‘แม่ทัพชินวัตร’ ออกโรง สางปมดีลลับ ‘ทักษิณ - เศรษฐา’
4 ประเด็นเกี่ยวพันกับนายกฯ คนปัจจุบัน อดีตนายกฯ กับอีกหนึ่งพรรคการเมือง และปมร้อนนิรโทษ ม.112 แน่นอนว่า หลายฝ่ายฟันธง ต้องโยงกับ“ดีลลับ” จัดตั้งรัฐบาล
KEY
POINTS
- จับตาการนัดรวมตัวคนตระกูลชินวัตร ก่อนเหตุการณ์สำคัญจะเกิดขึ้น
- เพื่อไทยแอบจับมือกับพรรคก้าวไกล หาที่พักพิง สส.ก้าวไกล หากถูกยุบพรรค และช่วยกันเข็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
- มีเพียงหนึ่งคนที่จะรอดไม่นายกฯ คนปัจจุบันก็อดีตนายกฯ
วันศุกร์ ที่ 7 มิ.ย.67 นี้ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี มีนัดพบปะคนในครอบครัวเป็นการภายในที่บ้านพักจันทร์ส่องหล้าพร้อมหน้า โดย "คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์" อดีตภรรยา จะเดินทางมาร่วมด้วย
แม้ปัจจุบันคุณหญิงพจมาน จะหย่าขาดในทางกฎหมาย แต่ในทางพฤตินัย ทักษิณให้เกียรติ และรับฟังความคิดเห็นในทุกเรื่อง อีกทั้งยังเป็นบุคคลสำคัญของพรรคเพื่อไทย
อาจพูดได้ว่า เป็นเพราะประกาศิต “คุณหญิงพจมาน” ทำให้ “เศรษฐา ทวีสิน” ได้เป็น “นายกฯ” จนถึงทุกวันนี้ เพราะเชื่อว่ามีความพร้อมมากกว่า “แพทองธาร ชินวัตร” บุตรสาวคนเล็ก ที่หวังให้เข้ามาบริหารประเทศพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ซึ่งอยู่ในห้วงซบเซาให้ประชาชนอยู่ดีกินดี
การนัดมารวมตัวกันของคนในตระกูลชินวัตร ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองที่กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ก่อนเหตุการณ์สำคัญจะเกิดขึ้น ย่อมถูกจับตา
แน่นอนว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” แม้จะเดินทางมาไม่ได้ แต่คาดหมายว่า จะมีการวิดีโอคอลร่วมพูดคุย
ตัดกลับมาที่ จังหวะคดีร้อนในเดือนมิ.ย. เริ่มด้วยคดียุบพรรคก้าวไกล โดยศาลรัฐธรรมนูญนัดพิจารณาคดี ปมล้มล้างการปกครอง 12 มิ.ย.นี้ หลังจากรับคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาไปเมื่อ 4 เม.ย.67
กระบวนการจากนั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ จะให้ไต่สวนหรือเรียกพยานมาเพิ่มเติม ก็อาจยืดเวลาอีกระยะ แต่หากเห็นว่าข้อเท็จจริงเพียงพอแล้ว นัดวินิจฉัยได้ทันที
ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า คนการเมืองฟันธงแล้วว่า “ก้าวไกล” ไม่รอดแน่ จึงได้เกิดปรากฏการณ์ หลายพรรคการเมืองพยายามดึงตัว สส.ก้าวไกลไปอยู่ร่วมชายคา เพราะหากสถานการณ์พลิกจำนวน สส.ที่อยู่ในมือ ยิ่งมากเท่าไรย่อมสามารถสร้างแต้มต่อทางการเมืองได้เท่านั้น
ส่วนคดี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ถูก 40 สว.ยื่นถอดถอนปมแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ อยู่ระหว่างจัดทำคำชี้แจง เตรียมยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญวันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.67 นี้
ตามมาติดๆ ด้วยคดีอาญามาตรา 112 อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ที่อัยการนัดนำส่งตัวฟ้องต่อศาล วันที่ 18 มิ.ย.67 หลังจากเมื่อวันที่ 29 พ.ค.67 ทักษิณไม่ได้ปรากฏตัวที่สำนักงานอัยการสูงสุด ตามนัดหมายของสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 ให้ไปรับฟังคำสั่งคดี โดยอ้างป่วยโควิด-19
ประจวบเหมาะกับสถานการณ์ร้อน เรื่องการผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมที่อยู่ในชั้นการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ ที่มี “ชูศักดิ์ ศิรินิล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธาน ได้เตรียมเสนอผลศึกษาต่อสภาฯ ในช่วงเปิดสมัยประชุมในเดือนก.ค.นี้
ทำให้ถูกจับจ้องว่า “นิรโทษกรรม” จะรวมคดี มาตรา112 ด้วยหรือไม่ เมื่อมีตัวละครสำคัญอย่าง “ทักษิณ” รวมอยู่ด้วย แม้ฝ่ายการเมืองยังมีความเห็นต่าง ส่วนกองทัพไม่ต้องพูดถึง ไม่เห็นด้วยแน่นอน
4 ประเด็นซึ่งเกี่ยวพันกับนายกฯ คนปัจจุบัน อดีตนายกฯ กับอีกหนึ่งพรรคการเมือง และปมร้อนนิรโทษ มาตรา112 อย่างไร แน่นอนว่า หลายฝ่ายฟันธง ต้องโยงกับ “ดีลลับ” จัดตั้งรัฐบาล อย่างเลี่ยงไม่ได้
เรื่องนี้พูดตรงกัน ทั้งแวดวงคนการเมือง และคนนอกกองทัพ หลังพบว่าพรรคเพื่อไทยแอบจับมือกับพรรคก้าวไกลแบบลับๆ หาที่พักพิง สส.ก้าวไกล หากถูกยุบพรรค และร่วมด้วยช่วยกันเข็น พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
จนถึงขั้นพูดกันว่า เพื่อไทยถูกยื่นเงื่อนไขให้เลือกระหว่างนายกฯ คนปัจจุบันกับอดีตนายกฯ มีเพียงคนใดคนหนึ่งเท่านั้นที่จะรอด
จึงนำไปสู่กระแสข่าวการเปลี่ยนตัวนายกฯ พร้อมพุ่งเป้าไปที่ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรค DNA ลุงตู่ ส่วนพรรคเพื่อไทยเสนอ “ชัยเกษม นิติสิริ”
ทว่า “ดีลลับ” รอบนี้ ยังไม่ตกผลึก ต้องเจรจาต่อรองกันอีกยก เพราะต้องไม่ลืมว่า พรรคเพื่อไทยดึง “วิษณุ เครืองาม” มาเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี หวังเป็นมือประสานสิบทิศในส่วนที่เข้าไม่ถึง
การปรากฏตัว “คุณหญิงพจมาน” บ้านจันทร์ส่องหล้า ในช่วงรัฐบาลเพื่อไทยกำลังระส่ำกับมรสุมลูกใหญ่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอยู่หรือไปของ “ทักษิณ-เศรษฐา” ย่อมมองเป็นอื่นไม่ได้ นอกจากหาทางออกที่รอมชอมที่สุด
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์