คำฟ้อง 'ทักษิณ' อัยการเอาผิดคดี ม.112 ชี้กระทำให้ประชาเสื่อมศรัทธาสถาบัน
เปิดคำฟ้อง 'ทักษิณ' อัยการเอาผิดคดี ม.112 - พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ชี้กระทำระคายเคือง ประชาเสื่อมความศรัทธาต่อสถาบัน
ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาได้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กรณีให้สัมภาษณ์กับเดอะโชซอนมีเดีย (The ChosunMedia) ของเกาหลีใต้เมื่อปี 2558 มีเนื้อหาพาดพิงสถาบัน มายื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลอาญา
โดยคำฟ้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า ขณะเกิดเหตุในคดีนี้ และในปัจจุบัน ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะผู้ใดจะละเมิดหรือจะกล่าวหาหรือจะฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยพระมหากษัตริย์ขณะเกิดเหตุคดีนี้คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9
ส่วนพระมหากษัตริย์รัชกาลปัจจุบันคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาล 10 เมื่อระหว่างวันที่ 21-22 พ.ค.2558 ทั้งเวลากลางวัน และเวลากลางคืนต่อเนื่องกันตลอดมา จำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญา ด้วยการร่วมกันใช้อุปกรณ์ที่มีระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อการทำงานเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์อื่นด้วยกันได้ และอุปกรณ์ดังกล่าวได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ แล้วโพสต์ข้อมูล ภาพ ข้อความ และตัวอักษร ที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ ซึ่งตั้งค่าเปิดเป็นสาธารณะ ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ลงในแอปพลิเคชัน YouTube กับแอปพลิเคชัน Facebook ดังกล่าวผ่านระบบสัญญาณอินเทอร์เน็ตซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)
จำเลยได้พูดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เป็นภาษาไทย เมื่อวันที่ 20 พ.ค.โดยสำนักข่าว Chosun Media มีเว็บไซต์ข่าว Ur:http//www.Chosun เพื่อใช้ในการเผยแพร่ข่าว และจำเลยกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องได้บังอาจร่วมกันนำคลิปวิดีโอถ้อยคำ การพูดให้สัมภาษณ์ของจำเลยในชื่อ ” คลิป ทักษิณให้สัมภาษณ์ทิ้งบอม เบื้องหลัง ยึดอำนาจ อัดสุเทพ บิ๊กทหาร องคมนตรี “เผยแพร่ที่เว็บไซต์ YouTube
โดยใช้ชื่อ unthttps:// www.youtube.com/watch?v=tar/yCmbvABgo โดยผู้ที่ใช้ชื่อว่า “news_vivความยาว 1.32 นาที และเผยแพร่ที่เว็บไซต์ facebook ชื่อบัญชี “หยุดดัดจริตประเทศไทย” ปรากฏตาม ur!: https://www.focebook.com/ stopfakethailand 2fref=ts
อันเป็นการล่วงละเมิด หมิ่นประมาทดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้าย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งประชาชนหรือบุคคลทั่วไปที่พบเห็นข้อมูล ข้อความ และตัวอักษรที่จำเลยได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวของสำนักข่าว Chosun Media ในกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลีดังกล่าวเข้าใจว่าสื่อถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และเข้าใจว่าการยึดอำนาจ รัฐประหารเป็นเรื่องที่ทหารได้รับคำสั่งมาจากในวังพระมหากษัตริย์ออกมาช่วยในการทำรัฐประหาร และอยู่เบื้องหลังการทำรัฐประหาร
ทั้งนี้ ราชอาณาจักรไทยมีการปกครองระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ข้อความดังกล่าวเป็นการมุ่งทำลาย ดูหมิ่นด้วยการใช้ถ้อยคำหยาบคายต่อองค์พระมหากษัตริย์ด้วยความไม่เคารพต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศรัทธา และเคารพบูชาของประชาชนชาวไทยเป็นเหตุให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสียพระเกียรติยศชื่อเสียง และเป็นการร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาไม่เคารพต่อองค์พระมหากษัตริย์ซึ่งอยู่ในฐานะที่ผู้ใดจะละเมิดไม่ได้
และเป็นการกระทำมิบังควรจาบจ้วงล่วงเกินดูหมิ่น หรือกระทำให้ระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 โดยประการที่น่าจะทำให้พระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 ทรงเสื่อมเสีย พระเกียรติยศ ชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง และทำให้ประชาชนเสื่อมความเคารพศรัทธาต่อพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 9 อันเป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายเหตุเกิดที่ เมืองกรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และที่แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร และทั่วราชอาณาจักร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์