจเลือกมาซบลุงบ้านป่า 

มีข้อน่าสังเกตว่า มีกระบวนปล่อยข่าว สส.สีส้ม ไปคารวะลุงบ้านป่าออกมาเป็นระยะๆ แม้แต่กรณี 40 สว.ยื่นสอยเศรษฐา ก็มีข่าว สส.เพื่อไทย และก้าวไกล จำนวนหนึ่งไปรวมตัวที่บ้านอัมพวัน สี่เสาเทเวศร์ สานฝันลุงป้อมเป็นนายกฯ

แสดงว่า ลุงบ้านป่ามิเคยหยุดเคลื่อนไหว ซึ่งในวันที่นายใหญ่เพลี่ยงพล้ำ มีชนักปักหลัง ยิ่งจะได้เห็นเกมรุกจากบ้านป่ามากขึ้น