ล้วงลึก สว.ตัวตึง 'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ' วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?

ล้วงลึก สว.ตัวตึง 'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ'  วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?

ล้วงลึกตัวตน สว.ตัวตึง "กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" เข้าสู่นิติบัญญัติหลังการรัฐประหารเมื่อปี 2557 ในตำแหน่ง สนช.ต่อด้วย สว. รวมอยู่ยาวในรัฐสภา 10 ปี พร้อมวิเคราะห์ถึงเกมของ 40 สว.จะเป็นการเคลื่อนไหวแผนซ้อนแผนเพื่อให้ 2 ลุงกลับมามีอำนาจหรือไม่

KEY

POINTS

  • "กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" สว.ชุด 250 คน อยู่ในรัฐสภามา 10 ปี นับแต่รัฐประหารปี 2557 เคยผ่านตำแหน่ง สนช. ไม่ปฏิเสธว่าตัวเองมีที่มาจากการรัฐประหาร
  • สว.ตัวตึง เป็นมือประท้วงของวุฒิสภา เคยปะทะคารมกับพรรคเพื่อไทยด้วยวลี "สส.ขี้ข้าโจร" ก่อนถูกโต้กลับด้วยวาทะ  "เลียรองเท้าทหาร"
  • เคยผ่านเวทีมวยไทยสมัยวัยรุ่น ในฉายา "ฉลามขาว ศิษย์พงษ์ชัย"
  • เป็นหัวหอก สว.ประกาศผ่านสื่อขวางไม่ให้ "เพื่อไทย" ตั้งรัฐบาลร่วมกับ "พรรคก้าวไกล"
  • ฟันธง "พรรคก้าวไกล" เป็นรัฐบาลและนายกฯ ลำบากแล้ว เพราะถูกประทับบาปเรื่องสถาบัน
  • ฝากถึง สว.200 คน ทำหน้าที่ยึด ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
  • เกม 40 สว.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความสถานะ "เศรษฐา ทวีสิน" ไม่มีผลทำให้ "ประยุทธ์ จันทร์โอชา" กลับมาเป็นนายกฯ ได้อีก
  • เชื่อลุงบ้านป่า "ประวิตร วงษ์สุวรรณ" จะยังผจญวิบากกรรมในทางการเมืองต่อไป
     

“ตลอดชีวิต ตรงไปตรงมา ซื่อสัตย์ ทั้งที่อยู่ในตำแหน่งซึ่งทุจริตได้เยอะได้มาก แต่ไม่ประสงค์ เพราะเราได้เห็นแล้วว่า ชีวิตเกิดมาตายแล้วเอาไปไม่ได้ ไม่ต้องไปสะสมเยอะ ตอนนี้เป็นมา 10 ปีไปดูเงินในบัญชีมีไม่กี่หมื่นบาท บ้านมีแล้ว รถมีแล้ว เงินมีบ้างนิดหน่อย ไม่มีหนี้สิน วางแผนชีวิตไว้แล้ว ถ้าหากผมหมดวาระไปแล้ว ก็อยู่อย่างสมถะเหมือนเดิม”

"กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ" สมาชิกวุฒิสภา (สว.) วัย 68 ปี เกิด จ.กำแพงเพชร เติบโตที่ จ.พิจิตร มีผลงานในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวจังหวัดพิจิตร จับโรงสี ทุจริตเงินจำนำข้าวกว่า 100 ล้านบาท

"สว.ตัวตึง" เปิดใจกับ "กรุงเทพธุรกิจ" หลังหมดบทบาทสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตั้งแต่ปี 2557 และนับถอยหลังหมดวาระ สว.ในปี 2567 รวมแล้วอยู่ยาวในรัฐสภามา 10 ปี

ถามว่า  ทำไมปี 2562  สว.โหวตเห็นชอบให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเสียงเอกฉันท์ "กิตติศักดิ์" บอกว่า "ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับ คุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ขณะนั้น มันไม่ต้องไปล็อบบี้ ไม่ต้องไปสั่งใครเลย เพราะร้อยทั้งร้อยก็เลือก พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อพิจารณาตัวต่อตัว ปอนด์ต่อปอนด์แล้ว คุณธนาธร ไม่มีอะไรที่จะเทียบสู้ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งทำประโยชน์ให้กับบ้านเมืองมาตลอดชีวิตได้"

"กิตติศักดิ์" พูดถึงผลงานของ สว. 250 คนที่น่าจดจำและผลงานของตัวเองว่า "จะถูกใจใครหรือไม่ถูกใจใครก็ตาม สว.ปฏิบัติหน้าที่ซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา ไม่ว่าจะเป็นการพิจารณากฎหมายหรือแต่งตั้งบุคคล องค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้พิจารณาเล่นพรรคเล่นพวก หรือมีการแลกผลประโยชน์ใดๆ”

แลกคนละหมัด ปะทะฝีปากฝ่ายค้าน

ครั้งหนึ่ง "กิตติศักดิ์" เคยลุกประท้วงอย่างดุเดือด ระหว่างที่ "ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร" สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยในขณะนั้นกำลังอภิปรายโจมตีรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ระหว่างแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเพื่อเข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน เมื่อปี 2562

"ผมใส่เสื้อเหลือง ยืนชี้หน้า (ยุทธพงศ์ จรัสเสถียร)  ผมบอกว่าเป็นขี้ข้าโจร ดังนั้น ไม่มีทางอื่น ท่านประธานต้องให้ผมถอน แต่วันนั้นสื่อจะเห็นว่า ผมบอกว่า พวกคุณเป็นขี้ข้าโจร เสร็จแล้ว ผมไม่รอประธานสั่งผม ผมเดินออกจากห้องประชุุมโดยที่ไม่ถอน นั่นคือเราปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสภา ไม่ต้องรอให้ประธานเชิญออกนอกห้อง"

เมื่อถูกตอบโต้กลับว่า เป็น สว.ที่เลียท็อปบู้ตทหาร “กิตติศักดิ์”บอกว่า “เราถือว่าแลกกันคนละหมัดนะ ผมเป็นนักมวยเก่านักกีฬาเก่า เพราะฉะนั้น การชกบนเวทีจะแพ้หรือชนะ ลงเวที จบแล้วก็คือจบ เราก็ว่าเขา ส่วนเขาก็กล่าวหาเรา ผมถือว่าก็จบกันไป”

"ผมเดินไปครึ่งทาง สื่อยังถามผมเลยว่า ถ้าผมไปถึงตัวเขา ผมก็เสียหาย เกเร แตะเนื้อต้องตัว  ไปทำร้ายเขา แต่ว่า ผมไปยืนอยู่เส้นกลาง ผมก็ท้ามา น้องๆ สื่อก็ถามว่า  ถ้าเกิดว่า เขาท่านนั้นเดินมาที่ท่านจะทำยังไง ผมก็บอกว่าต่อยสิครับ นี่คือผม"

"กิตติศักดิ์" ยืนยันว่า "แต่ผมจะไม่ขาดสติ ไปถึงเนื้อถึงตัวไปชก ไปต่อย ไม่ใช่ นั่นคือ ประสบการณ์ในเวทีการเมืองเรา แต่ถ้ามาเจอกลางเวทีได้หมดครับ"

"ผมเป็นคนอย่างนี้แล้วก็เรียนตรงๆ ไม่ค่อยมีใครสั่งการผมได้ ผมเห็นว่า อันไหนที่ถูกต้อง ผมก็สนับสนุน แต่อันไหนที่ไม่ชอบ หรือว่าเป็นการเล่นนอกเกม อันนี้ ผมเองก็ ปะ ฉะ ดะ นี่คือนิสัย ผมอย่างนี้ตลอดมา ดังนั้นในสภา ผมจะพิจารณาตัวเองตลอดว่า สิ่งที่เราแสดงออก แสดงอยู่ในกรอบระเบียบข้อบังคับของสภาทั้งสองสภาที่ผ่านมาด้วย"

ปัดมีใบสั่งกดปุ่มลุกประท้วงกลางรัฐสภา

ถามว่า ไม่มีใครมาบอกกดปุ่มสั่งให้ประท้วงเลย "กิตติศักดิ์" ยืนยันว่า "ไม่มีแน่นอน โดยเฉพาะ ท่าน พล.อ.ประยุทธ์  ให้เกียรติสมาชิกทุกท่านไม่มีจะสั่งทำโน่นทำนี่ เพียงแต่ว่าเรา เหมือนนักมวยขึ้นเวทีแล้ว เราก็ชกอย่างเต็มที่ อะไรไม่ถูกไม่ต้อง เราก็ว่าไปตามข้อเท็จจริง ส่วนจะผิดจะถูก จะแพ้จะชนะก็จบกันไป โดยเฉพาะในเกมที่ผมเองเป็นหลักนำร่อง ไม่เอา คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ไม่เอาพรรคก้าวไกล แล้วไม่มีใครมาสั่งผม"

จากนั้น "กิตติศักดิ์" ได้แสดงท่าประท้วงโดยยกมือขึ้นเหนือศีรษะแสดงสัญลักษณ์ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา พร้อมทั้งชูมือลุกยืนขึ้นก่อนบอกว่า "ถ้าประท้วงอย่างรุนแรง ประท้วงท่านประธานด้วยเนี่ย ต้องลุกขึ้นยืน ประท้วงอย่างแรงนะ"

"ถ้าสมมติว่าประท้วงผู้อภิปรายเนี่ย พาดพิงหรืออะไรก็ตาม เราก็ยกมือธรรมดา แต่ถ้าประท้วงขั้นรุนแรงต้องยืนครับ ดังนั้นกว่าจะเป็น ตัวตึงได้ต้องศึกษาข้อบังคับให้ ข้อบังคับจะมีของ สส. ข้อบังคับของ สว.และข้อบังคับของรัฐสภา คือการประชุมร่วมกัน ใครอยากจะเป็นตัวตึงต้องศึกษาข้อบังคับให้ดี มิเช่นนั้นแล้วจะขายหน้า"

กิตติศักดิ์

ชกมวยไทย ฉายา "ฉลามขาว ศิษย์พงษ์ชัย"

น้อยคนนักจะรู้ว่า "กิตติศักดิ์" เคยผ่านเวทีชกมวยไทยในวัยเด็กในช่วงวัย 14-15 ปี โดยจุดเปลี่ยนทำให้เขาเลิกชกมวยไทย เพราะเจ้าของค่ายได้ถูกยิงเสียชีวิต

"ฉลามขาว ศิษย์พงษ์ชัย" คือฉายาของ สว.กิตติศักดิ์ ตัวตึงแห่งรัฐสภาไทย ซึ่งเดินสายต่อยมวยโซนภาคเหนือตอนล่าง

"บ้านผมมีลูกผู้ชาย 3 คน  เป็นนักมวยหมด 3 พี่้น้องจะซ่ากันแถวภาคเหนือตอนล่าง ต่อยมวยไทยเป็นหลัก มีผมแฉลบไปมวยสากลด้วย ก็ 3 พี่น้อง 3 หนุ่มด้วยกัน ใครชกก็ขึ้นไปเป็นพี่เลี้ยง 3 พี่น้องครับ"

ถามว่า ทำไมถึงชื่อฉลามขาว "กิตติศักดิ์" บอกว่า "ผมตั้งเอง เพราะว่าเมื่อเด็กๆ ผมเขาเรียกว่าไอ้เผือก ตัวจะขาวมาก เรียกว่าไอ้เผือกๆ ด้วยซ้ำไป เรามีเป็นนักมวย หมัดค่อนข้างหนัก มวยบุกก็ฉลามดีกว่า ตัวเราก็ขาว"

"ก็ใจสู้นะ เกือบทุกครั้งตัวเล็กกว่าเขา ผมนี่ 47-48 กิโลฯ เองสมัยนั้น ประสบการณ์ผ่านการชกมา 20 เวทีบวกลบ"

"นักการเมืองรุ่นเก่าๆ ท่านสมัคร สุนทรเวช นักการเมืองเก่าๆ เขาจบกันแล้วก็จบกันไป ในสภาเอาเป็นเอาตาย แต่เมื่อถกเถียงกันแล้วก็จบกันไป แต่ กิตติศักดิ์ จบก็จบกันไปแต่ว่าไม่เอากับคนโกง ไม่เอากับคนไม่หวังดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"

ถามว่า ชนะกับแพ้อันไหนมากกว่า “กิตติศักดิ์” ภูมิใจว่า “ชนะมากกว่า”

“การเมืองอยากให้เอากีฬามาใช้กับการเมืองอย่างไรบ้าง เช่น การที่จะต่อยมวยไทย จะใช้กติกามวยไทย การมาเล่นการเมืองก็ต้องเคารพกฎกติกา ก็คือ รัฐธรรมนูญ ดังนั้น คุณเข้ามาไม่มีใครบังคับคุณจะเล่นการเมือง บอกรัฐธรรมนูญโน้นไม่ดีอย่างนี้ อย่ามาเล่นเลย”

ถามว่า ในใจเคยรู้สึกเคืองใครในสภาหรือไม่ "กิตติศักดิ์" ระบุว่า "กิตติศักดิ์ เป็นนักกีฬาอย่างที่บอก ไม่เคยเคียดแค้นใคร ขนาดผมโดนหนักมาก ตัวตึงหนักมาก โดนขู่ฆ่า โดนจะทำร้ายทั้งครอบครัว ผมไม่เคยฟ้องใครแม้แต่คดีเดียว แต่จบแล้ว นี่คือกิตติศักดิ์ ตัวจริง"

ล้วงลึก สว.ตัวตึง \'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ\'  วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?

ขวางลำ "เพื่อไทย-ก้าวไกล" ตั้งรัฐบาล

ภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 2566 จบลง "กิตติศักดิ์" ออกตัวว่าเขาเป็นหัวหอก สว.แถวหน้าประกาศผ่านสื่อขวาง "พรรคเพื่อไทย" ไม่ให้จับมือกับ "พรรคก้าวไกล" จัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน

"ถ้าเพื่อไทย ยังมัดรวมข้าวต้มอยู่กับก้าวไกล ไม่ฉีกออกมา แม้จะมีเสียงข้างมากก็ตาม ท่านจะต้องจะเป็นฝ่ายค้านทั้งคู่ ในขณะนั้นจะมีการตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยขึ้นมาแข่ง แล้วยังมีเสียงด้วยว่าจะเกิดงูเห่าเยอะแยะมากมาย ทำให้พรรคเพื่อไทยและก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านเสียงข้างน้อยเหมือนเดิม ในที่สุดพรรคเพื่อไทยก็ฉีกเอ็มโอยูที่เขาจะเรียกว่า ตระบัดสัตย์ อะไรก็ตามนะครับ"

"ผมไม่เคยคัดค้านเลยว่าจะเป็น อุ๊งอิ๊งค์ (แพทองธาร ชินวัตร  หัวหน้าพรรคเพื่อไทย) จะเป็นเศรษฐา เมื่อผม ไม่ใช่คนเกเร เมื่อผมบอกแล้วว่าถ้าแยกออกมาจากก้าวไกล  คุณจะตั้งใคร ผมจะให้ทำงานไปก่อน แม้ว่าผมจะไม่ชอบพิธา และคุณเศรษฐา แต่ถ้าไม่เอาอะไรเลย บ้านเมืองเดินไปไม่ได้ มันถึงทางตัน เราต้องเอาบ้านเมืองเป็นตัวตั้ง"

ถามว่า คิดว่าพรรคก้าวไกลจะตั้งรัฐบาลได้ควรจะต้องปฏิบัติหรือทำอุดมการณ์พรรคอย่างไรถึงจะยอมรับให้เป็นนายกฯ และตั้งรัฐบาลได้ "กิตติศักดิ์" บอกว่า "พรรคก้าวไกลถูกประทับตราในการล้มเจ้าแล้ว ผมไม่ได้กล่าวหานะ แต่ว่าสังคมได้ตราบาปคุณไว้แล้วว่า คุณน่าจะเป็นรัฐบาลแล้วตัวแทนพรรคคุณเป็นนายกฯ ทั้งปัจจุบันและอนาคต ลำบากมากๆ"

"ก้าวไกลเกลียดผมก็มี เคารพนับถือผมก็เยอะนะ เพราะฉะนั้น ผมเรียนว่าตราบใดคุณยังมีพิมพ์เขียวในการ มีปฏิปักษ์ต่อสถาบันต่างๆ ผมเห็นว่าไม่เอาก้าวไกล ไม่เอาพิธา เพราะ หนึ่ง เรื่องความมั่นคง"

ล้วงลึก สว.ตัวตึง \'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ\'  วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?

แม้ปัจจุบัน สว.ชุด 250 คน จะหมดวาระไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. 2567 แต่รัฐธรรมนูญให้อำนาจในการอยู่เพื่อปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอการเลือก สว.ชุดใหม่ 200 คน ซึ่ง "กิตติศักดิ์"  ยังหวังว่า กกต.จะรับรอง สว.ชุดใหม่ให้ครบ  200 คน แบบ100%

"ขาดไป 1 คนไม่ได้ อย่าง สส.ขาด 5%  ยังได้ แต่ สว.ต้อง 200 คน 100% ฉะนั้นก็เอาใจช่วยให้ได้ละกันนะ เมื่อ กกต.รับรอง สว.ใหม่ 200 คนเมื่อไร  ผมก็กลับบ้านไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย"

สว.250 คนไร้อำนาจโหวตนายกฯ ฝาก สว.ใหม่

เวลานี้ สว. 250 คนอยู่เพียงปฏิบัติหน้าที่ยกเว้นบทเฉพาะกาล "กิตติศักดิ์" ย้ำว่า ไม่ต้องห่วงว่าใครจะตั้งนายกฯ ใครจะเลือกอย่างไร สว.ไม่มีสิทธิโหวตนายกฯ ตามมาตรา 272 แล้ว อำนาจเหมือนเดิม แต่ไม่มีอำนาจตามบทเฉพาะกาล"

ขณะเดียวกัน "กิตติศักดิ์" ฝากไปถึง สว.ชุดใหม่ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการเลือก คือ ขอให้รักเทิดทูน ชาติ  ศาสน์ กษัตริย์ ไว้เหนือสิ่งอื่นใด

ถามถึง ทำไม สว. 250 คนมักถูกตั้งฉายาอยู่เสมอว่า เป็นวุฒิสภาที่มีภาพของ 2 ป.อยู่ฉากหลัง "กิตติศักดิ์" ไม่ปฏิเสธที่ สว.ชุดนี้จะถูกประทับตราว่ามีรากเหง้าจาก 2 ป.

"เราเกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่เรา แม่เรายากจน เป็นขอทาน เราก็ต้องเคารพพ่อแม่ เราปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจาก คสช. เพราะฉะนั้น ไม่มีประโยชน์ ไม่มีเหตุผลที่จะแก้เนื้อแก้ตัว ว่าผมมาจากประชาชนนะครับ แต่เมื่อเรามาจากการรัฐประหาร เราทำหน้าที่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ เกิดความไม่สงบในประเทศ และปฏิบัติหน้าที่เป็นหนึ่งใน 3 เสาหลักประเทศ อย่างน้อยก็มีส่วนดูแลบ้านเมืองพัฒนาบ้านเมืองมา"

ล้วงลึก สว.ตัวตึง \'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ\'  วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?

"ประยุทธ์" ไม่หวนคืนนายกฯ - "ประวิตร" ยังมีวิบากกรรม

ส่วนการเดินเกมของ 40 สว.ในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยสถานะความเป็นรัฐมนตรีของ “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีนั้น “กิตติศักดิ์” ระบุว่าการยื่นของ40 สว.นั้นทำตามรัฐธรรมนูญ ไม่มีผิดและไม่มีถูก แต่จะต้องดูผลที่จะกลับมาด้วยโดยเฉพาะกระแสสังคมที่จะต้องรับไป ถ้ามีข้อสรรเสริญมีความดีก็รับไป แต่ถ้ามีเสียงติฉินทางลบก็รับไป

ถามว่า กระแสมาทำนองเป็นแผนของลุงหรือไม่เดินเกมสอยนายกฯ “กิตติศักดิ์” ระบุว่า ตนเองเจอ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่องานสโมสรสันนิบาต ครั้งล่าสุด 

”ผมได้คุยกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในระยะสั้นๆ  พล.อ.ประยุทธ์ คงไม่กลับมาอีกแล้วในตำแหน่งนายกฯ เพราะท่านไปได้สวยในจังหวะเวลา อีกทั้งเป็นองคมนตรีก็น่าจะเหมาะสมแล้ว“

“ส่วนลุงป้อม (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ) ท่านคงผจญวิบากกรรมต่อไป เพราะท่านอยู่ในการเมืองก็พร้อมที่จะบาดเจ็บหรือสะบักสะบอมไปได้อีก ดังนั้น 40 สว.ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญแล้วอ้างว่าเป็นเป้าหมายให้ลุงตู่กลับมา ผมไม่เห็นด้วยตรงนี้ ในใจเชื่อว่าท่านไม่กลับมาแล้ว"

ถามว่าเป็นการสมคบคิดของ สว.เพื่อให้นายกฯ เศรษฐาพ้นตำแหน่งแล้วเดินเกมให้มีการโหวตนายกฯ อีกรอบหรือไม่ “กิตติศักดิ์” มองว่า สว.ยุติอำนาจตามบทเฉพาะกาลแล้ว สว.โหวตเลือกนายกฯ ไม่ได้แล้ว จะทำไปเพื่ออะไร แต่ สว.เป็นนักกฎหมายหลายท่าน ทำให้กระแสสังคมมองว่าตั้งคนที่มีตำหนิ จึงต้องเสนอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาความผิดและถูกตรงนี้ก่อนหรือไม่ ตนเห็นว่ากระทำได้ แต่สังคมจะมองอย่างไรก็แล้วแต่

ถามว่าพ้นจากรัฐสภาไปแล้วจะทิ้งการเมืองหรือไม่ "กิตติศักดิ์์" บอกว่า ให้อนาคตเป็นคำตอบ  แต่ไม่ทิ้งการเมืองแน่นอน ส่วน สว.สบายใจได้เลย เป็นไม่ได้แล้วทั้งชาตินี้ ส่วน สส.ถ้าผู้ใดจะประสงค์ลงสนาม สส.ต้องเว้น 2 ปี ดังนั้น ถ้าหากจะไปเล่นการเมืองท้องถิ่นได้เลย ไม่มีข้อยกเว้น ไม่มีข้อห้าม"

"ในชีวิตให้เป็น สว.ได้ครั้งเดียว แต่ขีดเส้นใต้ สนช.ยังเป็นได้อีก"

แสดงว่าต้องมีรัฐประหารใช่หรือไม่ "กิตติศักดิ์" หัวเราะก่อนระบุว่า "ไม่ทราบ แต่ตามกฎหมายไม่ห้ามเป็น สนช.อีก"

ล้วงลึก สว.ตัวตึง \'กิตติศักดิ์ รัตนวราหะ\'  วิเคราะห์แผน 2 ลุงรีเทิร์น?