วัดใจ‘เพื่อไทย’ นิรโทษ 112 เสี่ยง‘อนุรักษ์’จุดไฟยึดอำนาจ

วัดใจ‘เพื่อไทย’ นิรโทษ 112 เสี่ยง‘อนุรักษ์’จุดไฟยึดอำนาจ

ต้องวัดใจ“ทักษิณ” ว่าจะเลือกวางเกมทางการเมืองอย่างไร จะเลือกผูกดีลกับ “อนุรักษนิยม” จนอยู่รอดถึงฝั่ง หรือจะพลิกเกมสู้ ปลดแอกจาก “ผู้มีบารมีในเงามืด” แต่เสี่ยงโดนหลอก จนโดนรัฐประหารรอบ 3 ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวของ“ทักษิณ”

Key Point : 

  • "ทักษิณ ชินวัตร" มีเดิมพันครั้งใหม่ ภายหลังอัยการมีคำสั่งส่งฟ้องคดี ม. 112 เบื้องต้นต้องวัดใจว่า 18 มิ.ย. เขาจะเดินทางไปพบอัยการ เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาลหรือไม่
  • ในทางลับคอนข้างคอนเฟิร์มว่า "ทักษิณ" จะขอสู้คดี แต่ต้องจับตาว่าจะมีดีลเพิ่มเติมหรือไม่
  • ขณะเดียวกัน "ทักษิณ" มีไพ่ออกกฎหมายนิรโทษกรรม ที่อาจจะสามารถกกดปุ๋มให้ สส.เพื่อไทย ให้เคลื่อนตามเกมได้ แต่เดิมพันสูงลิบจนอาจจะเข้าทาง "อนุรักษนิยม"

สถานการณ์ของ “รัฐบาลเพื่อไทย” กลับมาอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง ปัจจัยภายใน ปัจจัยภายนอกรุมเร้า ทั้งที่อยู่ในอำนาจได้เพียง 10 เดือน และแม้จะยอมกลืนเลือดพลิกมาร่วมขั้วอนุรักษนิยมเพื่อ “นายใหญ่” แต่ความหวาดระแวงซึ่งกันและกันไม่ลดน้อยลงแม้แต่น้อย

ปม “กลุ่ม 40 สว.” ยื่นให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” วินิจฉัยคุณสมบัติรัฐมนตรีของ"เศรษฐา ทวีสิน" นายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งพิชิต ชื่นบาน ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องเอาไว้วินิจฉัย พร้อมให้ทำคำชี้แจงภายใน 15 วัน

โดย เศรษฐาได้รับคำปรึกษาชั้นครูจาก “วิษณุ เครืองาม” ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ทำคำชี้แจงเสร็จเรียบร้อย เพื่อแก้ต่างประเด็นที่แต่งตั้ง “พิชิต” โดยสุจริต ปฏิบัติการฉากหน้าเก็บงานเรียบร้อย เหลือตรวจเอกสารให้สมบูรณ์ก่อนส่งข้อชี้แจงทั้งหมด

เช่นเดียวกันปฏิบัติการฉากหลัง บรรดา “บิ๊กเนม” เดินเกมเจรจาทุกเครือข่าย แม้การปรากฏตัวของ “วิษณุ” จะส่งสัญญาณ “อนุรักษนิยม” ยังการันตีเก้าอี้นายกฯให้กับ “เศรษฐา” แต่เครือข่ายอนุรักษนิยมสาย “บ้านป่ารอยต่อ” ผู้อยู่หลังม่านเปิดเกมมาแล้ว คงไม่ยอมให้เสียของ

ภารกิจดัน “นาย"บ้านป่ารอยต่อนั่งเก้าอี้นายกฯเป็นฝันอันยิ่งใหญ่ แม้ฝั่ง “ชินวัตร-เศรษฐา-เพื่อไทย” จะได้รับสัญญาณว่า ให้เดินเกมต่อ ไม่มีการจบดีล-เปลี่ยนดีล แต่ก็ไม่ประมาทอิทธิฤทธิ์ของ “เครือข่ายบ้านป่ารอยต่อ”

ดังนั้นจึงต้องจับตาว่า ศึกระหว่าง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” วัดกำลังกับ “บ้านป่ารอยต่อ”รอบนี้จะจบลงอย่างไร “ผู้ชนะ”จะไล่เช็กบิล “ผู้แพ้” ภายหลังหรือไม่ เพราะต้องไม่ลืมว่าทั้งสองบ้าน มีหนี้บุญคุณเก่าให้ชดใช้กันอยู่

อีกปมชี้ชะตา “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หนีไม่พ้นกรณีที่ “อัยการสูงสุด” มีคำสั่งฟ้องฐานความผิดอาญา มาตรา112 โดยให้มารายงานตัวต่ออัยการ ก่อนนำตัวส่งฟ้องศาลในวันที่ 18 มิ.ย.

เที่ยวนี้ “ทักษิณ” ต้องวัดดวง และวัดใจ “ซูเปอร์ดีล” อีกคำรบ เพราะในวันที่ 18 มิ.ย. หากศาลไม่ให้ประกันตัว มีโอกาสที่เขาจะต้องย่างก้าวเข้าเรือนจำ แม้ระยะหลังคดี ม. 112 ศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหาเกือบทุกราย

ทว่าในกรณีของ“ทักษิณ” มีการวิเคราะห์ว่า อาจจะสุ่มเสี่ยงพอสมควร เนื่องจากคดีดังกล่าว“อัยการสูงสุด”เคยมีคำสั่งฟ้องไปแล้ว แต่“ทักษิณ”หนีคดีอยู่ต่างประเทศจึงไม่สามารถตามตัวมาสั่งฟ้องได้ อาจเข้าข่ายเกรงว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศ

มีกระแสข่าววงในค่อนข้างคอนเฟิร์มว่า มีโอกาสสูงที่ “ทักษิณ”จะไปตามนัดหมายของอัยการ เพื่อนำตัวส่งฟ้องศาล ก่อนจะขอประกันตัวออกมาต่อสู้คดี ซึ่งใช้ระยะเวลานานพอสมควร

อย่างไรก็ตาม “ทักษิณ” ยังมีไพ่นิรโทษกรรมถืออยู่ในมือ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัติ นิรโทษกรรม สภาผู้แทนราษฎร ที่มี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน

โดยมีข้อเสนอของคณะอนุกรรมาธิการ พิจารณาศึกษาข้อมูลและสถิติคดีความผิดอันเนื่องมาจากแรงจูงใจทางการเมือง 25 ฐานความผิด อาทิ ความผิดตาม ม.110 ม.112 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ ความผิดเกี่ยวกับก่อการร้าย ความผิดต่อชีวิต รวมอยู่ด้วย

ทว่า ยังไม่มีความชัดเจนจาก “กมธ.นิรโทษกรรม” ว่าจะบรรจุความผิดอาญา ม.112 ไปในร่างกฎหมายนิรโทษกรรมหรือไม่ โดยที่ผ่านมามีเพียงแต่ กมธ. สัดส่วนของพรรคก้าวไกลเท่านั้นที่แสดงเจตจำนงว่าต้องการบรรจุ ม. 112 เข้าไปด้วย

เมื่อ “ทักษิณ” ถูกลากเข้ามาอยู่ในฐานะ “ผู้ต้องหา” คดีม. 112 จึงต้องวัดใจว่าจะกดปุ่มให้ กมธ.สัดส่วนของพรรคเพื่อไทย เดินหน้าสนับสนุนนิรโทษกรรม ม. 112 หรือไม่ 

หาก“นายใหญ่”สั่งลุย มีโอกาสที่จะโหวตชนะในชั้น กมธ. และในชั้นวาระสอง วาระสาม

เนื่องจากเสียงโหวตในสภาฯ เพื่อไทย 141 เสียง ก้าวไกล 151 เสียง รวม 292 เสียง ผ่านร่างกฎหมายได้ไม่มีปัญหาจำนวนเสียง แต่รัฐบาลเศรษฐา และครอบครัวชินวัตร จะมีความสุ่มเสี่ยง เพราะปลุกกระแสคืนชีพ “อนุรักษนิยม” ให้ออกมาต่อต้านทันที

เช่นเดียวกับ สส. เพื่อไทย หากยอมลุยไฟสู้เพื่อ “นาย” อาจจะส่งผลกระทบต่อตัวเอง เนื่องจากจะโดน “ขั้วตรงข้าม” ยื่น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ฟันซ้ำอย่างแน่นอน จึงมีกระแสข่าวออกมว่า “สส. เพื่อไทย” ไม่เห็นด้วย หากต้องบรรจุคดี ม. 112 เอาไว้ในกฎหมายนิรโทษกรรม

จากนี้ไปจึงต้องวัดใจ“ทักษิณ” ว่าจะเลือกวางเกมทางการเมืองอย่างไร จะเลือกผูกดีลกับ “อนุรักษนิยม” จนอยู่รอดถึงฝั่ง หรือจะพลิกเกมสู้ ปลดแอกจาก “ผู้มีบารมีในเงามืด” แต่เสี่ยงโดนหลอก จนโดนรัฐประหารรอบ 3 ซึ่งทั้งหมดอยู่ที่ตัวของ“ทักษิณ”