โจทย์หิน ‘นายใหญ่’ฝ่าการเมือง ฟื้นเศรษฐกิจ ขีดอนาคต พท.

โจทย์หิน ‘นายใหญ่’ฝ่าการเมือง ฟื้นเศรษฐกิจ ขีดอนาคต พท.

“เศรษฐา” ที่ต้องแบกรับความคาดหวังของรัฐบาลในตอนนี้ กับผู้มากบารมี หรือVIP1 กำลังช่วยปูทางให้ “เพื่อไทย” คัมแบ็กในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผลลัพธ์หรือความสำเร็จ ดูเหมือนยังไม่มีใครมองเห็นชัดเจนเท่า “ทักษิณ”

Key Points

  • ยี่ห้อเพื่อไทย ที่มักสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ ถึงเวลานี้กลับต้องพิสูจน์ฝีมือให้เห็นกันอีกครั้ง เมื่อสถานการณ์ในประเทศรุมเร้า แถมยังมีปัจจัยการเมืองกดดัน
  • สูตรสำเร็จตั้งแต่ยุคไทยรักไทย หลายวิธีการถูกนำมาใช้ในขณะนี้ แต่ผลลัพธ์อาจจะยังแตกต่างกันอยู่ โดยเฉพาะในมุมที่เกี่ยวข้องกับตัวผู้นำ
  • นายใหญ่หนีไม่พ้นความท้าทาย ที่ต้องจัดการปัญหาสำคัญ เพื่อเป็นบันไดพาเพื่อไทยกลับมาผงาดในการเลือกตั้งอีกครั้ง 

การขึ้นมามีอำนาจของพรรคเพื่อไทยเวลานี้ ไม่ง่ายเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะมักเจอมรสุมทางการเมืองรุมเร้า จนมีเหตุให้ต้องเป็นไป

เพื่อไทยวันนี้กับบทบาทแกนนำรัฐบาล ก็ใช่จะเจองานง่าย ปัจจัยการเมืองและ เศรษฐกิจ กำลังรุมกระหน่ำอย่างหนักหน่วง

นโยบายที่แกนนำรัฐบาลหวังสร้างจุดเปลี่ยน เพื่อกอบกู้วิกฤติศรัทธาจากประชาชน เนื่องจากเคยพลิ้วใส่ก้าวไกล ด้วยการสลับขั้วไปจัดตั้งรัฐบาลกับเครือข่าย 3 ป. ที่อยู่ในอำนาจยาวนาน หลังรัฐประหารหลายโครงการสำคัญของรัฐบาล ยังเดินๆ หยุดๆ ทำไปแก้ไป

ท่ามกลางปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ ที่ฝ่ายค้านเริ่มฉกฉวยมาโจมตี ว่าราคาข้าวของแพงทั้งแผ่นดิน รายรับสวนทางรายจ่าย

ไหนจะตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวขั้นสุด ตลาดหุ้นไทยโดนทุบทิ้งดิ่งชนิดที่ยังไม่รู้จะหาจุดกลับตัวตรงไหนอย่างไร ความเชื่อมั่นทางการเมือง ส่งผลกระทบเต็มๆต่อความถดถอยของหุ้นไทย

ยังไม่นับปัจจัยการเมือง ความนิยมในตัวผู้นำ อย่างเศรษฐา ทวีสิน และเพื่อไทย รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาล ที่ต่างกำลังรอความหวังให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้น

ยี่ห้อเพื่อไทยก่อนหน้านี้ ถูกผูกโยงกับความเชื่อมั่น จนตามมาด้วยความคึกคักทางเศรษฐกิจ แต่ชั่วโมงนี้ดูเหมือนกำลังเจอความท้าทายแบบที่คิดไม่ถึง อาจจะด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่แม้จะติดบ่วงคดี ม.112 ก็ดูจะไม่ได้เป็นปัญหาต่อการเคลื่อนไหวกวาดต้อนกลุ่มการเมืองบ้านใหญ่หลายจังหวัด

สูตรสำเร็จสมัยที่เคยใช้ได้ผลในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย กำลังถูกนำมาใช้อีกครั้ง พ.ศ.นี้

ก่อนหน้านี้ก็เห็นได้จากตัวของเศรษฐา ที่พยายามหาคอนเทนต์มาลงโซเซียลมีเดียส่วนตัว รวมถึงการลงพื้นที่ถี่ยิบ ขึ้นเหนือล่องใต้ สั่งการโน่นนี่เต็มไปหมด

กลยุทธ์การทำให้ตัวเองอยู่ในพื้นที่สื่อหรือพื้นที่สาธารณะ เพื่อให้คนผ่านหูผ่านตามากที่สุด วิธีการอาจไม่ต่างจากยุคทักษิณ ที่ประสบความสำเร็จในการนำมาร์เก็ตติ้งมาใช้กับการเมือง จนเกิดความนิยมในตัว แต่ปัจจุบันผลลัพธ์อาจแตกต่างออกไป

ความต่างอีกอย่างในวันนี้คือ บริบทการเมืองเป็นรัฐบาลผสม ทำอะไรได้ไม่เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหมือนสมัยไทยรักไทย หลายอย่างจึงไม่ราบรื่นเท่าอดีต ความพยายามจับบ้านใหญ่มาดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน จึงกำลังปรากฎให้เห็นเพื่อแก้ปัญหาตรงนี้

ทว่า ก็อาจไม่ง่ายเหมือนเก่า บางกลุ่มการเมืองที่เคยอยู่กับทักษิณ รู้ถึงสไตล์การบริหารการเมืองเป็นอย่างดี การจะกลับไปอีกครั้งก็มีอะไรให้ต้องคิดเยอะ การแยกกันเดินร่วมกันตี มาจับมือกันทีหลัง อำนาจต่อรองอาจจะมากกว่าการไปร่วมชายคาโดยตรง

อีกทั้งพรรคร่วมฯ บางพรรค เป็นตัวตัดคะแนนเพื่อไทยในภาคกลางและอีสาน และถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้นมา ปรากฎการณ์ถ่ายเลือดเข้าค่ายนายใหญ่ก็อาจไม่เกิด จนแผนควบรวมบ้านใหญ่อาจสะดุด

แถมเกมเขี่ยพรรคพลังประชารัฐให้พ้นความเป็นพรรคร่วมฯ มีเราไม่มีลุง โดยที่ 40 สส.ของพรรค ยังมีสถานะเป็นรัฐบาล เป็นอีกเกมเดินแรงของผู้มากบารมีในรัฐบาล ที่กำลังกระตุกหนวดคนบ้านในป่า ที่วันนี้จะดูโรยรา แต่ก็ประมาทเขี้ยวเล็บไม่ได้เด็ดขาด

ลูกพรรคกลุ่มก๊วนบ้านใหญ่ค่ายลุงป้อม ซึ่งผู้มากบารมีหมายตาดึงมาอยู่ด้วย กำลังตกอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ไม่รีบร้อนออกตัวหรือทำท่าพร้อมเปลี่ยนนายใหม่ ขืนเดินพลาด มีหวังโดนเปิดแผลจนหลังเหวอะหวะได้

เพราะอิทธิฤทธิ์ของคนบ้านป่า ที่เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ก็ไม่มีใครกล้าลองของ ยกเว้นคนที่ไม่มีอะไรจะเสีย คนที่กล้าเห็นจะมีอยู่คนเดียวก็คือคนที่พาดพิงว่าคนบ้านในป่า เป็นตัวการทำการเมืองวุ่นวายนั่นเอง

ลำพังเศรษฐา ที่ต้องแบกรับความคาดหวังของรัฐบาลในตอนนี้ กับผู้มากบารมี หรือVIP1 กำลังช่วยปูทางให้เพื่อไทยคัมแบ็กในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ผลลัพธ์หรือความสำเร็จดูเหมือนยังไม่มีใครมองเห็นชัดเจนเท่าทักษิณ