'วิโรจน์' ปัดเพิกเฉย ปมผู้ช่วย สส.ก้าวไกล ต้องคดีอุ้ม-เรียกค่าไถ่

ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณีที่นายบรรณสิทธิ์ วงษ์นาค ผู้ช่วยนายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคก้าวไกล ถูกจับกุมในข้อหากรรโชกทรัพย์ ว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่ผู้ช่วย สส. แต่เป็นทีมอาสาของนายเชตวัน ทั้งนี้กรณีที่เกิดขึ้นเป็นพฤติกรรมของบุคคลๆ นั้น โดยนายเชตวันไม่มีส่วนร่วม อย่างไรก็ประเด็นดังกล่าวพรรคต้องสืบสวนสอบสวน ถ้าเกิดทำจริง ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกภาพของพรรคทุกตำแหน่งและหน้าที่ 

"ขณะนี้ยังไม่ต้องตั้งคณะกรรมการ เพราะกรรมการบริหารพรรคและกรรมการวินัยของพรรค อาจตรวจสอบได้รวดเร็ว ไม่ต้องตั้งคณะกรรมการให้ล่าช้า" นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายเชตวันถูกสังคมตั้งคำถามถึงการสื่อสารซึ่งมีเพียงแค่การโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก แต่ไม่มีการชี้แจง นายวิโรจน์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างที่นายนายเชตวันสืบสวนข้อเท็จจริง ต้องดูว่าข้อเท็จจริงคืออะไร มีความเสียหายเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ทำมากี่ราย ทางพฤติการณ์พฤติกรรมเป็นอย่างไร เบื้องต้นต้องให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าพอสังคมออกมาวิพากษ์วิจารณ์ ต้องด่าเสริมด่าซ้ำทันที  ทั้งนี้ยืนยันว่า กระบวนการตรวจสอบไม่ล่าช้า ตรงไปตรงมาแน่นอน หากพบว่าจริง ก็จัดการ เข้าใจว่านายเชตวันน่าจะจัดการด้วยตัวเองไปแล้วด้วย ส่วนพรรคก็ตรวจสอบต่อว่า มีความเกี่ยวพันโยงใยกับนายเชตวันหรือไม่ 

เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการการแรงงาน เตรียมยื่นเรื่องให้สอบจริยธรรมนายสุเทพ อู่อ้น สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เพราะผู้ช่วยเรียกรับผลประโยชน์จากผู้ใช้แรงงานในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี นายวิโรจน์ กล่าวว่า "คณะกรรมการวินัยพรรค ในการสืบหาข้อเท็จจริง หากเป็นความจริงขึ้นมา เราไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องปกป้อง"

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการร้องเรียนพฤติกรรมผู้ช่วย สส.ของพรรคก้าวไกลจำนวนมากในกรณีเรียกรับผลประโยชน์ นายวิโรจน์ กล่าวว่า การคัดผู้ช่วย สส. ต้องให้สส.เป็นผู้พิจารณา ทั้งนี้พรรคกำชับว่า การคัดเลือกผู้ช่วย สส. ควรจะเป็นอย่างไร ถ้าจะให้พรรคเข้าไปแทรกแซงคัดคนให้ จะกลายเป็นแทรกแซงอำนาจของ สส.  อีกทั้งต้องหาจุดพอดี ที่มีความรัดกุม เพราะถ้าเกิดปัญหาขึ้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบลำดับแรกคือ ตัว สส.เอง แล้วต่อมาจะกระทบกับพรรค 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศที่ กมธ.การทหาร สภาผู้แทนราษฎร นายเชตวันได้ลงชื่อเข้าประชุมปกติ โดยไม่ให้สัมภาษณ์แต่อย่างใด ขณะที่ทีมงานแจ้งว่า ประเด็นเรื่องนี้จบไปแล้ว เนื่องจากตัวคดีอาญานั้น ตัวของทีมงานคนดังกล่าวได้ถูกจับกุมไปแล้ว ดังนั้นจึงยังไม่มีความเห็นในเรื่องนี้.